บีเอ็มดับเบิลยู เผยโฉม All-new BMW 5 Series (G60) MY2024 ใหม่อย่างเป็นทางการที่ให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาป และครั้งแรกสำหรับโมเดลนี้กับขุมพลังไฟฟ้า 100% ในรุ่น BMW i5 พร้อมเริ่มประเดิมลงตลาดในเดือนตุลาคม ที่ในสหรัฐอเมริกา กับราคาเรื่มที่ 57,900 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 2 ล้านบาท
All New BMW 5-Series ยนตรกรรมซีดานหรู เจนเนอเรชั่นที่ 8 ในรหัส “G60” ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ในหลาย ๆ จุด ทั้งขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น รูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัย และพละกำลังที่ทรงพลังมากกว่าเดิม นอกจากนี้ในโมเดลนี้ยังเสริมทัพด้วยรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% ซึ่งถือว่าเป้นครั้งแรกของตระกูล 5 Series
สำหรับงานออกแบบตัวรถของ BMW 5 Series ใหม่ จะมากับกระจังหน้าไตคู่ที่ดูเพียวบางลง โดยจะมีออปชันเสริมใหห้เลือกเป็น กระจังหน้าแบบเรืองแสง BMW Iconic Glow ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นทรงแนวตั้งอยู่ในโคมเดียวกับชุดไฟหน้า
ขณะที่ด้านข้างตังรถปรับเส้นสายใหม่ เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยลายใหม่พร้อมติดสัญลักษณ์เลข 5 บริเวณเสา C-pillar
ขณะที่หลังคาด้านบนจะเป็นแบบ Sky Lounge roof ที่เข้ามาแทนที่หลังคาซันรูฟ โดยมีความยาว 33 นิ้วและกว้าง 32 นิ้ว มาพร้อมม่านบังแดดที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารแผงคอนโซลหน้าจะได้รับการออกแบบให้ดูไฮเทคพร้อมลดปุ่มควบคมุต่าง ๆ ลง โดยจะมีเพียงหน้าจอดิจิทัลจอโค้งขนาดใหญ่ ที่แบ่งเป็นหน้าจอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ iDrive 8.5 และระบบ QuickSelect ที่จะช่วยรวมทางลัดเพิ่มเติมบนหน้าจอหลักเพื่อการเข้าถึงฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังรองรับระบบสั่งงงานด้วยเสียง และท่าทาง รวมถึงเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
นอกจากนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อเกมส์ผ่านระบบ AirConsole ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถดาวน์โหลด และเล่นเกมได้แต่จะเล้นได้เฉพาะตอนรถจอดอยู่เท่านั้น
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ BMW 5 Series จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาป / ไฮบริด / PHEV และ EV โดยในรุ่น ICE อย่างในรุ่น 530i และ 530i xDrive จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 258 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร
ส่วนในรุ่น 540i xDrive จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร TwinPower ให้กำลัง 380 แรงม้า แรงบิด 540 นิวตันเมตร โดยทุกรุ่นจะได้รับระบบไฮบริดแบบ Mild-hybrid 48V ที่ปรับปรุงใหม่ ให้พละกำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และจับคู่เกียร์ Steptronic 8 สปีด
ขณะที่ในตลาดยุโรปจะมีตัวเลือกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ Mild-hybrid 48V ให้กำลังสูงุสด 208 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 330 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังมีขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 520d ที่ให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร
ด้านขุมพลัง PHEV จะเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ขณะที่ในรุ่น 550e xDrive จะเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 489 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร
ส่วนในรุ่น BMW i5 จะมีให้เลือก 2 รุ่น โดยในรุ่น i5 eDrive40 จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวให้กำลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร มากับชุดแบตเตอรี่ความจุ 84.3 kWh วิ่งไกล 475 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
ส่วนรุ่น i5 M60 xDrive จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 601 แรงม้า แรงบิด 820 นิวตันเมตร ชุดแบตเตอรี่ความจุ 84.3 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 412 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จไฟฟ้า AC สูงสุด 11kW พร้อมรองรับการชาร์จไฟ DC ขนาด 205 kW ที่ชาร์จไฟจาก 10 – 80% ภายในเวลา 30 นาที
สำหรับ BMW 5 Series จะประเดิมวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนตุลาคม โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 57,900 – 84,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2 – 2.9 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย)
แหล่งที่มาและข้อมูล : CarandDriver
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและยานยนต์ได้ที่ FEE:D