ค่ายผมไม่ใช่มวยเก่ง! ชีวิตและจุดเปลี่ยนของ “ฟาอีส” ปฏิภาณ หวังเกษม

“โอ้โหมึงเอาคนขายโรตีมาต่อยมวย มึงเอาเด็กปั๊มมาต่อยมวย เอาคนก่อสร้างมาต่อยมวย มันจะไปได้ไกลแค่ไหนวะ”

ปฏิภาณ หวังเกษม ผู้จัดการค่ายมวยลูกสวน

“ค่ายมวยลูกสวน” ถือเป็นค่ายมวยเก่าแก่อีกค่ายหนึ่งของเมืองไทย เริ่มก่อตั้งในปี 1957 (พ.ศ. 2500) ปัจจุบันมี “ฟาอีส” ปฏิภาณ หวังเกษม ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ทำหน้าที่ผู้จัดการ ดูแลรายการให้นักมวยในค่าย รวมถึงทำหน้าที่คุมซ้อม คุมวิ่ง และจับเป้าให้นักมวยด้วยตัวเอง

ค่ายมวยลูกสวน ตั้งอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 14 เขตจอมทอง กรุงเทพฯ นักมวยที่เป็นตัวชูโรงของค่ายฯ คือ สมิงดำ และ สุไลมาน ที่เคยโชว์ผลงานความยอดเยี่ยมเอาไว้บนสังเวียน One ลุมพินี มาแล้วก่อนหน้านี้

แต่ว่าปูมหลังของนักชกทั้ง 2 คนนั้นต่างก็เป็นคนที่สู้ชีวิต เพราะว่า สมิงดำ เคยทำงานก่อสร้าง ส่วน สุไลมาน ก็เคยเป็นพ่อค้าขายโรตีมาก่อน

FEED มีโอกาสพูดคุยกับ “ฟาอีส” ปฏิภาณ หวังเกษม หรือ ฟาอีส ลูกสวน ผู้จัดการค่ายมวยลูกสวน เกี่ยวกับเส้นทางชีวิต และการที่ได้เข้ามารับช่วงต่อดูแลค่ายมวยต่อจากคุณพ่อ

ซึ่งเจ้าตัวย้ำกับเราอย่างชัดเจนว่า แม้ใครหลายคนจะตั้งคำถามว่าค่ายลูกสวนจะไปได้ไกลแค่ไหน ด้วยเหตุผลที่ว่าเอาคนก่อสร้าง หรือพ่อค้าขายโรตีมาต่อยมวย

แต่ “ฟาอีส ลูกสวน” กลับไม่ได้สนใจคำพูดเชิงลบเหล่านั้น เขายอมรับว่า “ค่ายผมไม่ใช่มวยเก่ง”

ถ้าวัดเรื่องของหัวจิตหัวใจแล้ว นักมวยทุกคนในค่ายฯ ไม่มีกลัว ไม่มียอม และจะสู้ตลอดทางแน่นอน

จุดเริ่มต้นและจุดเปลี่ยน จากนักมวยสู่ผู้จัดการค่ายมวย

ปฏิภาณ หวังเกษม : เริ่มแรกผมก็เป็นนักมวยอาชีพอยู่ในค่ายลูกสวนครับ เป็นลูกหัวหน้าค่าย แต่ว่าบ้านเราไม่ได้มีฐานะอะไรครับ ก็เป็นเหมือนคนยากจนธรรมดา แล้วก็ต่อยมวยเลี้ยงตัวเอง พ่อผมก็พาไปชกมวยที่นั่นที่นี่ ก็มีนักมวยรุ่นๆ เดียวกันก็หลายคนต่อยไปต่อยมาก็เหลือแค่ผมกับพี่ชาย 2 คน พอต่อยมาถึงจุดหนึ่งช่วงโควิด เป็นช่วงที่ผมเรียนใกล้จะจบพอดี

หลังจากโควิดผมได้ต่อยอีกไฟต์หนึ่ง พอต่อยเสร็จปุ๊บ ผมเรียนจบพอดี ผมก็เลยคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว ชีวิตนักมวยมันไม่น่าจะไปได้ เพราะว่ามันไม่มีรายการชก ก่อนจะเรียนจบผมไปทำงานเป็นพนักงานโกดังครับ ไปทำกับสมิงดำลูกสวน และนักมวยในค่าย

ตอนนั้นทั้งค่ายเหลือ 3 คน คือ สมิงดำ ราวี เผด็จศึก ถ้า 3 คนนี้เลิก หรือว่ากลับบ้านเราก็จะเลิกทำค่ายมวยครับ เราก็กะว่าจะไม่เอาแล้ว เพราะตัวผมเองก็เลิกแล้วเหมือนกัน จากนั้นเราก็ปิดค่ายไปพักหนึ่ง เราก็ไปทำงานกัน สมิงดำก็ทำก่อสร้าง ผมก็ทำโกดังนี่แหละครับ จนมวยกลับมาชกได้

คือผมเลิกแล้วตอนนั้น พ่อผมบอกว่าถ้าผมอยากทำต่อก็ทำไปเลย ผมก็บอกได้ เดี๋ยวผมทำเอง เดี๋ยวลองดูเลย ผมก็ถามพวกนักมวยว่าเฮ้ยมึงเอาจริงใช่เปล่า ถ้าเอาจริงก็เดี๋ยวเอาเลย พวกเราลุยเลย แรกๆ ก็ยังไม่ได้ออกจากงานครับ ก็เลิกงานมาแล้วก็ซ้อมมวย

เลิกงานโกดังมา เลิกก่อสร้างมา สมิงดำเลิกมาก็ซ้อมมวย ซ้อมแล้วก็ไปต่อย แล้วก็ชนะๆ พอชนะเรื่อยๆ เริ่มมีคนรู้จัก ก็เลยออกจากงานเต็มตัว แล้วก็มาต่อยมวยเต็มตัวนี่แหละครับ ออกจากงานเลยตอนนั้น

คือตอนแรกผมเลิก แล้วพวกเด็กๆ มันจะเลิกตามผม ผมบอกว่ามึงไม่ต้องเลิก เดี๋ยวกูเลิก เดี๋ยวกูทำเอง ไม่ต้องกลัว เราไม่ทิ้งเขาแน่นอนพวกนี้

ฟาอีส ลูกสวน กล่าว

คือจริงๆ ค่ายลูกสวนเริ่มก่อตั้งปี พ.ศ. 2500 นะพี่ นานมากครับ แล้วสมัยนั้นเนี่ยมีระดับแชมป์ราชดำเนินหลายคนเลย ทุกวันนี้ก็เป็นอาจารย์อยู่ในค่าย เป็นคุณลุงผม แล้วค่ายลูกสวนเหมือนหายไป 30 ปีครับ แล้วก็มาเป็นรุ่นพ่อผมทำ ก็เป็นรุ่นที่ผมชก หมดจากรุ่นพ่อผม ก็เป็นผมทำ ผมมาทำเองรุ่นที่ 3 ครับ

ที่มาของชื่อค่ายลูกสวน เหมือนว่าเริ่มที่แรกก็คืออยู่ในสวนอย่างนี้ เขาเลยตั้งง่ายๆ “ลูกสวน” ครับ 2 พยางค์ง่ายๆ

ทำหน้าที่หลักดูแลรายการ คุมนักมวมซ้อม คุมวิ่ง จับเป้าเอง

ปฏิภาณ หวังเกษม : ตอนนี้มีนักมวย ถ้าเป็นนักมวยอาชีพประมาณเกือบ 20 คนครับ แล้วก็ถ้าเป็นลูกค้าอีกรวมก็ประมาณ 30 คนได้ ตัวผมเองมีหน้าที่คือ จะดูแลรายการนักมวยอาชีพ แล้วก็นักมวยต่างชาติ พอเวลาเสร็จจากงาน ว่างๆ ทุกวันครับ ผมต้องตื่นมาคุมนักมวยวิ่งเช้า

อย่างถ้าวันไหนผมไม่ได้ตื่นมาคุม ก็จะมีอาจารย์ตั้ม มีพี่ชายผมช่วยกันดู ตกเย็นผมจับเป้าทุกวันครับ พวกสุไลมาน พวกสมิงดำ ก็ช่วยกันเทรน ทำเองครับ เราไม่ได้จ้างเทรนเนอร์ เหมือนแบบว่าเป็นญาติพี่น้องเราทำกันเอง เราไม่ได้จ้างเลย

ค่ายผมไม่ใช่มวยเก่ง จะล้มสักกี่ครั้ง ก็ไม่เคยกลัว

ปฏิภาณ หวังเกษม : ก็ดีใจมากครับพี่ คือตอนที่เราทำตอนแรก เราไม่ได้หวังขนาดนี้ ในมุมมองของคนวงการมวยนะพี่ แบบว่าเฮ้ยโอ้โหมึงเอาคนขายโรตีมาต่อยมวย มึงเอาเด็กปั๊มมาต่อยมวย เอาคนก่อสร้างมาต่อยมวย มันจะไปได้ไกลแค่ไหนวะ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ

ผมคิดว่าคนพวกนี้เขามีความอดทนมุ่งมานะมากกว่าคนทั่วไปนะ มากกว่าตอนที่สมัยผมต่อยมวย เพราะสมัยผมต่อย นักมวยต้องแบบเก็บตัวอยู่ในค่าย พวกนี้เลิกงานมาซ้อมมวยได้สบายบรื๋อเลย ผมก็เลยคิดว่าขึ้นไปต่อยสู้แน่นอน

อย่างค่ายผมไม่ใช่มวยเก่งครับพี่ เหมือนแบบพอเวลาไปต่อยคนเริ่มรู้จัก จะแพ้ๆ ปุ๊บ หัวใจฮึดสู้ เดินต่อย เดินเตะ พลิกกลับมาชนะอย่างนี้ คนก็เลยชอบ ชอบค่ายลูกสวนตรงนี้ครับ

ฝากติดตามค่ายมวยลูกสวนด้วยนะครับ พวกผมมาจากศูนย์ ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว จะล้มสักกี่ครั้ง ก็ไม่เคยกลัว แม้ว่าวันไหนจะเจอเรื่องที่หนักหนา เจอคู่ชกที่เก่งกาจขนาดไหน

จะเจ็บ จะแพ้ ไม่มีกลัว ไม่มียอมแน่นอนครับ 5 ยก หรือ 3 ยก สู้ตลอดทางครับ ค่ายมวยลูกสวน ฝากติดตามด้วยครับ

“ฟาอีส” ปฏิภาณ หวังเกษม กล่าวทิ้งท้าย