ดำเนินเรื่องมาถึง EP สุดท้าย ของ “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ผลิตโดย ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมกับ บริษัท สตาร์ฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ฝีมือการกำกับของ ฝุ่น จีรภา ระวังการณ์ กับการถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่มั่นใจในความคิดของตนเอง ชอบยึดติดอยู่กับอดีตและไม่กล้าที่จะปล่อยวางจากคนอื่น แถมมั่นใจในความคิดของตนเอง และต้องการอนุรักษ์สิ่งดีงามในอดีตให้คงอยู่ ผ่านตัวละครที่ชื่อ “อารักษ์” ซึ่งถ่ายทอดโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง หนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา
โดยในตอนสุดท้ายนี้ คนดูจะได้เห็นบทสรุปของตัวละครแต่ละตัว ที่มีวิถีชีวิตและความคิดที่แตกต่างกันของคนต่างวัย ทั้ง บริพัตร (สมภพ เบญจาทิกุล) นที (ก้าวหน้า กิตติภัทร) ภราดร (ปอนด์ พลวิชญ์) ซอแก้ว (ตังตัง นัฐรุจี) บุหงา (ต๊งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษ) สินธร (ภูริต พลอยมีค่า) และ ศิริรัตน์ (เปิ้ล ภารดี)
ซึ่งก่อนจะไปดูตอนจบแบบเต็มๆ เรามีภาพเบื้องหลังมาฝาก เป็นความลับในอดีตของ “อารักษ์” ที่จะถูกเปิดเผยจากข้อความในจดหมายของ “มุกดา” ความผิดพลาดในอดีตที่ อารักษ์ ไม่เคยรู้เลย และครั้งนี้ บริพัตร จะได้รับรู้ความคิดที่อคติของ อารักษ์ ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ฉากนี้ผู้กำกับฯ ฝุ่น ใช้ห้องครัวของโรงเรียนแสนสนุกไตรทักษะ แถวประชาอุทิศ เซ็ตขึ้นเป็นห้องครัว “ร้านรถราง” โดยในฉากนี้นอกจากมีสองนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ อาหนิง กับ อาหมู เข้าฉากแล้ว ก็ยังมี สินธร (ภูริต พลอยมีค่า) ศิริรัตน์ (เปิ้ล ภารดี) ที่รับบทลูกชายและลูกสะใภ้ของ อารักษ์ เข้าร่วมฉากนี้ด้วย ซึ่งสองนักแสดงรุ่นใหญ่ต้องปะทะคารมกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง เพราะอารักษ์คิดว่าทุกคนทรยศ หักหลังเขาหมด ตัวละครสองตัวที่เป็นเพื่อนรักกัน แต่สุดท้ายต้องมาแตกหักกันอีก เพราะมีความคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก่อนถ่ายผู้กำกับฯ ก็ขอให้มีการซักซ้อมบทและดูภาพมุมกล้องกันก่อน จากนั้นเมื่อเดินกล้องถ่ายทำ นักแสดงสองท่านก็สาดอารมณ์ใส่กันแบบไม่มีใครยอมใคร อาหนิงแสดงได้โกรธจัดถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ก่อนจะจบฉากนี้โดยภูริต และเปิ้ล ภารดี รีบเข้ามาดูพ่อ งานนี้บอกได้เลยว่าสมเป็นนักแสดงคุณภาพจริงๆ
ส่วนอีกฉากเป็นฉากที่เผยให้เห็นตัวละครอารักษ์ ที่ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด หลังจากที่เขาได้อ่านจดหมายของ มุกดา ที่ บุหงา ตัดสินใจเอาให้ และได้รับรู้ถึงความในใจของ อารักษ์ ที่เผยออกมา จนครั้งนี้มันทำให้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขานั้นเปลี่ยนไป สำหรับฉากนี้เป็นฉากกลางคืนที่ใช้บ้านแถวสุทธิสารเป็นสถานที่ถ่ายทำ และก่อนถ่ายก็ต้องมีการซ้อม แล้วเมื่อพร้อมก็เดินกล้องถ่าย ซึ่งนับเป็นฉากการแสดงอารมณ์อีกฉาก ที่ผ่านไปได้อย่างสบายไม่ต้องเทค
ถ้าใครอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมบทสรุปชีวิตของ อารักษ์ ผู้ที่หัวดื้อ หัวรั้น ไม่ฟังใคร และเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่จะลงเอยอย่างไร มาค้นหาคำตอบได้ในละคร “รถรางเที่ยวสุดท้าย” วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 20.30 น. ซึ่งเสนอเป็นตอนจบ ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3