“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยประธานสโมสรและตัวแทนทีมในไทยลีก 1 ได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วในเรื่องการของการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาลใหม่ 2023-2024 โดยสมาคมฯ มอบสิทธิให้สโมสรไทยลีก 1 นำสัญญาณไปถ่ายทอดสดด้วยตัวเอง ตามเงื่อนไขที่สมาคมฯ กำหนด
ก่อนหน้านี้สมาคมฯ ติดขัดเรื่องปัญหาการเงิน และมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1 ที่ลดฮวบจาก 1,050 ล้านบาท เหลือแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น จึงทำให้มีการเสนอแนวคิดที่จะให้ทั้ง 16 ทีมในไทยลีก 1 ออกมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโมเดลคล้ายกับที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยทำมาแล้ว
แต่ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ได้ข้อสรุปว่าจะยังไม่มีการแยกตัวออกไปตั้งบริษัทใหม่ แต่สมาคมฯ จะให้ทั้ง 16 ทีม ส่งตัวแทนเข้ามานั่งเป็นกรรมการ บริษัท ไทยลีก ด้วยตัวเองเพื่อร่วมกันวางแผน วางนโยบาย ตัดสินใจ และบริหารจัดการเงินต่างๆ และหากสโมสรใดมีข้อสงสัย อยากสอบถาม อยากตรวจสอบ ก็สามารถทำได้ ขอเพียงแค่ส่งคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน และมีอำนาจในการตัดสินใจ
ส่วนรูปแบบการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023-2024 สมาคมฯ จะมีหน้าที่จัดการแข่งขัน พร้อมทั้งสร้างสัญญาณการถ่ายทอดสด แล้วให้สิทธิสโมสรนำเอาสัญญาณนั้นไปถ่ายทอดสดตามช่องทางต่างๆ ได้อย่างอิสระเสรี
7 ข้อสรุปเรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023-24 มีดังนี้
- สมาคมฯ ยืนยันดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพระดับ ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 และฟุตบอลถ้วยตามโปรแกรมที่ได้กำหนดไว้โดย บริษัท ไทยลีก จำกัด
- สมาคมฯ ยืนยันจะผลิตสัญญาณถ่ายทอดสด และใช้ VAR ในการตัดสินการแข่งขันระดับไทยลีก 1 ครบทุกคู่ สำหรับไทยลีก 2 ไทยลีก 3 และฟุตบอลถ้วย จะมีการถ่ายทอดสดตามเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ของผู้สนับสนุน
- ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน สมาคมฯ ยินดีมอบให้สโมสรไทยลีก 1 เป็นผู้นำสัญญาณไปถ่ายทอดในช่องทางของสโมสรหรือนำไปเผยแพร่เพื่อสร้างรายได้ในการสนับสนุนสโมสรตามเงื่อนไขที่สมาคมฯ กำหนด
- สมาคมฯ เห็นด้วยในหลักการจัดตั้งองค์กรบริหารฟุตบอลไทยลีก 1 ซึ่งจำเป็นต้องทำการศึกษาเรื่องโครงสร้างการบริหาร ระเบียบ และข้อบังคับทางกฎหมาย ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอให้สโมสรเข้ามานำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจโดยละเอียดต่อไป
- สมาคมฯ ขอเชื้อเชิญให้ผู้แทนของทั้ง 16 สโมสรเข้ามาร่วมเป็นกรรมการบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อร่วมตัดสินใจในการพัฒนาฟุตบอลลีกอาชีพร่วมกัน
- สมาคมฯ จะดำเนินการมอบเงินสนับสนุนสโมสรฤดูกาล 2022/23 ที่ผ่านมา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
- ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ สมาคมฯ ยังคงนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดต่อเนื่องจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา
การประชุมในครั้งนี้มีประธานสโมสรและตัวแทนจากไทยลีก 1 เข้าร่วม ประกอบด้วย
- เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
- นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี
- วีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสโมสรชลบุรี เอฟซี
- ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี
- รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด
- นิติพงษ์ ยวนตระกูล ผู้อำนวยการกีฬาสโมสรลำพูน วอริเออร์
- มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
- สุรเดช อนันทพงศ์ ผู้จัดการทีมสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
- ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี
- วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด
- วรากรณ์ บีโอนดี ผู้จัดการทั่วไปโมสร อุทัยธานี เอฟซี
- สิรภพ ตรีเนตร ผู้จัดการทั่วไปสโมสรสุโขทัย เอฟซี
- ชนะพงษ์ ศรีคงอยู่ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ตราด เอฟซี
- พิมพ์ชาญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีมนครปฐม ยูไนเต็ด
- พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้อำนวยการสโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี
สมาคมฯ ยืนยันสนับสนุนฟุตบอลไทยทั้งระบบ ไม่ทอดทิ้ง
หลังการประชุม พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า ด้วยระยะเวลาก่อนที่จะเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่นี้ ผมในฐานะนายกสมาคมฯ และผู้นำขององค์กรขอให้คำมั่นที่จะพาฟุตบอลไทยเดินหน้าในช่วงเวลาที่ท้าทาย ในวันนี้ผมขอยืนยันว่าการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกจะดำเนินการแข่งขันตามกำหนด สมาคมฯ จะรับผิดชอบในการผลิตสัญญาณถ่ายทอดสด โดยแฟนบอลจะได้รับชมการแข่งขันไทยลีกอย่างแน่นอน
สมาคมฯ ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนการแข่งขันของสโมสรในลีกล่าง คือ ไทยลีก 2 ไทยลีก 3 ฟุตบอลลีกสมัครเล่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันอย่างเต็มที่ รวมถึงโครงสร้างโดยรวมของฟุตบอลไทยไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทยชาย และหญิง ทุกรุ่นอายุ ฟุตบอลลีกเยาวชน กิจกรรม grassroots ฟุตซอล ฟุตบอลชายหาด วิทยาศาสตร์การกีฬา
รวมถึงการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องไม่ทอดทิ้งส่วนใด เพราะถือว่าเป็นรากฐานที่จำเป็นในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่าง มั่นคง ยั่งยืน และถาวรต่อไปในอนาคต
สำหรับเรื่องการบริหารไทยลีก 1 โดย 16 สโมสรของลีกสูงสุด ทางสมาคมฯ เห็นด้วยในหลักการ หากเป็นผลดีกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งสโมสรสามารถเข้ามาร่วมเป็นกรรมการบริหารของ บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อให้มีอำนาจบริหารกิจกรรมการแข่งขันได้ทันที ในระหว่างที่ทั้ง 16 สโมสรกำลังพิจารณาจัดตั้งโครงสร้างขององค์กรใหม่ที่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับของสมาคมฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย
ทุกทีมตกใจ อยู่ในวงการฟุตบอลไทยมา 9 ปีเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า สถานการณ์มันดำเนินมาถึงทางตัน แต่ก็ยังมีนิมิตหมายดีที่ทั้ง 16 ทีมเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ทางไทยลีกจะมาหาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกันเอง โดยแฟนบอลแต่ละสโมสรจะได้ดูทุกคู่แข่งขันกันแน่นอน แต่จะผ่านทางฟรีทีวีหรือแพลตฟอร์มแอปฯ อะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องประชุมกันต่อไป
แต่ที่น่าดีใจนิดนึงคือ T2 และ T3 ทางสมาคมฯ ก็ยังจะให้เงินสนับสนุนอยู่ แต่เป็นจำนวนเท่าไรไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับทางสมาคมฯ แต่แป้งคิดว่าฟุตบอล T2 และ T3 เป็นรากฐานฟุตบอล และสร้างนักกีฬาให้ขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย ซึ่งทุกภาคส่วนเกี่ยวโยงกันทั้งหมด ดังนั้นคงจะไม่มีใครที่ถูกทิ้งไว้
ต้องยอมรับว่าทุกทีมก็มีความตกใจ เพราะอย่างตัวแป้งเองมาทำการท่าเรือและอยู่ในสโมสรอาชีพเป็นปีที่ 9 แล้ว ก็ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่คิดว่าก็ต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็คงจะต้องเดินต่อไปให้ได้
แป้งอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมานาน มันก็ใจหาย และก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่มันก็อาจจะมีแสงสว่างท่ามกลางวิกฤตเสมอ
16 ทีมไทยลีกขอเจรจาฟรีทีวีหรือแอปฯ เพื่อนำรายได้มาหารให้เท่ากัน
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า โดยส่วนใหญ่ก็จะรวมกันไว้ก่อน เท่าที่ผมก็ฟังจากหลายๆ ทีม อย่าง เมืองทองก็จะไปด้วยกัน เราเข้าใจว่าท่าเรือ, บีจี หรือ บุรีรัมย์ อาจจะเรตติ้งดี ถ้าไปเจรจาถ่ายทอดสดเองก็อาจจะเป็นปัญหาต่อภาพรวมได้ จึงตกลงว่าจะคุยกันก่อน อาจจะมารวมกันแล้วก็ไปเจรจาเป็นแพ็คเดียวทั้ง 16 ทีม
หรือจำนวนทีมเท่าที่มีการตกลงจะเดินไปด้วยกัน ทุกอย่างก็จะมากองรวมกันมาเฉลี่ยให้เท่ากันทุกทีม ในเรื่องของรายได้เพื่อทีมใหญ่จะได้ช่วยทีมเล็ก
หลักการก็คือตอนนี้สมาคมฯ มีสปอนเซอร์ที่เป็นรายได้ส่วนหนึ่งของลีกอยู่แล้ว และไปใช้จัดการแข่งขันส่วนหนึ่ง ไปบริหารจัดการในการดูแลทีม T2 และ T3 ให้มีการแข่งขัน และมีเงินหนุนบางส่วน
แต่ในส่วนของไทยลีก 1 สมาคมฯ จัดการแข่งขัน เตรียมทุกอย่างให้พร้อม มีโอบีไปทำสัญญาณถ่ายทอดสดให้ แต่ให้สโมสรหารายได้เอง ไม่มีเงินหนุนให้ เอาสิทธิประโยชน์จากการถ่ายทอดสด, คอนเทนต์, ไฮไลท์, รีรัน มาแทนเงินอุดหนุน
แม้จะให้สิทธิมา เราก็ไม่อยากให้เกิดปัญหากับทีมที่ไม่พร้อม ซึ่งเราจึงรวมตัวไปเจรจารวมกันไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี หรือแอปพลิเคชันไหนก็ตาม เพื่อเอารายได้รวมกันมาหารให้เท่ากันในทีมไทยลีก 1
เรื่องการถ่ายทอดสดไม่น่ามีปัญหาเพราะถ้ามีสัญญาณถ่ายทอดสดมา เลวร้ายที่สุดหากไม่ทันก็คือถ่ายทอดสดยูทูบของสโมสร เพราะทุกทีมมีช่องยูทูบของตัวเองอยู่แล้ว สามารถนำไปสร้างรายได้ให้ตัวเองได้
ในปีนี้ถือเป็นบททดสอบที่ได้ลองบริหารกันเอง ไม่ถึงแยกตัวอออกมา ซึ่งเรื่องนี้นายกสมาคมฯ แจ้งว่าให้สโมสรส่งตัวแทนมานั่งกรรมการไทยลีกแทน เพื่อดูรายละเอียด ศึกษากัน ก่อนจะนำไปสู่ว่าระบบไหนดีกว่ากัน