ครบรอบ 1 ปี การดำรงตำแหน่งในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ได้อย่างสมบูรณ์และสง่างาม สำหรับ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” หลังคว้ามงกุฎมาครองตั้งแต่ 30 กรกฎาคม 2022 และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดนางงามจักรวาล 2022 ที่นครนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา
FEED ได้พบและพูดคุยกับ แอนนา เสืองามเอี่ยม ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของเธอ ในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ซึ่งวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เธอจะส่งต่อตำแหน่งให้กับรุ่นน้องนางงามคนต่อไป ถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ คนที่ 22 ของประเทศไทย ชีวิต มุมมอง ความคิด ของเธอเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
นอกจากโตขึ้น มีสิ่งใดที่ได้เรียนรู้และประทับใจมากที่สุด
แอนนา : โห แอนนาว่าน่าจะเป็นในเรื่องของผู้คนมากกว่านะ เรารู้สึกว่าเราได้เจอคนที่เก่งเยอะมาก แล้วพอเรายิ่งเจอคนที่เก่งหรือว่ามีศักยภาพดีๆ เหมือนเราเจอไอดอลคนต่อไป เราอยากที่จะเก่งเหมือนคนนั้น อยากที่จะเก่งเหมือนคนนี้ มันทำให้เรายิ่งอยากจะพัฒนาตัวเองมากกว่าจุดที่แอนนาเป็นมากกว่าแอนนาเสือค่ะ อยากที่จะพัฒนาตัวเองไปในทุกๆ ด้านเลยค่ะ
การประกวดในวันวาน
แอนนา : ดีใจมากค่ะ แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งหนึ่งที่เราได้รับมาคือความดีใจเนอะ เพราะเราก็คาดหวังแล้วความฝันของเราเป็นจริง ที่จริงดีใจที่สุดเลยน่าจะเป็นวันนั้นวันที่ประกาศชื่อเรา เพราะว่าหลังจากนั้นเราก็ต้องมาสวมบทบาท สวมตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 แล้วเราต้องพบปะผู้คนมากขึ้น เราต้องเทรนหนักขึ้น เจอดราม่าหลายอย่างมาก จนเราลืมไปเลยว่า เห้ยวันนั้นเรามีความสุขมากเลยนี่หน่า เพราะว่าก่อนที่จะไปมิสยูนิเวิร์ส เราเจอมาหลายเรื่องเหมือนกัน แต่พอทุกอย่างมันเสร็จสิ้นไปประกวดที่มิสยูนิเวิร์สเสร็จ มันเหมือนเป็นภาพแฟลชแบ็คกลับมาวันสุดท้ายเลยนะคะที่ลงจากเวทีมิสยูนิเวิร์สมา มีภาพแฟลชแบ็คมาแบบว่า โห เราผ่านอะไรมาเยอะมากเลย ก็อยากขอบคุณตัวเอง ขอบคุณทีม รวมถึงขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังแอนนาในวันนั้นเลยค่ะ มันเป็นโมเมนต์หรือความรู้สึกที่แอนนาจะไม่มีวันลืมเลย
“แอนนาไม่เสียดายนะคะ แอนนารู้สึกคุ้มด้วยซ้ำ คือพอเราทำเต็มที่ แอนนาทำเต็มที่จริงๆ แอนนาเทรนหนักมาก หนึ่งวัน 24 ชั่วโมง แอนนามีให้กับนางงามอย่างเต็มที่เลย เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่คาดหวัง โอเคมันต้องเป็นมงกุฎอยู่แล้ว แต่พอเราไม่ได้ เราก็เสียใจแต่แอนนาไม่เคยเสียดายเวลาเลย มันอาจจะเสียใจที่เราตั้งความหวังไว้เท่านี้ แต่ว่ามันไม่ได้เนอะ แต่สุดท้ายเราย้อนกลับไปสิ่งที่มันได้มากกว่าตำแหน่งมากกว่ามงกุฎ มันคือประสบการณ์ที่ทั้งชีวิตนี้ไม่รู้จะหาได้หรือเปล่า ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากๆ เลยค่ะ”
1 ปีที่ผ่านมา มีสิ่งที่ไหนที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำอีกบ้าง
แอนนา : สิ่งที่อยากทำแล้วยังไม่มีโอกาสได้ทำหรอคะ หู้ว ทำมาแทบทุกอย่างเลย (หัวเราะ) แต่จริงๆ แอนนาอยากจะลงพื้นที่มากกว่านี้ค่ะ ก็มีการคุยกับทีมไว้แล้วเหมือนกัน อยากที่จะไปช่วยเหลือน้องๆ ในเรื่องการศึกษาให้มากกว่านี้ เพราะปกติที่แอนนาช่วยเหลือมันจะเป็นในเรื่องของการใช้เสียง การพูดแบบว่าน้องคนนี้ค่ะ น้องคนนั้นค่ะ เราควรที่จะพัฒนานโยบายต่างๆ มากขึ้น ณ ตอนนี้ถ้าหลังอำลาไปมีเวลามากขึ้น ก็อยากที่จะเข้าไปสัมผัสพื้นที่นั้น เข้าไปช่วยเหลือด้วยสองมือของเราเองค่ะ เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันยังมีภารกิจอยู่บ้าง รวมถึงเวลาต่างๆ ที่มันไม่ลงล็อกเนอะ หลังจากอำลาแอนนาเชื่อว่าน่าจะมีเวลามากขึ้นที่จะเอ็กซ์ตรีมกับหน้าที่ตรงนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะสนับสนุนด้านนั้นค่ะ
“แอนนาอยากไปสอนหนังสือเด็กค่ะ โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลนจริงๆ สิ่งที่เราให้เขาอาจจะไม่ใช่ความรู้ เพราะว่าเราอาจจะไม่เหมือนคุณครู แต่แอนนาอยากจะเข้าไปให้กำลังใจเขามากกว่า ทำให้เขายิ้มได้ ทำให้เขาเชื่อมั่นหรือมั่นใจว่าความฝันที่เขาฝัน แม้ว่าทางครอบครัวอาจจะไม่สามารถซัพพอร์ตเขาได้ แต่ว่าความฝันที่เขาฝันก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เราอยากจะไปสร้างกำลังใจให้เขา ประมาณนั้นค่ะ ตั้งแต่วันแรกๆ จนถึงวันนี้เนอะแอนนายังยืนยันคำเดิมว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การศึกษาทำให้แอนนามายืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งมันจริง ก็อยากจะสนับสนุนด้านนั้นและแอนนาเชื่อว่า ถ้าสมมติการศึกษามันถูกพัฒนาขึ้น เด็กๆ ทุกคนจะสามารถเข้าถึงสิ่งที่เขาฝันได้อย่างง่ายมากขึ้นค่ะ
(อยากไปที่ไหน) แอนนาอยากไปในชนบทเลย แต่ว่าไม่ได้เล็งว่าเป็นสถานที่เป็นโรงเรียนชื่อนี้ๆ แต่ว่าขอเป็นชนบทหรือว่าโรงเรียนที่น้องต้องการจริงๆ ค่ะ ถ้าสามารถเทคกับเวลาตรงนั้นได้ก็อยากที่จะไปหลายๆ ที่เลย”
สำหรับแอนนา เสียงของคนที่เป็น “นางงาม” สำคัญอย่างไร
แอนนา : สำหรับแอนนา มันแล้วแต่ว่าแรงจูงใจของนางงามแต่ละคนคืออะไร แต่แอนนาค่อนข้างที่จะมั่นใจในตัวเอง ว่าแรงจูงใจของตัวเองไม่ใช่แค่แอนนาคนเดียว รวมถึงคนที่เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนก่อนๆ ด้วย คือการที่เราทำความฝันเพื่อตัวเองมันไม่ผิด มันเป็นหนึ่งในความฝันแอนนาเหมือนกันนะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่มันคงจะไม่สามารถทำให้แอนนามงได้ ถ้ามันไม่มีแรงผลักดันที่เราอยากจะทำเพื่อคนอื่นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนางงามก็มีความคิดหลายความคิดเหมือนกัน แต่ว่าแอนนาเชื่อว่ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีนี้ รวมถึงคนที่จะได้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ปีนี้ เขาก็อยากทำเพื่อคนอื่นเหมือนกัน ลองเข้าไปศึกษาตัวเขาก็ได้ ลองฟังสัมภาษณ์หรือว่าลองถามทัศนคติก็ได้ แอนนาเชื่อว่าพอเรามีโอกาสตรงนี้มาแล้วอ่ะค่ะ มันจะเติมเต็มความฝันเรา
อย่างตัวแอนนาเองได้เติมเต็มความฝันที่อยากจะเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้วนะ มันจะดีกว่าไหมถ้าเราส่งต่อสิ่งต่างๆ แค่แรงบันดาลใจหรือแค่การพูดเพื่อให้สังคมได้ตระหนัก หรือแค่การพูดเพื่อให้เด็กคนหนึ่งมีแรงบันดาลใจ มันจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มให้เรามีความสุข แล้วเรารู้สึกว่า เออ คุ้มกับการเกิดมาเป็นคนจริงๆ อันนี้ในส่วนตัวของแอนนานะคะ แอนนาก็เลยเชื่อว่า เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มันเปิดโอกาสตรงนี้จริงๆ ที่เราจะได้รู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร มันไม่ใช่แค่เพื่อตัวเรา แต่มันทำเพื่อคนอื่นได้ด้วยจริงๆ ค่ะ
จุดไหนของการเป็นนางงามที่ทำให้ตัดสินใจว่าสิ่งนี้คือ “ความฝัน”
แอนนา : การทำเพื่อคนอื่นได้ พอเราได้เป็นนางงามมันไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียวแล้ว เสียงของเราที่พูดออกไปผ่านสื่อต่างๆ มันมีอิทธิพลมากเลย มันทำให้คนมองคนอื่นยังไงก็ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการมีอิทธิพลตรงนี้ แอนนารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ทรงพลังมากเลยนะ แอนนาสามารถปลุกระดมให้ทุกคนหันมามองแอนนาในเรื่องของการศึกษาได้ แอนชิลีสามารถปลุกทุกคนให้มาเรื่อง Real Size Beauty พี่อแมนด้ากับเรื่องของ Mental Health ได้เพราะเสียงของนางงามคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นตรงนี้มันทรงพลังมากเลย อยากจะฝากบอกนางงามที่เป็นรุ่นน้องคนต่อไปแล้วกันหรือว่าตอนนี้ที่กำลังประกวดอยู่ก็ได้ว่า ถ้าคุณรู้จักเรื่องของโซเชียล รู้จักพ้อยท์ของตัวเองที่มาวันนี้แล้วคุณลองใช้โซเชียลส่งพลังของตัวเองออกไป มันมีอิทธิพลจริงๆ นะกับคำว่านางงาม
มีแฟนๆ ที่รักและเห็นความพยายามของเรา
แอนนา : แอนนารู้สึกภูมิใจในตัวเองมากๆ เลยนะ เรายิ่งรู้สึกว่าแค่เราพยายาม คือตอนแอนนาเป็นตัวแทนประเทศไทย ถามว่าแอนนากดดันไหม กดดันมาก แต่อยากจะบอกนางงามรุ่นน้องแล้วกันคนต่อไปว่า โอเคมันมีความกดดันอยู่แล้วแหละ แต่เชื่อแอนนาเถอะว่า คุณทำไปเถอะ คุณไม่รู้หรอกนะว่าสุดท้ายจะมีคนชอบคุณหรือรักคุณมากขนาดไหน แต่ขอให้คุณทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วหลายๆ คนในประเทศก็จะเห็นเองว่านี่คือตัวแทนของเรา แอนนาไม่รู้ว่าเขาคิดว่าแอนนาเพอร์เฟคไหม แต่แอนนาคิดว่าตัวเองคงไม่ได้เพอร์เฟคขนาดนั้น แต่ว่าในทุกๆ วันแอนนาทำเต็มที่ที่สุด แอนนาไม่เคยคิดที่จะกลับไปแก้ไข พอเราทำเต็มที่แล้วน่าจะมีบางกลุ่มหรือบางคนเห็นในความเต็มที่ของตรงนั้นของเรา แล้วก็ชื่นชอบความเต็มที่ความอดทนของเรา น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนชื่นชมแอนนา..หรือเปล่า (หัวเราะ) แอนนาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะแอนนาชื่นชมตัวเองตรงนั้นเหมือนกันที่ทำทุกวันได้อย่างเต็มที่ ก็ขอขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ
“ทุกคนบอกว่าเก่งขึ้นเยอะมาก ซึ่งก็อย่างที่บอกเราเก่งขึ้นจริงๆ บางอย่างเราจะเก่งขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเจอจริงๆ ว่ามันผิดพลาด ล้มเหลว เสียใจยังไง ไอ้วันที่ผิดพลาด ล้มเหลว ถามว่าแอนนาเสียใจมากไหม ก็เสียใจมาก ซึ่งกว่าจะผ่านมันมาได้ก็ยากเหมือนกัน แต่ว่าเมื่อผ่านมาแล้วมองกลับไปมันก็แค่นั้นเอง แล้วเราก็โตขึ้นจริงๆ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งถัดไป เราโอเคแล้ว ถ้าล้มเราก็จะลุกได้ไวขึ้น บางครั้งอาจจะแค่สะดุดก็ได้ คือบางอย่างอ่ะค่ะเราอาจจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ถ้าเราไม่เคยโดนจริงๆ ฝากบอกถึงใครบางคนที่กำลังเจออุปสรรคหลายอย่างแบบที่แอนนาเคยเจอแล้วกัน ถ้าล้มก็ขอให้ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาไวๆ นะคะ”
ความสำเร็จในเส้นทางความฝันการเป็นนางงาม
แอนนา : ระดับนึงค่ะ อย่างที่บอกมันก็ยังมีสิ่งต่างๆ ที่แอนนาสามารถถ่ายทอดออกไปให้กับคนอื่นได้ในฐานะนางงาม ซึ่งก็โอเคจะทำต่อไป แม้ว่าจะหมดตำแหน่ง เขาเรียกว่าวาระแล้วกัน แต่ว่าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ประจำปี 2022 ก็ยังติดตัวแอนนาไปตลอด ก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ที่สุดค่ะ
อยากบอกอะไรกับตัวเอง?
ใกล้แล้วกับวันอำลาตำแหน่ง
แอนนา : คงจะใจหายนิดนึงค่ะ เพราะว่า 1 ปี มันไวมากเลยนะ แอนนาอยากจะพูดสิ่งที่แอนนาอยากจะบอกกับคนดู อยากจะบอกนางงาม พี่เลี้ยง รวมถึงทุกคนที่ได้ฟังแอนนาในวันไฟนอลด้วย มันจะมีข้อความหนึ่งที่แอนนาพยายามกลั่นกรองจากความรู้สึกแล้วก็จิตใจตัวเอง ก็คงจะตื่นเต้น ณ ตรงนั้นแหละว่า จะพูดยังไงให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสารที่เราจะพูดไป ก็ฝากทุกคนติดตามด้วยนะคะ จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด จะสื่อสารออกไปให้ทุกคนเข้าใจในตัวเรามากที่สุด ฝากทุกคนติดตามด้วยค่ะ
“อยากขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่อยู่กับแอนนาทุกโมเมนต์ทุกเหตุการณ์เลย เราไม่ได้มีแค่โมเมนต์ที่แอนนายิ้ม หัวเราะ มันมีโมเมนต์ที่แอนนาเศร้า ร้องไห้ เสียใจ มันมีหลายโมเมนต์มาก แต่ว่ายังมีหลายคนเหมือนกันที่คอยโอบกอดแอนนาไว้ค่ะ จนถึงวันนี้วันที่จะอำลาตำแหน่งแล้ว ก็ขอขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะคะ อย่างที่บอกว่าต่อให้แอนนาจะหมดวาระแล้ว แต่แอนนาก็ยังดำรงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ต่อไปเรื่อยๆ ก็ฝากทุกคนซัพพอร์ตแอนนาด้วยนะคะ รวมถึงซับพอร์ตรุ่นน้องคนต่อไปด้วยค่ะ เชื่อว่ารุ่นน้องที่จะได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีนี้ ก็จะเป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพเหมือนกันค่ะ”