การแข่งขันมวย “ONE ลุมพินี” เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 4 แล้ว โดยคู่เอกคืนวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 มวยไทยรุ่นฟลายเวต (135 ป.) “ดวงสมพงษ์ จิตรเมืองนนท์” นักมวยจอมบู๊ ปะทะ “แบทแมน อ.อัจฉริยะ” มวยฝีมืออาวุธครบเครื่อง ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะกันและกันได้ เพื่อคว้าโบนัสอัดฉีด 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 แสนบาท) มาครองให้ได้
ส่วนคู่รองของรายการเป็นการดวลกันระหว่าง “มงคลแก้ว ส.สมหมาย” มวยเข่ามากประสบการณ์ เตรียมรีแมตช์เดือดกับ “เพชรเมืองศรี ทีเด็ด99” นักมวยหนุ่มจอมบู๊ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มงคลแก้ว ที่เป็นรองจัดการล็อกคอไล่ตีเข่า เพชรเมืองศรี ในช่วงปลายยก 4 จนพลิกสถานการณ์กลับมาชนะคะแนนหลังครบ 5 ยก จนกลายเป็นอีกคู่มวยที่แฟนๆ เรียกร้องให้จัดภาค 2 เพื่อพิสูจน์ฝีมือกันอีกครั้ง
เรียกได้ว่าเข้มข้นทุกสัปดาห์สำหรับมวยศึก ONE ลุมพินี ทางช่อง 7HD ทุกคืนวันศุกร์เวลา 20:30 น.
“เปรม อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์” กรรมการผู้จัดการ ONE Championship ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับ FEED โดยระบุว่า วัตถุประสงค์หลักของการจัดศึก ONE ลุมพินี เพื่อมุ่งมั่นพลิกฟื้นวงการมวย พร้อมยกระดับให้เป็นศูนย์รวมการแข่งขันมวยไทย รวมทั้งสร้างนักกีฬาฮีโร่ให้เป็นขวัญใจคนทั้งประเทศ
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ : ผมมองว่ากีฬามวยมันดีได้กว่านี้แน่นอน คือมันเป็นกีฬาของคนไทยนะ มันเป็นสิ่งที่ทุกคน คนข้างนอก หรือพวก international เขานับถือมวยไทยมาก ชอบมวยไทยมาก รักมวยไทยมาก หลายๆ คนยอมเลิกงานแล้วมาเป็นนักมวย คือมันมีเสน่ห์อะไรอยู่แล้ว แต่กับคนไทยยังไม่ค่อยได้เห็นคุณค่าของมันมาก
มวยไทยแต่ก่อนถ้าให้พูดเลยว่าคนยังมองว่าเป็นวงการมาเฟีย วงการพนัน วงการอิทธิพล แต่สมัยนี้มันเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งพวกนี้มันก็ยังทำให้ภาพพจน์ของมวยไทย มันยังไม่ดีขึ้นเท่าไร ถ้าให้พูดจริงๆ ความคิดของคนยังไม่กล้าคิดออกนอกกรอบ
ชาตรี ศิษย์ยอดธง เป็นคนพูดจริงทำจริง ไม่ต้องการมีชื่อเสียงหรือเอาหน้า
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ : พี่ชาตรีเป็นคนที่จริงใจ สิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่าความซื่อสัตย์ต้องมาที่ 1 ก่อนในระบบการทำงานของพี่ชาตรี เขาเป็นคนที่พูดจริงแล้วก็ทำจริง เขามี mindset ที่ว่าถ้าเขาอยากจะทำอะไร ทำเพื่อประโยชน์อะไร เขาทำให้เต็มที่ เขาทุ่ม 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าดี
เขามามอบโอกาสแรกๆ เลยให้กับนักกีฬาคนไทย เรายังไม่เห็นเลยนะที่ใครจะมาช่วยวงการมวยไทยได้ขนาดนี้ พี่ชาตรีไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียง หรือว่าเอาหน้าอะไร เขาทำเพื่อนักกีฬาคนไทยและประเทศ เพราะว่าพี่ชาตรีสนิทกับครูยอดธง นั่นคือสิ่งที่ครูยอดธงได้สอนพี่ชาตรี
เพราะฉะนั้นการที่ได้เข้ามาทำกับพี่ชาตรี ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะ ONE Championship เป็นองค์กรที่ใหญ่มากๆ ระบบการทำงานทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผมสามารถเรียนรู้ได้ และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาวงการมวยไทย เพราะไม่งั้นพี่ชาตรีก็คงไม่เชื่อมั่นว่าผมกับ “ปลาย จิติณัฐ อัษฎามงคล” จะทำได้ที่ ONE ลุมพินี
สนับสนุนนักกีฬา ให้ผลตอบแทนเยอะที่สุด และสร้างฮีโร่เมืองไทย
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ : เราเป็นองค์กรใหญ่แล้วมาจัดที่ลุมพินี และลุมพินีเป็นสนามที่ผมคิดว่านักกีฬาทุกคนที่ต่อยมวยไทยหรือว่าคิกบ็อกซิ่ง หรืออะไรก็ตาม ต้องรู้จักลุมพินี และครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากมาต่อยที่ลุมพินี เพราะมันเป็น legend stadium ของประเทศไทย ถ้าให้พูดจริงๆ เมืองไทยที่มีสนามมวยแบบใหญ่ๆ ก็คือ ราชดำเนิน กับ ลุมพินี
เราเห็นว่าในช่วงนี้ลุมพินีไม่ได้อยู่ช่วงขาขึ้น เพราะลุมพินีตั้งแต่ย้ายไป (จากพระราม 4 ไปรามอินทรา) ทุกอย่างซบเซาลงมาก เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ลุมพินีกลับมามีชื่อเสียงเหมือนเดิม ให้คนนับถือเหมือนเดิม แน่นอนค่าตัวผลตอบแทน เราจะเยอะที่สุด เพราะเราเชื่อว่านักกีฬาซ้อมหนัก ต้องยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมาเป็นนักกีฬา กับค่าตอบแทน ถ้าต่อยเมืองไทยก็อย่างมาก 2-3 หมื่น เก่งหน่อยก็เป็นแสน
แต่กับของ ONE Championship คือเราอยากให้นักกีฬา พอเลิกมวยแล้วได้มีเงินเก็บ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่ว่าทุกๆ ครั้งที่เราเห็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่สุดท้ายต้องมาขับตุ๊กตุ๊ก หรือเป็นยาม มันไม่ใช่ เราต้องซัพพอร์ตนักกีฬาพวกนี้ให้เป็นฮีโร่ของประเทศไทย
ซึ่งกีฬาอื่นทุกอย่างในประเทศไทยเขามีหมด แต่มวยไทยมันกลับไม่มีสิ่งสิ่งนั้นที่จะช่วยนักกีฬาหรือว่ามาสร้างฮีโร่ให้กับนักกีฬาคนไทย มันไม่มีเลย และเราอยากจะทำ
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ กล่าว
เป้าหมายคือเราอยากจะให้ ONE ลุมพินี เป็นรายการที่คนเปิดใจดู เพราะว่า ONE เป็นออแกไนซ์ที่ใหญ่ที่สุดเกือบของโลกแล้ว อยากให้คนได้มาดู อยากให้คนสนับสนุน อยากให้คนได้มุมมองใหม่ๆ ของการแข่งขันกีฬาว่าการกีฬา ไม่จำเป็นต้องเอาการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ผมรู้นะว่าทุกกีฬามันมีการพนัน
ไม่ว่าคุณจะไปดูฟุตบอล มันก็มีการพนัน จะไปดูบาสเกตบอล มันก็มีการพนัน แต่การพนันนั้นไม่ได้อยู่ในเวที และส่งผลหรือส่งอิทธิพลต่อการตัดสิน การที่ ONE มาจัดมันจะเป็นอะไรที่แฟร์เกม
แฟร์เกมแฟร์เพลย์ คุณซ้อมมาดี คุณก็ชนะ คุณมีแท็กติกดี คุณก็ชนะ เพราะฉะนั้นนี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่ผมคิดว่าคนน่าจะเข้ามามอง แล้วที่เราทำคือจะเน้นเพื่อ Sports Tourism เราอยากจะทำให้ลุมพินีเป็นศูนย์รวมการแข่งขันที่เป็น Mega ของมวยไทย ซึ่งผมคิดว่ามันทำได้
เป็นกลาง ไม่มีพรรค ไม่มีพวก สิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุน
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ : อยากให้ทางภาครัฐสนับสนุนมวยไทย โดยเฉพาะเราเป็นกลางนะ สิ่งที่ ONE Championship ทำคือเขาอยากจะช่วยนักกีฬา อยากจะสนับสนุนค่ายเล็กๆ ก็ตาม อย่างที่พี่ชาตรีเพิ่งประกาศไป มีข่าวใหญ่ๆ 3 ข่าว
อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุน มองเห็นในสิ่งที่ ONE พยายามจะทำให้กับประเทศ อะไรที่ลำบากก็มองๆ แล้วช่วยกันกับ ONE ดีกว่า เพื่อมันจะได้ก้าวข้ามไป อย่าไปมีพรรคมีพวก ตอนนี้มันถึงเวลาที่เราจะต้องให้ธุรกิจของประเทศไทยมันฟื้น ถ้าคุณสนับสนุน ONE หรือว่าสนับสนุนรายการอื่น แล้วเปิดกว้างจริงๆ รายได้มันจะเข้าใครแหละ มันก็เข้าประเทศ
อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ อยากให้ภาครัฐสนับสนุน ONE Championship
อย่างเช่นถ้าเผื่อเราเอานักมวยมา เฮ้ย ONE มาจัด การท่องเที่ยวก็ต้องครึกครื้นขึ้น ต้องมาเก็บตัวที่นี่นะ เราต้องมาซ้อมอยู่เมืองไทยก่อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์สามอาทิตย์ มันจะมีรายได้มหาศาลเข้ามา และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือว่าเมืองไทยเป็นจุดศูนย์รวมของที่คนอยากมาฝึกซ้อม
ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย BJJ (Brazillian Jiu-jitsu) ยิวยิตสู หรือว่าอะไร ทุกคนเขาชอบที่นี่ เพราะอากาศดี ที่เที่ยวก็ดี ราคาก็ดี เพราะฉะนั้นคนมันอยากมาเยอะมาก แต่ตอนนี้ปัญหาหนักที่สุดคือว่าทำไมเราไม่มีวีซ่าหรืออะไรสักอย่างให้กับนักกีฬาที่เข้ามาอยู่ในประเทศ
เพราะตอนนี้แต่ละคนก็คือเข้ามาเป็น Tourist (นักท่องเที่ยว) ไปต่อเรื่อยๆ พอต่อไม่ได้ ก็ต้องแอบออกไปนอกประเทศ มันเสียดายโอกาส หรือทาง Immigration (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ต่อให้ได้แค่นี้ ต่ออีกไม่ได้แล้ว
เขาก็ต้องกลับบ้าน ทั้งๆ ที่เขาวางแผนว่าเขาอยากจะอยู่อีกปีหนึ่ง มันคือมีสิ่งหลายอย่างที่สนับสนุนได้ เพราะ Sports Tourism มันจะใหญ่มากสำหรับในประเทศไทย