ทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน คือวันที่คนไทยจำนวนมากต่างเฝ้ารอเพราะมันคือวันที่เสียงสวรรค์จะเปล่งออกมาเป็นตัวเลข 6 หลักที่สามารถพลิกชีวิตของคนหนึ่งคนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “หวย” คือสิ่งที่ผูกพันอยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นความหวังของใครหลายคน ซึ่งพรรคก้าวไกล ผู้ชนะการเลือกตั้ง 2566 อันดับหนึ่ง ก็มีนโยบาย “หวยใบเสร็จ” ที่ได้ไอเดียมาจากโมเดลในไต้หวันซึ่งมีมานานกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย 100 วันแรกที่จะทำทันทีเมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกลระบุว่า SMEs ถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ เพราะโดยธรรมชาติยิ่งระบบเศรษฐกิจไหนมี SMEs จำนวนมาก ย่อมหมายถึงเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูง และการแข่งขันนี้จะทำให้เกิด นวัตกรรม สินค้าและบริการใหม่ๆ ทำให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกสินค้า และบริการที่ดีที่สุด และเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจภาพใหญ่
นอกจากนี้ SMEs ยังสัมพันธ์กับชีวิตของคนจำนวนมากในประเทศ โดยผู้ประกอบการ SME มีประมาณ 3 ล้านคน และจ้างงานสูงถึง 12.7 ล้านคน ซึ่งหากนับครัวเรือนที่เกี่ยวข้องก็หมายความว่า SME เกี่ยวข้องชีวิตของกว่าครึ่งของประเทศ ดังนั้นหาก SMEs เติบโต แปลว่าค่าตอบแทน โบนัส ค่าล่วงเวลาของลูกจ้างก็ต้องสูงขึ้น นั้นหมายถึงคุณภาพชีวิตของคนจำนวนมากก็ย่อมดีขึ้นเช่นกัน
แต่ปัจจุบัน SMEs ไทย มีสัดส่วน GDP เพียงแค่ 34 % ของประเทศไทยเท่านั้น และธุรกิจ SMEs ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยธุรกิจระดับเล็กที่ยังแข่งขันไม่ได้ โดยมีธุรกิจ SME จำนวนเพียง 1.4 % เท่านั้นที่เป็น SMEs ขนาดกลางได้ แต่ต้องเจอต้นทุนในการทำธุรกิจ เช่น อัตราภาษีนิติบุคคลที่เท่ากับธุรกิจขนาดใหญ่
นโยบาย SMEs จึงจำเป็นมุ่งยกระดับ SMEs และช่วยแต้มต่อให้สามารถแข่งขันกับทุนใหญ่ได้ เพราะการพัฒนา SMEs ไม่ใช่แค่เพียงการยกระดับภาคธุรกิจหนึ่งเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนจำนวนมากให้ดีขึ้น
หวยใบเสร็จคืออะไร
หวยใบเสร็จ คือ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการ SME และเพิ่มแรงจูงใจประชาชนให้มาซื้อสินค้าจากผู้ค้ารายย่อยแทน ซึ่งเมื่อใช้จ่ายครบตามที่กำหนดสามารถนำใบเสร็จไปแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อลุ้นรางวัลได้
สำหรับคนซื้อ : เมื่อซื้อสินค้าจาก SMEs ครบ 500 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ (จำกัดไม่เกิน 2 ใบ/คน/เดือน และ จำนวน 10 ล้านคน/เดือน)
สำหรับคนขาย หรือ ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ : เมื่อขายสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ
จุดเริ่มต้นหวยไทย
ย้อนกลับไปสมัย พ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยครูชาวอังกฤษ “อาลบาสเตอร์” ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการออกลอตเตอรี่ตามแบบยุโรป เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าต่างชาติที่นำสินค้ามาร่วมแสดงในการจัดพิพิธภัณฑ์ที่ตึกคองดาเดียในพระบรมมหาราชวัง (ศาลาสหทัยสมาคมในปัจจุบัน)
กระทั่งในปี พ.ศ. 2482 เป็นยุคที่สลากกินแบ่งรัฐบาลเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง โดยคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลพันเอกหลวงพิบูลสงคราม มีมติโอนให้ย้ายกิจการสลากินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงเทศบาล มาสังกัดกระทรวงการคลัง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้นมา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2482 จึงถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันสถาปนาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวดมีจำนวนรวม 14,168 รางวัล มูลค่ารวม 48,000,000 บาท
- รางวัลที่ หนึ่ง จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 6,000,000 บาท
- รางวัลที่ สอง จำนวน 5 รางวัล มูลค่า 200,000 บาท
- รางวัลที่ สาม จำนวน 10 รางวัล มูลค่า 80,000 บาท
- รางวัลที่ สี่ จำนวน 50 รางวัล 40,000 บาท
- รางวัลที่ ห้า จำนวน 100 รางวัล มูลค่า 20,000 บาท
- รางวัลข้างเคียงรางวัลที่หนึ่ง จำนวน 2 รางวัล มูลค่า 100,000 บาท
- รางวัลเลขหน้า 3 ตัว เสี่ยง 2 ครั้ง จำนวน 2,000 รางวัล มูลค่า 4,000 บาท
- รางวัลเลขท้าย 3 ตัว เสี่ยง 2 ครั้ง จำนวน 2,000 รางวัล มูลค่า 4,000 บาท
- รางวัลเลขท้าย 2 ตัว เสี่ยง 1 ครั้ง จำนวน 10,000 รางวัล มูลค่า 2,000 บาท
แหล่งที่มาข้อมูล
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล : https://www.glo.or.th/about/history , https://www.glo.or.th/mission/reward-payment/check-reward
นโยบายหวยใบเสร็จพรรคก้าวไกล : https://election66.moveforwardparty.org/policy/detail/policy_260