“ชัยธวัธ มโนชัยเจริญกุล”  หรือ “ครูดิว ติวโทอิก” ผู้สอนภาษาอังกฤษที่โด่งดังในโลกออนไลน์ ด้วยยอดคนติดตามหลักล้าน ทั้งบน Facebook และ Tiktok รวมทั้งใน IG อีกหลายแสน แต่ชีวิตของครูดิวกว่าจะมาถึงวันนี้ ก็ผ่านการค้นหาตัวตนมาไม่น้อยเลย

นอกจากบทบาทการสอนภาษาอังกฤษด้วยเอกลักษณ์ความสนุกสอดแทรกความรู้ ในประเด็นขับเคลื่อนเรื่อง LGBT ครูดิวหนึ่งในไอดอลของชาวโซเชียลก็ออกมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ในฐานะ LGBT คนหนึ่งเช่นกัน

ทีมงาน FEED มีโอกาสพูดคุยกับครูดิว บอกเลยว่ามีเรื่องราวการใช้ชีวิตและแนวคิดและมุมมองต่อ LGBT ที่น่าสนใจมาฝากทุกคน

บอกเราหน่อยใครคือ “ครูดิว”

ครูดิว : “เกิดอำเภอคลองลาน จ.กำแพงเพชร บ้านอยู่หน้าน้ำตก เกิดในครอบครัวยากจน เพราะห้องน้ำไม่มี ไปขอเค้าใช้ ไม่ได้ในสร้างในที่ของเรา พ่อแม่ทำงานหาเงิน ส่งเราได้คนเดียว ทุกคนหลุดการศึกษาหมดเลย  ครูเป็นลูกคนสุดท้ายที่พี่น้องเสียสละให้ครูเรียน แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่พาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ รู้สึกว่าเราได้ตอบแทนพี่ๆทุกคนที่ทำให้เราได้เรียน ถึงรู้สึกว่า การศึกษาสำคัญมากๆ จริงๆ”

กว่าจะมาเป็น “ครูดิว” ในวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ครูดิว : “ครูดิวผ่านอะไรมาเยอะมาก ผ่านโมเมนต์ที่มีความสุข กับโมเมนต์ที่เถียงกับตัวเองว่าเราจะไปทางไหน ช่วงที่เราอยู่มหาวิทยาลัย เราก็ออกสาวได้เต็มที่ แต่จบแล้วมาทำงาน มันเป็นอีกโลกหนึ่งที่ปรับตัวเยอะมาก  เวลาไปทำงานบริษัทใหญ่ก็ต้องแอ๊บตัวเองเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำให้ครูตัดสินใจว่า จะมาเป็นครูดิวในวันนี้  เป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ทุกคนอยากเข้าไป พอเข้าไป เราไม่เป็นตัวเองอย่างแรง เจ้านายด้วย คนรอบข้างด้วย ทำให้เราไม่ส่งเสริมให้เราแสดงออกอย่างเป็นตัวเองได้ เป็นหนึ่งปีที่ทรมานที่สุดในชีวิต จำฝังหัวเลย เราก็เห้ย การแอ๊บไม่เป็นตัวเองนี่มันเป็นความทุกข์เหมือนกันเนอะ งานดีเงินดี แต่มันทุกข์ใจค่ะ มันอยู่ไม่ได้ ก็ลาออกจากตรงนั้น มาเริ่มสอน มีความสุข”

มีความคิดจะไปสอบบรรจุครูบ้างหรือไม่  

ครูดิว : “คนถามเยอะมาก ครู มีเพื่อนที่เป็นอาจารย์ ครูเห็นว่าตัวเองไม่เหมาะ ตัวเรามีศักยภาพที่ทำอะไรได้มากกว่านั้น ถ้าอยู่ในระบบ เราอาจจะทำแบบที่ทำอยู่ไม่ได้ จะมาเต้น มาแต่งกลอน มาแต่งหญิง คงจะยาก การเป็นครูดิวตอนนี้ มันเหมาะกับตัวเองแล้ว เพื่อนเราก็บอกว่าดูชีวิตแกมีความสุขดีเนอะ    

LGBT ในสังคมไทยยุคนี้มีเปิดกว้างขนาดไหน

ครูดิว : “ถ้ามองจากสองฝั่ง ที่มองจากคนข้างนอกจากเพื่อนต่างชาติ เค้าจะมองว่าประเทศไทยเปิดกว้างมากกับ LGBT เพราะว่า เราอยู่ในสื่อด้วยความภาคภูมิใจ ไม่มีใครขว้างหินใส่เรา แต่ถ้าเรามองคนที่อยู่ข้างใน ที่เรามองตัวเองยังเปิดกว้างไม่ถึงขีดสุด กว้างนอก แคบใน คือถ้าพูดถึงสิทธิแต่ละคนยังถูกกจำกัดอยู่เยอะ”

ความจำกัดนั้นคืออะไร

ครูดิว :“ในแง่ของการทำงาน อย่างครูเองเจอกับตัวเอง บางสังคมเราไม่สามารถเปิดตัวตนได้อย่างชัดเจน ด้วยสภาพแวดล้อม ไม่เหมือนกับต่างประเทศที่เราแบบ I am proud to be gay เราพูดได้เต็มปากในสภาพแวดล้อมแบบนั้น”

หมายความว่าบางอาชีพยังถูกตีกรอบ

ครูดิว : “ยิ่งถ้าอาชีพการงานสูงขึ้น กำแพงแห่งการยอมรับก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย เราต้องยอมรับว่ากระเทยหรือเกย์ เราอยู่ใน entertainment source ของสังคม คือคุณเป็นคนตลกนะ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับคนทั่วไปได้ เราถูกมองเป็นแบบนั้น นั่นคือเลเวลของสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ แต่ถ้ามองในเลเวลความเท่าเทียม เราห่างไกลมากกับชายกับหญิงจริงๆ”

ยังไม่มีกฎหมายออกมารองรับ  LGBT อย่างนั้นหรือเปล่า

ครูดิว : “ด้วยค่ะ ด้วย ถ้าเทียบว่าการที่จะทำอย่างนี้ได้ มันหมายความว่าเรามีการเทียบกับประเทศอื่นแล้ว แล้วประเทศเราจะเป็นอย่างไร พอมองเห็นภาพอยู่ สิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นนอร์มอลของโลกใบนี้”

ควรมีกฎหมายรองรับทั้งในแง่สถานภาพและทรัพย์สินระหว่างกันหรือไม่

ครูดิว : “ครูว่าควรตั้งนานแล้วนะ มีกฎหมายรองรับดีกว่าไม่มีอะไรรองรับอะไรเลย อาจจะยังไม่ถึงขนาดต้องมีลูก แต่งงาน หรือเมื่อแฟนป่วย ก็ให้ความยินยอมทางการแพทย์ไม่ได้เลย ยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้ามีกฎหมายรองรับ แม้ไม่ได้ใช้ก็ยังดีกว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะพึงมี”

ครูดิวอยากสื่ออะไรกับสังคม

ครูดิว : “สิ่งที่ครูอยากจะบอกคือ ในสิ่งที่เราเรียกร้องอยู่มันควรจะมีตั้งแต่แรกอยู่แล้วและเราก็ไม่ได้เรียกร้องในสิ่งที่มากเกินไป เราแค่อยากเท่าเทียม สิ่งที่เราเรียกร้องเราอยากมีเท่ากับคุณเท่านั้น เราไม่ได้ขออะไรมากกว่าคุณ ถ้าเรามีสิทธิเท่านี้ แม้เราไม่ได้ใช้ แต่ว่าเราอุ่นใจมากกว่า ทั้งเรื่องการสมรสเท่าเทียม การรับรองบุตร แม้เป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคม แต่ถึงเวลาจริงมันจะมีทางออกของมันเอง ครูว่าถ้ามีสิทธิ์มารองรับ มันจะมีหนทางออกของมันเอง ว่าจะไปทางไหน เพราะตอนนี้ก้าวแรกยังไม่ได้เริ่มเลย ครูอยากให้ก้าวแรกผ่านไปให้ได้ก่อน  ผ่านให้สังคมยอมรับก่อน”

การติด Tag คน ในกลุ่ม LGBT

ครูดิว : “จะเรียก LGBT หรือเรียกตุ๊ด เรียกเกย์ เรียกกระเทย ขึ้นกับเจตนาของคนพูด สำหรับครูเอง ก็ไม่ได้ชอบให้คนเรียก LGBT ครูชอบให้คนเรียกเป็นชื่อเรา แต่ถ้าจะเรียกว่าตุ๊ดหรือกระเทย ครูก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ารู้สึกว่าคำพูดหรือน้ำเสียงมันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหยียด มันใช้ได้หลายโทน อยู่ที่ว่าคนเรียกเค้ารู้สึกอย่างไร คนที่ถูกเรียกเค้ารู้สึก offended หรือเปล่า”

ครูดิวเคยอธิบายคำว่า Sexual Orientation อันนี้น่าสนใจ

ครูดิว : “Sexual Orientation หมายความว่า เราเกิดเป็นเพศไหนก็ตามชายหรือหญิง orientation หมายความว่า การเบนเข็มไปสู่อะไรสักอย่างหนึ่ง คือจะชอบเพศไหนก็ได้  คือไม่ขึ้นกับเพศสภาพที่เค้าเกิดมา มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเค้า ถ้าจะไปก้าวล่วงก็จะเยอะเกินไป”

แล้วความลื่นไหลทางเพศ Gender Fluidity อธิบายได้ว่าอย่างไร

ครูดิว : “gender fluidity ความลื่นไหลทางเพศ เดี๋ยวเปลี่ยนไปมา หัวข้อนี้ ในต่างประเทศถกเถียงกันเยอะและเค้าไปไกลกว่าเรามากๆ  บางคนบอกว่าอย่าเรียกชั้นว่าหญิงหรือชาย He หรือ She ให้เรียกว่า They คำเดียวก็พอ แต่ครูรู้สึกว่า ยากในการใช้งาน แม้จะแสดงถึงความเป็นกลาง แต่ความลื่นไหลไปซ้าย ไปขวา อันนี้ขึ้นกับบุคคลนั้นๆ เราก็จะไม่ตัดสินเค้า เป็นความชอบของเค้า”

ตั้งความหวังไว้กับรัฐบาลใหม่ไว้อย่างไร

ครูดิว : “รัฐบาลใหม่ครูตั้งความหวังไว้มากจริงๆ นะ เป็นรัฐบาลแรกที่ครูรู้สึกว่ามีแสงไฟที่ส่องถึงเรา เรารู้สึกว่าถ้าได้รับการยอมรับ ชีวิต LGBT ของไทยจะไปได้ไกลมากจริงๆ แบบอาจจะมีลูกได้ คือจะมีหรือไม่มีอีกเรื่องหนึ่ง มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นอีกก้าวหนึ่งของไทย สังคมโลกเค้ายอมรับ ถ้า LGBT ในประเทศไทยมีสิทธิ์เพียงพอจะเป็นก้าวที่ใหญ่มากๆ ของสังคมไทยที่เราเปิดใจเรื่อง LGBT”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก