ธีร์ ไชยเดช ศิลปินชื่อดัง เจ้าของเพลง รัก, My Life Is Here, อย่าคิดมาก, ขอแค่ใจเราเหมือนกัน, และห่างไกลเหลือเกิน ฯลฯ เดินทางมาร่วมงาน “FEED RETRO Music •Talk • Food • Book • Trip #90sไม่นานมานี้ ย้อนวันวานช่วง Music ดนตรีในสวน
ตอนหนึ่ง ธีร์ ไชยเดช ได้กล่าวถึงบรรยากาศของวงการเพลงในยุคเปลี่ยนผ่าน จากอนาล็อกสู่ดิจิทัล และที่มาของเพลง ‘อย่าคิดมาก’ ว่าหลายปีก่อนเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างอนาล็อกและดิจิทัล ตนบอกตัวเองว่าสงสัยคงต้องเลิกเล่นดนตรีแล้ว เพราะอาจมองไม่เห็นอนาคต ส่วนตัวมีงานประจำด้วย ช่วงเวลานั้นบริษัทห้างร้านที่ขายเทปและซีดีทั้งโลกล่มสลาย ไม่รู้จะขายใคร เนื่องจากสามารถส่งไฟล์ให้กันได้แล้ว
“นักดนตรีตอนนั้นอยู่ในภวังค์ เหมือนโดนแช่แข็ง ผมก็เช่นกัน จนมีน้องคนหนึ่งโทรเข้าบอกให้แต่งเพลงให้หน่อย จะเอาไปประกอบโฆษณา ได้ตังค์ด้วยนะ พอบอกตัวเลขมา แต่งชั่วโมงเดียวเสร็จ หยิบหัวข้อที่ให้มาเขียนเป็นเพลง หลังๆ ได้รับการติดต่อจากสถานที่ที่ไม่เคยคิด เช่น สำนักสงฆ์ วัด มูลนิธิ ขอไปเปิดช่วงธรรมเทศนา” ธีร์ ไชยเดชกล่าว
สำหรับเนื้อเพลงดังกล่าว มีดังนี้
หากมีบางวันล้มลงเจ็บ อาจมีบางวันเสียใจ
หากมีบางวันน้ำตาจะไหล ก็ปล่อยมันไปสักวัน
บางครั้งแค่วินาที มันค้างเป็นปีอยู่อย่างนั้น
เรื่องราวของรักที่เปลี่ยนผัน ไม่ลบเลือนกันใช่ไหม
แต่มันก็เป็นเหมือนวันเก่า ที่มีเรื่องราวร้อยพัน
เราก็คงเป็นเหมือนคนๆนั้น ที่ผ่านมากันมากมาย
หากทำให้ทุกนาที ทำให้มีความหมาย
เรื่องราวของรักที่เหือดหาย คงไม่เดียวดายเกินทน
อย่าคิดมากไป เศร้าใจอะไรขนาดนั้น
อย่าคิดมากไป ฝันคงไม่นานจนป่านนั้น
แค่เพียงว่ารักจริงๆจากหัวใจ
หากใครไม่ตอบไม่รักไม่อ่อนไหว
ไม่คิดอะไร ไม่หวังอะไรกลับมา
มองเพียงว่ารักจริงๆ ที่ให้ไป
เพียงพอที่ทำให้เขานั้นสดใส
ให้ด้วยใจ ไม่หวังอะไรตอบแทน
หากทำให้ทุกนาที ทำให้มีความหมาย
เรื่องราวของรักที่เหือดหาย คงไม่เดียวดายเกินทน