สร้างความฮือฮาให้กับแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก หลังจาก “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ออกอาวุธเด็ดปล่อยลูกเตะซ้ายเข้าไปที่ต้นขาขวาของ จามาล ยูซูพอฟ ผู้ท้าชิงจอมเก๋าชาวตุรกี วัย 39 ปี ในศึก “ONE FIGHT NIGHT 7” จนไม่สามารถยืนชกต่อได้ ก่อนที่จะพ่ายเทคนิเกิลน็อคเอาท์ไปในยกแรก ด้วยเวลาเพียงแค่ 49 วินาทีเท่านั้น

ชัยชนะในไฟต์นี้ทำให้ ตะวันฉาย ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และรับโบนัสก้อนโต 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท) จาก ชาตรี ศิษย์ยอดธง บิ๊กบอส วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งยังไม่รวมกับเงินค่าตัวที่เขาได้รับอีก 4 ล้านบาท

ตะวันฉาย เตะเข้าต้นขาขวา ชนะน็อคในเวลาแค่ 49 วินาที
ตะวันฉาย เตะเข้าต้นขาขวา ชนะน็อคในเวลาแค่ 49 วินาที

หลังการชก ตะวันฉาย เปิดใจว่า “ไฟต์นี้ผมซ้อมหนักถึง 3 เดือน รู้สึกกดดันและเครียดจนนอนไม่หลับเป็นอาทิตย์เลย คืนก่อนชกก็นอนไม่หลับเลย เพราะว่าผมไม่อยากให้ตัวเองหรือว่าใครๆ ต้องผิดหวัง แต่ผมก็ไม่ได้บอกใคร ผมไม่คิดเลยว่าไฟต์นี้จะจบเร็วขนาดนี้ เพราะว่าผมซ้อมมาตั้งเยอะ ก็อยากจะโชว์สเต็ปให้มันมากกว่านี้”

นอกจากนี้นักชกวัย 23 ปี ยังบอกด้วยว่า หลังจากนี้อยากจะลองข้ามไปชกกติกาคิกบ็อกซิ่งดูบ้าง เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งความฝันของตัวเองที่จะมีเข็มขัดแชมป์พาดอยู่บนไหล่ทั้ง 2 ข้าง

ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต

FEED ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จัก ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ให้มากขึ้น และขอบอกเลยว่าหากคุณอ่านบทสัมภาษณ์นี้จบแล้ว เราเชื่อเหลือเกินว่าคุณจะหลงรักและประทับใจนักชกหนุ่มหน้าตี๋คนนี้อย่างแน่นอน

ชีวิตลำบากตั้งแต่เด็ก กิจการครอบครัวเจ๊ง ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน

ตะวันฉาย : สวัสดีครับผม ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา ครับ ชื่อเล่นกันต์ครับ ปีนี้อายุ 24 ปีครับ เป็นนักมวยของค่ายมวยพี.เค.แสนชัยมวยไทยยิมครับ ชื่อ ตะวันฉาย พี.เค.ครับ

ตอนเด็กๆ ผมค่อนข้างที่จะเกิดมาในช่วงที่สบายหน่อย พ่อทำงานเกี่ยวกับสปีดโบ๊ท มีธุรกิจทำทัวร์ที่เกาะล้านครับ พอผมอายุประมาณ 6-7 ขวบ พ่อก็ขายทุกอย่างทิ้ง เพราะกิจการเจ๊งครับ ล้มหมดครับ เพราะว่าเกิดมาในช่วงที่พ่อแย่แล้ว ขายรถ ขายบ้าน ขายเรือ ขายอะไรทุกอย่าง จนไม่เหลืออะไรเลยครับ เหลือมอไซค์คันเดียวและไม่มีที่อยู่ครับ

ตะวันฉายกับคุณพ่อ
ตะวันฉายกับคุณพ่อ

มันแย่มากครับ ไม่มีบ้านที่จะอยู่ บางคนยังมีบ้านอยู่ แต่ผมไม่มีบ้านอยู่เลยครับ ช่วงนั้นพ่อเริ่มแย่แล้ว พ.ศ.อะไรไม่รู้ ที่ต้มยำกุ้ง (2540) ธุรกิจอะไรหลายๆ อย่างก็ไม่มีแขก ไม่มีอะไรทำ ไม่มีแขกมาเที่ยวที่เกาะล้านครับ ก็เลยต้องขายทีละอย่าง แล้วก็ให้เงินเดือนลูกน้องหมด

ตอนแรกก็ไม่ได้หัดมวยหรอกครับ ก็อยู่กับพ่อ ไปทำงาน ไปไหนก็ไปกับพ่อ ไปเรียนบ้าง แล้วเสาร์อาทิตย์จะไปลงเรือกับพ่อ ไปส่งแขกอะไรอย่างนี้

เริ่มมารู้ทีหลังตอนที่เริ่มโตมา พ่อขายเรือทีละลำ ขายเจ็ทสกีทีละลำ ขายร้านอาหารที่เกาะล้านหมดเลย แล้วก็ขายทุกอย่างจนเหลือเรือลำเดียวตอนอายุ 6 ขวบ พอ 7 ขวบก็ขายบ้าน แล้วก็มาอยู่ห้องเช่าเล็กๆ

ลำบากมากครับ อยู่กับพ่อ 2 คน ลำบากมากๆ จนไม่รู้จะพูดยังไง บางทีก็เคยแย่จนแบบไม่มีตังค์กับพ่อ 2 คน เหลือตังค์ไม่กี่บาท เหลือตังค์อยู่ร้อยเดียวในกระเป๋ากับพ่อ 2 คนครับ พ่อก็ให้เรากินก่อน อิ่มก่อนครับ มันลำบากมากขนาดนั้นเลยครับ

ตะวันฉาย กล่าว

ต่อยมวยแล้วได้ตังค์กินขนม ชกไฟต์แรกได้ทิปจากฝรั่ง 700 บาท

ตะวันฉาย : ก็มีครูมวยคนหนึ่งที่เขาเป็นเหมือนพ่อคนที่ 2 เขาเป็นคนชุบเลี้ยงผมขึ้นมาครับ ก็ให้โอกาส ให้วิชามวย ให้วิชาในการดำเนินชีวิตครับ ก็ทำให้ผมหันมาชอบมวย แล้วก็ต่อยมวยเป็นอาชีพครับ

ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย แค่ไปซ้อมมวยกับเพื่อนแล้วมีความสุขอะไรแบบนี้ พอไปต่อยแล้วได้ตังค์ มีตังค์ซื้อขนม เออมันก็แบ่งเบาภาระพ่อได้นะ ซื้อของซื้ออะไรเองได้ ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ แล้วก็ต่อยไปเรื่อยๆ จนมีชื่อเสียงขึ้นมา คิดแค่ว่าอาชีพนี้น่าจะเหมาะกับเราไหม ก็เลยลองดูสักตั้งหนึ่งครับ

จริงจังน่าจะตอนที่เข้ากรุงเทพฯ อายุประมาณ 14 ปี ผมไม่มีเป้าหมายอะไรเลย คิดแค่ว่ามีแชมป์สักเส้นหนึ่ง ค่าตัวสัก 50,000 ก็ถือว่าสุดยอดของผมแล้ว คิดแค่นี้ครับ แต่ว่ามันก็มาเกินที่ฝันไว้ พอได้เท่านี้ปุ๊บ ก็ฝันๆ ขึ้นไปอีก

ชกไฟต์แรกที่จำได้คือต่อยแถวบาร์พัทยา เขาจะรู้เป็นบาร์ที่เปรียบคู่ชกกัน ต่อยกันเอง แบบเด็กๆ ไม่เป็นมวย ก็เตะเขาน็อคยกแรก ก็ได้ใจ ได้ทิปฝรั่ง ไม่มีค่าตัว ตอนนั้นไม่มีค่าตัว ถ้าฝรั่งไม่มี ก็ไม่ได้ตังค์ ได้ทิปมาประมาณ 700 บาท ได้เยอะมาก แล้วก็มาต่อยไฟต์ 2 ที่บางเสร่ ค่าตัว 200 บาทครับ แล้วก็ต่อยมาเรื่อยๆ ได้ตังค์กินขนมบ้างอะไรบ้างนิดๆ หน่อยๆ ครับ

ตอนแรกที่ต่อยในพัทยา ต่อยจนแบบไม่มีคู่ชกในพัทยา แล้วก็ไปต่อยแถวอีสาน เปลี่ยนชื่อไปต่อย (ชื่อเดิมคือ จตุคาม เพชรรุ่งเรือง) เพราะเขาจำชื่อเราได้ ก็ไปเปลี่ยนชื่อ ต่อยจนหมดแล้ว จนไม่มีคู่ชกแล้ว ก็เลยต้องเข้ากรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์รวมนักมวยที่เก่งที่สุด

ไฟต์แรกที่เข้าลุมพินี ก็พลิกชนะนักมวยที่เขาเก่ง และดังมากในช่วงนั้นที่ลุมพินี ตอนเด็กๆ ก็มีแววครับ มีคนมาทาบทาม โปรโมเตอร์ใหญ่โทรศัพท์มาว่าชวนให้ไปต่อยศึกเขาไหม มาต่อยศึกนี้ไหม โทรศัพท์มาหาป๊าผม มีคนสนใจเราเยอะนะอะไรแบบนี้

ความภูมิใจของตะวันฉาย เลือกเส้นทางชีวิต จากจุดเริ่มต้นที่ความลำบาก

ตะวันฉาย : ผมภูมิใจมากนะ ถ้าให้ผมเลือกกลับไปว่าถ้าพ่อผมเศรษฐกิจดี ไม่แย่ แล้วผมสบาย กับที่ผมลำบาก ผมเลือกลำบากนะ ผมยืนได้ด้วยตัวเอง ผมไม่ต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่ ผมทำด้วยตัวเอง มีชื่อเสียง มีอะไรอย่างนี้ ผมภูมิใจ ถ้าให้ผมเลือก ผมก็ยังมาทางนี้อยู่

ผมไม่มีความฝันเลยครับ ไม่มีอะไรเลยครับ ไม่ได้คิดอะไร ก็อยู่กับพ่อ 2 คน ไม่คิดอะไรครับ พอได้เข้ามาเป็นนักมวย ก็อยากเป็นแชมป์ธรรมดานี่แหละครับ ไม่มีความฝันอะไรอย่างคนอื่นเขาหรอกครับ

คือผมมีประสบการณ์บางทีเราแพ้หลายๆ ครั้งแล้วมีคนดูถูกผม คนที่รู้จักก็ดูถูกเราอะไรแบบนี้ เหมือนเราเคยรักกัน แต่มาดูถูกเรา ก็ทำให้เรามีแรงฮึกเหิม ที่ทำให้เราเปลี่ยนตัวเอง แบบเออเราทำได้นะ ดูถูกเราอย่างนี้ เอาแรงดูถูกมาเป็นแรงผลักดันให้เราครับ มันทำให้ผมเปลี่ยนตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้

ศึกษาคนเก่งๆ เพื่อพัฒนาฝีมือ และอนาคตของตะวันฉาย

ตะวันฉาย : ตอนที่ผมติดสัญญาที่อื่นแล้วรายการ ONE เขาทาบทามมา แล้วผมไปต่อยไม่ได้ ผมก็คิดนะ ถ้าผมได้มารายการ ONE ผมจะทำให้ทุกคนรู้จักชื่อผม ผมจะเป็นแชมป์โลกของ ONE ให้ได้ ผมตั้งปณิธานไว้แล้ว ในที่สุดผมก็ทำมันได้ มันก็ภูมิใจ เราก็อยากตั้งเป้าหมายอีก ก็คิดไว้แล้วในหัวว่าจะทำอะไรอีก แต่ยังไม่บอกตอนนี้

สามารถ พยัคฆ์อรุณ
สามารถ พยัคฆ์อรุณ

ตอนเด็กๆ ผมชอบมวยฝีมือ เช่น พี่สามารถ พยัคฆ์อรุณ, แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ผมชอบมวยฝีมือที่เขาเร็วๆ เก่งๆ แบบนี้ เราก็จะก๊อปปี้เขามา เราจะดูเขาตลอด

ผมเป็นคนชอบดูมวย ตอนเด็กๆ เราไม่เก่ง เราก็จะดู ก็จะศึกษาคนนี้ว่าเขาเก่งอะไร ผมนั่งดูวิดีโอทั้งวันเลยเมื่อก่อน นั่งดูคนเก่งๆ เขา แล้วก็มาทำให้เราพัฒนาขึ้น

ผมวางแผนการชกมวยคือน่าจะอีกนาน ผมว่าอีก 10 ปี ผมยังต่อยได้ คิดว่านะ เพราะผมไม่ใช่มวยบู๊ แล้วผมคิดไว้ว่าผมจะทำค่ายมวยที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา ผมคิดไว้อย่างนั้น อยากทำค่ายมวยเอง เพราะจะไปทำอย่างอื่นที่เราไม่ถนัด เราก็ไม่เก่งใช่ไหม ให้ไปขายกาแฟ ขายอะไร เราก็ไม่ถนัดใช่ไหม แต่ถ้าแบบสอนมวย เทคนิคมวย โอเคมาดิ ได้ รู้ทุกอย่าง

คือว่าผมต่อยแต่ละครั้งเนี่ย เขาจะมาดูผมชกเต็มเวทีเลย แฟนคลับผม ไม่ว่าจะเป็นเด็กอนุบาล เด็กป.1 ป.2 ยังมี คือมันน้อยมากที่จะมีเด็กที่เชียร์และดูมวย แล้วก็มีผู้ใหญ่ยันสูงอายุดูเราด้วย เรารู้สึกว่าเขาดูเราทุกวัยเลยนะ เขาชอบเรา มันก็ภูมิใจ

ฝากถึงแฟนคลับนะครับ ตอนนี้ก็ไม่ได้ต่อยไทย 5 ยกแล้ว มาต่อย 3 ยก ต่อย 5 ยก ONE ขอบคุณที่ยังติดตาม และเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณมากๆ ครับ ที่ยังซัพพอร์ตกัน ขอบคุณครับ

ตะวันฉาย กล่าวทิ้งท้าย

ที่มาฉายา “ซ้ายดารา”

สำหรับฉายา “ซ้ายดารา” มาจากการออกอาวุธเด็ดของตะวันฉาย คือลูกเตะซ้ายอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงตัวเขาเป็นนักมวยที่มีผิวขาวหน้าตาตี๋ไม่เหมือนกับนักมวยคนอื่นๆ แฟนมวยก็เลยตั้งฉายาให้ว่า “ซ้ายดารา” ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเคยได้รับฉายาว่า “ซ้ายเพอร์เฟกต์” มาแล้วครั้งหนึ่ง

เด็กฝั่งธนฯ ที่บ้านเลี้ยงแมว 2 ตัว เชียร์ทีมชาติไทย ชอบสะสมหุ่นจำลอง แต่ยังไม่ได้แกะออกมาจากกล่องสักที!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก