รพ.วิมุต ผนึก นำวิวัฒน์ เปิดตัวนวัตกรรม iNAP ทางเลือกใหม่ในการรักษาอาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เปิดเกมรุกตลาดใหญ่ “Sleep Economy เศรษฐกิจการนอน” เมกะเทรนด์มาแรงรับสังคม “นอนไม่ดี”

โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ เดินเกมรุกจับตลาดมาแรง Sleep Economy หรือเศรษฐกิจการนอน สอดรับเมกะเทรนด์สุขภาพน่าจับตาหลังคนทั่วโลกเผชิญหลายปัญหาด้านการนอนหลับมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ล่าสุดผนึกความร่วมมือกับ บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ผู้นำด้านการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของไทย ร่วมเสริมทัพเฮลท์เทคเพื่อยกระดับคุณภาพการนอนหลับด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยี iNAP (Intraoral Negative Airway Pressure Therapy) ช่วยรักษาอาการนอนกรนที่คุกคามคนไทยกว่า 25% ซึ่งเป็นสัญญาณเสี่ยงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ภัยเงียบคุกคามสุขภาพคนไทยกว่า 3 ล้านคน

โดย รพ. วิมุตเผย เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เรื่องอันตรายจากการนอนกรนที่นำไปสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงทั้งทางกายและจิตใจ เช่น อารมณ์แปรปรวนง่าย อ่อนเพลีย ง่วงนอนมากระหว่างวันจนเป็นอันตรายต่อชีวิต ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ในระยะยาว พร้อมชวนคนไทยสังเกตตนเองและคนรอบตัว หากมีอาการนอนกรนอยู่เป็นประจำ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาต่อไป ทั้งนี้ เพื่อโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและลดอัตราการเสียชีวิตที่ป้องกันได้

นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุต ยังคงเดินหน้ายกระดับการดูแลสุขภาพคนไทยในแบบองค์รวม พร้อมเสริมแกร่งธุรกิจเฮลท์แคร์ให้สอดรับตลาดและเทรนด์สุขภาพยุคใหม่อยู่เสมอ ข้อมูลจาก Emergen Research เผยว่าในปี 2022 ตลาด Sleep Economy หรือเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ มีมูลค่าถึง 512.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 6.3% ปัจจุบัน ตัวเลขจากทั่วโลกและในไทยชี้ให้เห็นว่าภาวะนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นภัยร้ายที่คุกคามสังคมโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยข้อมูลของ National Council on Aging (NCOA) ในสหรัฐฯ ระบุว่าประชากรโลกราว 936 ล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรง

นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าผู้ที่มีอาการนอนกรน เสี่ยงต่อภาวะดังกล่าวมากถึง 94% ส่วนสถิติในประเทศไทย ข้อมูลจากราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย เผยว่าคนไทยประมาณ 25% มีภาวะนอนกรนและพบผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับประมาณ 5% หรือราว 3 ล้านคน ซึ่งในผู้ที่มีภาวะดังกล่าวมักมีอาการกรนมากจนหายใจติดขัด เกิดการสะดุดหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ทำให้ร่างกายขาดอากาศเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่หลับ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการทำงานของหัวใจ สมอง หลอดเลือด และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่ทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนมากมายโดยไม่รู้ตัว เช่น ภาวะใหลตาย, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน, อัมพาต, ความดันโลหิตสูง และอีกหลายโรค รพ. วิมุต ตระหนักว่าการนอนกรน ไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่เป็นสัญญาณอันตรายที่ควรพบแพทย์ และปัจจุบันมีหลากหลายแนวทางการรักษาทางการแพทย์ที่ทำให้ผู้ใช้บริการกลับมานอนได้อย่างมีคุณภาพ”

การร่วมมือกับบริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เพื่อเปิดตัว iNAP Sleep Therapy System นับเป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการแก้ปัญหาและเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ ทั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ รพ. วิมุต ในการเป็นผู้นำด้าน Trusted Healthcare Platform นำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามายกระดับการดูแลรักษาและให้บริการที่ครอบคลุมอย่างไร้รอยต่อ พร้อมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรเพื่อเสริมแกร่งแพลตฟอร์มสุขภาพเพื่อดูแลคนไทยให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน” นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ กล่าวเสริม

คุณวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ NAM
คุณวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ NAM

คุณวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ NAM กล่าวว่า “ปัจจุบันทั่วโลกและคนไทยเริ่มตระหนักรู้ถึงความสำคัญของคุณภาพการนอนหลับและภัยเงียบที่เกิดจากการนอนที่ไม่มีคุณภาพ โดยข้อมูลของ Research And Markets บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระบุว่าตลาดเครื่องมือแพทย์ในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 9.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 โดยขยายตัวที่ CAGR ที่ 7.34% จากปี 2567 ถึง 2573 ปัจจุบันตลาดประเมินไว้ที่ 6.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ปี 2566 โดยนำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และบริการอื่น ๆ ในธุรกิจด้านสุขภาพด้วยประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในการทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลชั้นนำ เรามีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การเปิดตัว iNAP Sleep Therapy System ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเพิ่มทางเลือกใหม่สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับในประเทศไทย และเป็นการเปิดตัวที่โรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทย โดย iNAP One Sleep Therapy System ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ออกแบบมาเพื่อลดการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรน ทำงานด้วยเทคโนโลยี Oral Negative Air Pressure Therapy สร้างแรงดูดอ่อน ๆ ทำให้ลิ้นและเนื้อเยื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้หายใจได้อย่างเป็นธรรมชาติขณะที่นอนหลับ ด้วยรูปลักษณ์ที่สะดวกต่อการพกพา มีขนาดเล็กกะทัดรัด และสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ใช้งานได้นาน 4-6 วัน ทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการทดสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย รวมทั้งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และในประเทศไต้หวัน อีกทั้งยังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายจากองค์กรชั้นนำ พร้อมการยอมรับจากแพทย์และนักวิจัยในหลายประเทศ ว่ามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการลดภาวะหยุดหายใจขณะหลับในทุกระดับความรุนแรง”

ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ แพทย์เฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลวิมุต
ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ แพทย์เฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลวิมุต

ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ แพทย์เฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลวิมุต เล่าถึงสาเหตุของการนอนกรนและความเสี่ยงจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ว่า “ในสังคมยุคปัจจุบัน ปัญหาการนอนนับเป็นปัญหาสุขภาพเรื่องใหญ่ที่พบ เราพบว่าผู้คนทั่วโลกมักมีความเครียดสะสม นอนไม่หลับ นอนไม่พอ และมีปัญหาเรื่องคุณภาพการนอน โดยพฤติกรรมนอนที่ผิดปกติเหล่านี้ก็ค่อย ๆ ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจโดยที่เราไม่รู้ตัว และที่น่าเป็นห่วงคือหลายคนยังคิดว่าการนอนกรนเป็นเรื่องปกติ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น โดยเฉพาะในคนที่นอนกรนรุนแรงจนโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นร่วมด้วยนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ภาวะนอนกรนพบได้ในทุกอายุ โดยมักจะพบในผู้ใหญ่และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักตัวมาก

การนอนกรนระดับรุนแรงที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วยเราเรียกว่า Obstructive Sleep Apnea ซึ่งเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น โดยระบบทางเดินหายใจส่วนต้นมีการตีบแคบลง สาเหตุอาจเกิดจากกายวิภาคของกล้ามเนื้อในช่องคอ โคนลิ้นมีการย่อนไปปิดทางเดินหายใจส่วนต้น โดยเฉพาะขณะหลับหรือการที่ช่องคอมีลักษณะแคบ ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถเข้าสู่ปอดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะอื่น ๆ ได้ คนไข้จะมีภาวะออกซิเจนต่ำ มีการคั่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เกิดการสะดุ้งเฮือกกลางดึกหรืออาการเหนื่อยหอบหลังสะดุ้งตื่น ทำให้รู้สึกเหมือนยังไม่ได้พักผ่อนเมื่อตื่นนอน แต่กลับเหนื่อยล้าและรู้สึกง่วง เมื่อเป็นเช่นนี้เป็นประจำจะส่งผลร้ายต่อสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงความเสี่ยงต่อโรค อาทิ ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจห้องบนผิดปกติ เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงซึมเศร้าและโรคอ้วน”

“ส่วนการปรับพฤติกรรมเพื่อลดปัญหาการนอนกรนและการหยุดหายใจขณะหลับที่ดีที่สุดคือการลดน้ำหนักตัว ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปรับท่านอนเป็นนอนตะแคงจะช่วยให้อาการลดลงบ้าง อย่าอดนอน และที่สำคัญหมั่นสังเกตอาการของตัวเองและคนรอบข้าง หากพบอาการผิดปกติ เช่น นอนกรนเป็นประจำและมีอาการสะดุ้งเฮือก นอนเต็มที่แต่ตื่นมายังง่วงมาก ปากแห้ง-คอแห้งและเจ็บคอเมื่อตื่นนอน หรือปวดศีรษะหลังตื่นนอนเป็นประจำ ควรพบแพทย์เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างทันท่วงที หากซักประวัติแล้วเข้าข่ายก็ควรตรวจด้วยการทำ Sleep Test เพื่อวิเคราะห์การทำงานของร่างกายระหว่างนอนหลับโดยละเอียด เพื่อหาแนวทางรักษาอาการต่อไปและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่” ผศ.พญ.กวินญรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ศูนย์ หู คอ จมูก โรงพยาบาลวิมุต ให้บริการตรวจ Sleep Test ให้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาผิดปกติในระหว่างการนอน พร้อมแนะนำนวัตกรรมสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษาภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญ สำหรับผู้ที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ หู คอ จมูก ชั้น 5 โรงพยาบาลวิมุต หรือโทร 02-079-0050

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก