ต้องยกให้เป็นคู่จิ้นวัยรุ่นที่มาแรงอย่างมากในตอนนี้ สำหรับ “เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์” และ “โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล” นักแสดงสังกัด GMMTV ที่แจ้งเกิดจากการประกบคู่กันครั้งแรกในซีรีส์วัยมัธยม Puppy Love กับเรื่อง “แฟนผมเป็นประธานนักเรียน My School President” ที่เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุก EP. ของการออนแอร์ และล่าสุดแฟนๆ กำลังจะได้ชมการแสดงของ 2 หนุ่ม ในอีกคาแรคเตอร์กับซีรีส์ “Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่”
FEED ได้พูดคุยกับทั้ง 2 หนุ่ม ถึงการก้าวมาโลดแล่นในเส้นทางวงการบันเทิง รวมถึงการใช้ชีวิตที่ต้องโตขึ้นของเด็กหนุ่มวัย 18 งานนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ศิลปินที่มีเป้าหมายชัดเจน และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแฟนๆ ที่พร้อมซัพพอร์ต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เจมีไนน์: สวัสดีครับผมเจมีไนน์ครับ
โฟร์ท: ผมโฟร์ท ณัฐวรรธน์ครับ
การใช้ชีวิตในวงการบันเทิง ความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
โฟร์ท: รู้สึกดีใจอยู่แล้วครับที่มีคนชื่นชอบเยอะครับ มีคนชอบซีรีส์ของพวกเราครับ เพราะว่าพวกเราก็ตั้งใจทำซีรีส์เรื่องนี้ ก็ไปเรียนทุกอย่างเลย เรียนร้องเพลง เรียนแอคติ้ง เพื่อซีรีส์เรื่องนี้เลย ดีใจมากๆ ครับ
เจมีไนน์: เช่นกันครับ ก็ไม่คิดว่าคนจะชอบเยอะขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคนนะครับที่สนับสนุน ที่ชอบ ที่รักเราครับ
ตอนนี้พอใจกับตัวเองขนาดไหน
โฟร์ท: พอใจกับตัวเองขนาดไหน…ก็รู้สึกดีใจครับ ภูมิใจครับ
เจมีไนน์: พอใจไหมกับตัวเองตอนนี้…พอใจในระดับนึงครับ แต่ก็ยังไม่พอใจขนาดนั้น อยากมากกว่านี้อีก อยากไปเรื่อยๆ อยากทำให้ดีที่สุด ทั้งในด้านนี้ แล้วก็ด้านการเรียน แล้วก็ด้านทุกอย่างครับ
วงการบันเทิงให้อะไรกับทั้งคู่
เจมีไนน์: ประสบการณ์ครับ ประสบการณ์ที่มีน้อยนิดของผมทางด้านการแสดง แล้วก็การทำงานในวงการบันเทิงครับ ผมรู้สึกว่าประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงานวงการบันเทิง เพราะว่าเราต้องเข้าใจในหลายๆ อย่าง ในการวางตัว การคิด การทำงาน เราต้องทำงานกับคนหลายๆ คน ไม่ได้แค่เราคนเดียว เราก็ต้องไม่ได้เข้าใจแค่เราด้วย ต้องเข้าใจคนอื่นด้วย พาร์ทของชีวิตการทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ก็มีอุปสรรคเหมือนกันครับ เรื่องเวลาครับ เวลาไปเรียนก็จะน้อยลง เพราะว่าตอนนี้เริ่มมีงานเข้ามา ก็รู้สึกว่าการเรียนก็สำคัญ การงานก็สำคัญเหมือนกัน แล้วยิ่งตอนนี้มันกำลังดีอยู่ ผมก็รู้สึกว่าต้องเก็บเกี่ยวทางด้านนี้ด้วย แล้วก็การเรียนก็ทำไปด้วย ก็จะพยายามทำให้ดีทั้งสองอย่างครับ
โฟร์ท: ของผมคิดว่าอาจจะไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรขนาดนั้นครับ เพราะว่าพ่อแม่ ให้แบ่งเวลาดีๆ อยู่แล้วเรื่องการเรียน กับการทำงานครับ ก็มีความสุขมากกว่าครับ มีความสุขได้ทำงาน ได้มาเจอแฟนคลับทุกวัน ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิตที่พึ่งได้สัมผัสอะไรอย่างนี้ ก็รู้สึกดีครับ
First Impression ของทั้งคู่เป็นอย่างไร
เจมีไนน์: ก่อนที่จะมาทำงานเคยรู้จักกันครับ ประกวดเข้ามาพร้อมกัน เข้ามาพร้อมกันก็อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้วครับ
โฟร์ท: เกือบ 4 แล้ว 3-4 ปีแล้ว
เจมีไนน์: สำหรับโฟร์ทเป็นคนนิ่งๆ ครับ เป็นคนที่ขี้เขิน ขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูด ดูเป็นคนเงียบๆ ตอนแรกนะครับ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว
โฟร์ท: ได้ความกล้าแสดงออกมาจากการแสดง การแสดงอะครับ การแสดงที่ตัวละครกันต์ผมว่าได้ความกล้าแสดงออกจากตัวกันต์ เวลาเล่น เวลา Workshop มันจะไม่ใช่ตัวผม เวลาแบบต้องตะโกน ต้องทะเลาะกับคนอื่น ต้องพูดนู่นนี่นั่น ก็ได้ความกล้าแสดงออกมาจากตรงนั้นครับ
เจมีไนน์ในสายตาโฟร์ทเป็นอย่างไร
โฟร์ท: เจมีไนน์ในสายตาเราเป็นอย่างไร ก็เป็นคนที่ดีครับ ถ้าเขานอนมาพอน่ากลัวมาก เพราะเขาจะเล่นตลอดเวลา มันไม่รู้จักเหนื่อยเจมีไนน์ แต่ก็ดีนะครับเป็นคนที่ Positive ไม่ค่อยโกรธใคร อยู่ด้วยแล้วมีพลังงานบวกกลับมาครับ
ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าจะมีผลงานร่วมกัน
โฟร์ท: ก็รู้สึก
เจมีไนน์: ดี
โฟร์ท: รู้สึกอุ่นใจครับ เพราะว่าเรารู้จักกันมาแล้ว ถ้าไปเล่นกับคนอื่นอย่างนี้ก็ต้องทำความรู้จักคนอื่น
เจมีไนน์: จูนใหม่
โฟร์ท: จูนใหม่ครับ ทำให้แบบเวลาเข้าซีนไม่เขินกัน เวลาเข้าซีนมันไหลครับ มันโฟลว์
แฟนผมเป็นประธานนักเรียน มาสู่พระจันทร์ข้าวมันไก่
โฟร์ท: ที่จริงพระจันทร์มันไก่จะถ่ายก่อน My School President แฟนผมเป็นประธานนักเรียน ครับ ผมก็ได้ประสบการณ์จากพระจันทร์มันไก่มา แต่ว่ามันก็อาจจะเทียบกันไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นคนละแนวกัน หนังคนละแนวกันครับ พระจันทร์มันไก่จะเป็นหนังแนวดราม่า โรแมนติกดราม่า แต่ว่าแฟนผมเป็นประธานนักเรียนจะเป็นแบบ
เจมีไนน์: โรแมนติกคอมเมนดี้
โฟร์ท: โรแมนติกคอมเมดี้ครับ ก็ต้องปรับตัว ปรับตัวอยู่ในการแสดง
บทบาทในเรื่องของทั้งคู่เป็นยังไง
โฟร์ท: ของผมหลี่หมิง ตัวละครในเรื่องจะชื่อหลี่หมิงครับ หลี่หมิงเป็นหลานของลุงจิม ลุงจิมคือพี่เอิร์ทครับ หลี่หมิงก็จะเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นวัยรุ่นชอบดื้อ ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่ลุงจิมวางไว้ เขาก็จะไม่ค่อยชอบลุงจิม ชอบทะเลาะกับลุงจิมบ่อย แล้วหลี่หมิงก็ไปรู้จักกับฮาร์ท ฮาร์ทก็คือเจมีไนน์ ฮาร์ทจะเป็นคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินครับ เกิดอุบัติเหตุอะไรสักอย่างครับที่ทำให้เขาไม่ได้ยิน ผมที่เป็นหลี่หมิงก็ต้องไปทำความรู้จักกับเขา ก็ต้องพูดภาษามือกับเขา ก็ต้องไปเรียนรู้ภาษามือจากฮาร์ทครับ ก็เป็นความท้าทายอีกอย่างนึงที่ต้องใช้ภาษามือครับ
เจมีไนน์ต้องรับบทเป็นคนไม่ได้ยิน
เจมีไนน์: ตอนแรกตกใจครับ ตกใจแล้วก็ดีใจด้วยที่ได้รับบทนี้ เพราะว่าหลายๆ คนก็อยากจะเล่นบทอย่างนี้ เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะใช้ทักษะการแสดงที่ค่อนข้างจะเยอะ ซึ่งก่อนที่ผมจะมาเล่นบทนี้ ผมก็มีไป Workshop ครับ Workshop คุยกับคนที่ใช้ภาษามือจริงๆ ก็ได้เรียนรู้มาจากทางนั้นด้วย แล้วก่อนที่ชีวิตประจำวันตอนนั้นก่อนที่จะไปเข้ากอง ผมใส่หูฟังที่มันกันเสียงจากข้างนอก แล้วก็เปิดเสียงดังๆ แล้วก็ไปอยู่ในที่สาธารณะ ผมรู้สึกว่ามันจะเปิดเซนส์ๆ นึงให้ได้เยอะขึ้น คือเซนส์การสังเกต เพราะผมรู้สึกว่าการที่เราแบบไม่ได้ยินแล้วคนอื่นเขาพูดไรกัน เราต้องสังเกตตลอดว่าคนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ คนนี้ทำอะไรอยู่ ซึ่งผมก็เอามาใช้กับการแสดงเหมือนกันครับ ค่อนข้างที่จะยากเลยครับ ผมรู้สึกว่าการที่ไม่ได้ยิน มันยากกว่าที่ต้องใช้ภาษามือ เพราะเวลาที่มันมีแบบเสียงอะไรปั้งมาอย่างนี้ เราต้องห้ามตกใจ ห้ามหัน ใครพูดอะไรเราห้ามหันอย่างนี้ ซึ่งผิดธรรมชาติในตัวผม
โฟร์ท: ต้องทำสมาธิ
เจมีไนน์ไม่มีบทพูดเลยใช่ไหม
เจมีไนน์: ไม่มีบทพูดครับ มีแบบพยายามจะพูด แต่ทั้งเรื่องไม่ได้พูดเลยครับ
โฟร์ท: เฮ้ย
เจมีไนน์: ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม
โฟร์ท: ไม่ ไม่สปอย อาจจะกลับมาเหมือนเดิม
เจมีไนน์: ไม่รู้สินะ
โฟร์ท: อาจจะกลับมาเหมือนเดิม หรือไม่กลับมาเหมือนเดิมก็ต้องไปรอดูในซีรีส์ครับ
การเข้าถึงบทบาทตัวละครยากแค่ไหน
โฟร์ท: ยากครับ ยากมากเลยครับ เพราะว่าผลงานก่อนหน้านี้ก็จะเป็น F4 Thailand จะเป็นแนวคอมเมดี้ ดราม่านิดหน่อยครับ แต่ว่าเรื่องนี้จะดราม่าจ๋าๆ เลยครับ ส่วนใหญ่ดราม่าจะไปเข้ากับพี่เอิร์ทครับ ที่เป็นลุงจิมในเรื่องก็หิน ถือว่าหินเหมือนกันครับ แต่ว่าพี่ออฟได้พี่ออฟ เป็นผู้กำกับครับ พี่ออฟคอยบิวต์คอยบอกว่าต้องเล่นแนวไหนอะไรยังไงครับ ก็ทำให้ทำงานง่ายขึ้น
เจมีไนน์: ด้วยความที่ฮาร์ทเป็นคนที่หลังจากที่เป็นโรคที่ทำให้หูหนวกก็จะปิดกั้นไม่ไปโรงเรียน จะค่อนข้างเป็นเด็กมีปัญหานิดหน่อยครับ แล้วครอบครัวก็ไม่ได้ยอมรับขนาดนั้นครับ แบบไม่เข้าใจว่าเออหูหนวกแล้วมันทำไม ก็จะมีปัญหาเรื่องครอบครัวนี่แหละครับที่จะเข้ามาเป็นดราม่า ก็ยากอยู่เหมือนกันครับเพราะว่าเวลาทะเลาะกับใคร ก็ต้องภาษามือ (หัวเราะ) พูดไม่ได้ เวลาผมโกรธมากๆ หรือแบบอยากๆ จะพูดอย่างนี้ก็พูดไม่ได้ มันต้องภาษามือ สายตาต้องมาแบบ สีหน้าต้องมาอย่างเดียวเลยครับ ท่าทาง พูดไม่ได้
การทำงานกับพี่ๆ รู้สึกอย่างไรบ้าง
เจมีไนน์: ครั้งแรกที่เจอเลยครับ สบายครับ เพราะว่าพวกพี่ๆ ให้คำแนะนำ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดแล้วก็แบบตอนไม่ได้เขาซีน ก็เป็นเพื่อนกันคุยธรรมดาครับ ก็ถือว่าทำให้บรรยากาศในกองไม่กดดัน ไม่เครียดกันครับ
โฟร์ท: ชอบครับ ชอบพี่เอิร์ท พี่มิกซ์ตลกดี (หัวเราะ) เขาชอบเล่นมุก ก็ไม่ได้เล่นมุกหรอก เขาชอบพูดอะไรตลกๆ ครับผม ชอบ เวลาทำงานก็จะไม่เครียด เพราะว่าทำงานส่วนใหญ่จะเป็นซีนดราม่าอย่างนี้ พอเล่นเสร็จมันก็จะเครียด เวลาได้เล่นกับพี่เอิร์ท พี่มิกซ์ พี่เฟิร์ส พี่ข้าวตัง เขาจะชอบแซว ชอบหยอกอะไรอย่างนี้ เจมีไนน์ด้วย ก็รู้สึกดีแล้วก็นอกเหนือจาก 6 คนนี้ ก็ได้ทำงานกับรุ่นใหญ่ๆ หลายคนเลย มีพี่สุ่ย พี่ลูกหว้า ที่เป็นแม่ผม แล้วก็มีพี่ใครอีกคนนึง
เจมีไนน์: พี่มาร์ค พี่มาร์คนี่รุ่นใหญ่
โฟร์ท: อ่าพี่มาร์ครุ่นใหญ่
เจมีไนน์-โฟร์ท: (หัวเราะ)
โฟร์ท: ทำงานกับพี่ๆ รุ่นใหญ่ ก็ได้ประสบการณ์จากพี่ๆ รุ่นใหญ่มาเยอะ เยอะมากเลยครับ ก็ดูดวิชาจากพวกเขาครับ
เจมีไนน์: ดูดวิชา
ในฐานะนักแสดง ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการสื่อสารอะไรกับคนดู
โฟร์ท: ผมว่ามันเรียลมากๆ มันเป็นชีวิตของคนตอนกลางคืน เขาทำอะไรบ้าง เป็นชีวิตของคนจริงๆ ว่าคนๆ นี้ จะไปเจอปัญหาอะไร แต่ละคนก็จะมีปัญหาของตัวเองครับ
เจมีไนน์: จริงๆ ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่ด้านเดียว มีอยู่หลายด้าน ซึ่งบางทีเราก็เห็น บางทีเราก็ไม่เห็น แล้วซีรีส์เรื่องนี้จะนำมุมที่คนไม่ได้เห็นหลายๆ มุมมาให้ทุกคนดูครับ ซึ่งผมว่าอย่างที่โฟร์ทบอกอะครับ ซีรีส์เรื่องนี้มันเรียลมากก็อยากให้ทุกไปดูครับว่าชีวิตคนเรามันมีอย่างนี้จริงๆ เราก็จะอยู่กับมันอย่างไรให้ได้
คาดหวังกับผลงานชิ้นนี้ขนาดไหน
โฟร์ท: ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ได้โชว์ความสามารถทางการแสดงครับ ทางการแสดงถือว่าเยอะเลยครับก็อยากให้ทุกคนเห็นความสามารถของพวกผม อย่างเจมีไนน์จะได้โชว์ความสามารถของเขาการแสดง เพราะว่าบทเขาก็ถือว่ายากผมว่าบทมันยากที่ไม่ได้ยิน ของผมก็เป็นแนวดราม่าก็อยากให้ทุกคนรอติดตาม เห็นผมน่ารักๆ ใสๆ ในแฟนผมเป็นประธานนักเรียน ก็อยากให้ไปเห็นอีกมุมนึงในเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร รับรองต่างกันคนละขั้วเลยครับ
เจมีไนน์: ใช่ครับ ก็อยากให้ทุกคนมาดูผลงานแรกของผมละกัน อันนี้คือผลงานแรกเลย ไม่ใช่ผลแรก ผลงานแรกคือแฟนผมเป็นประธานนักเรียน แต่ว่าอันนี้เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่เล่นละกัน ที่เดบิวต์เข้าวงการเลย เดบิวต์เลย ก็คาแรคเตอร์ก็ต่างจากประธานนักเรียนเหมือนกันครับ มันเป็นซีรีส์ที่ผมอยากให้ทุกคนไปดูละกันครับ
เป้าหมายต่อไปของทั้งสองคน
โฟร์ท: ช่วงนี้ก็ให้ความสำคัญกับ 2 เรื่องเป็นหลักครับ เรื่องเรียนกับเรื่องการทำงานครับ ผมยังให้ความสำคัญเรื่องเรียนเป็นที่หนึ่ง แล้วก็ให้ความสำคัญกับเรื่องงานเป็นที่สองครับ แต่ว่าไม่ใช่ไม่อยากทำงานนะ แต่ว่าไม่รู้ว่าเราจะทำตรงนี้ได้อีกถึงเมื่อไหร่ครับ เราจะมีคนชื่นชอบ มีกระแสไปถึงเมื่อไหร่ ก็อยากมีอีกสายงานนึงที่ไว้เป็นตัวเลือกอะไรอย่างนี้ครับ
เจมีไนน์: ส่วนผมตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวทางด้านทำงานได้เท่าไหร่ก็จะเก็บเกี่ยวให้ได้มากเท่านั้นครับ แล้วก็พัฒนาตัวเองให้มีงานเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่องการเรียนของมหาลัยฯ ก็อยากจบครับ อยากเรียนให้จบ แล้วก็เป้าหมายของผมที่สุดในชีวิตเลยละกันคือการที่ผมดูแลครอบครัวได้ ปีนี้ละกันผมแพลนว่าผมอยากที่จะซื้อรถ แล้วก็ถ้ามีกำลังมากพอก็อยากที่จะซื้อบ้านครับ ในปีสองปีนี้ครับ อยากให้มันเป็นอย่างนั้นครับ
โฟร์ท: ซื้อรถ ซื้อบ้านแล้ว ซื้อให้ผมด้วย
เจมีไนน์: ไม่ซื้อๆ ไม่มีตังค์ (หัวเราะ)
ตอนนี้ครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง
เจมีไนน์: ที่บ้านภูมิใจครับ เพราะแม่อยากให้ผมมาเป็นนักแสดง อยากให้มาทำงานทางด้านวงการบันเทิง แม่ชอบมาก แม่นี่ FC นัมเบอร์วันของผมเลย (หัวเราะ) แม่ดูซีรีส์ผมทุกตอน ติดตามหมดเลย เขาก็ภูมิใจครับ เขาอยากให้มาทางนี้ก็ดีใจที่เห็นภูมิใจในตัวเรา แล้วเขาก็บอกว่าอย่าหยุดแค่นี้นะไปเรื่อยๆ แล้วก็เรื่องการเรียนก็อย่าทิ้ง เราก็ทำตามเขา
โฟร์ท: ก็นั่นแหละครับ ก็พ่อแม่ก็ภูมิใจแหละ เขาอาจจะไม่ได้แสดงออกอะไรอย่างนี้ แต่ว่าเขาคอยซัพพอร์ตเวลาพูดแล้วจะร้องไห้ โหซึ้ง
เจมีไนน์: ร้องสิ
โฟร์ท: ไม่ร้องหรอก
เจมีไนน์: (หัวเราะ)
โฟร์ท: เวลาผมนั่งรถอะ เวลาผมนั่งรถกลับบ้านผมรู้สึกดีใจ ร้องไห้ จะร้องไห้ ไม่เป็นไรผมอดทน ผมรู้สึกดีใจ เดี๋ยวแป๊บนึงจะร้องไห้ เดียวแป๊บนึง (ร้องไห้) ตื้นตันใจ โอเคก็บางวันเช่นผมนั่งรถกลับบ้าน ผมก็รู้สึกดีใจที่ทำให้เขาภูมิใจในตัวผมครับ ใช่ โอ้ยคิดไม่ออกเลย คิดไม่ออก ไม่รู้จะพูดไร ก็ต้องขอบคุณ ขอบคุณพวกเขาที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กอะไรอย่างนี้ (ร้องไห้) โอ้ย เดี๋ยวนะ ใช่ต้องขอบคุณพวกเขาที่ดูแล ขอบคุณครับ แล้วก็บอกว่าผมรักพ่อ รักแม่ แล้วก็รักครอบครัวผม
แรงสนับสนุนจากครอบครัวผลักดันให้มาถึงจุดนี้
โฟร์ท: (ร้องไห้) โอ้ย ตายละ โอเคหายซึ้งละ
เจมีไนน์: ฮะ
โฟร์ท: โอเคหายละครับ ใช่ขอบคุณเขา
เจมีไนน์: อะไรวะ (หัวเราะ)
โฟร์ท: ไม่อยากซึ้งละ ไม่อยากดราม่า
เจมีไนน์: ไม่อยากดราม่า
โฟร์ท: ขอบคุณๆ
เจมีไนน์: ดราม่าพอแล้วในพระจันทร์มันไก่
โฟร์ท: ใช่
ตอนนี้อยากบอกอะไรกับตัวเอง
เจมีไนน์: อยากบอกตัวเองว่าดีใจด้วย ดีใจด้วย มึงเก่งแล้ว แล้วมึงเก่งได้มากกว่านี้อีก ทำให้พ่อแม่ภูมิใจไปเรื่อยๆ แล้วก็ทำให้คนรักเราไปเรื่อยๆ อย่าทิ้งการเรียน แล้วก็อย่าทิ้งการงาน ทำทุกด้านให้ดีที่สุดในชีวิตของเราครับ
โฟร์ท: โฟร์ทมีอะไรอยากจะบอกโฟร์ท ขอบคุณมากที่ตั้งใจ ขอบคุณมากที่ทำเต็มที่กับทุกๆ อย่าง ที่ได้รับโอกาสมา แล้วก็โฟร์ทก็อย่าหลงตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงแล้วอะไรอย่างนี้ ก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ทำให้ตัวเองเก่งขึ้นทุกวันๆ แล้วก็อย่าทิ้งการเรียนอย่างที่น้องเจมีไนน์บอก เข้าใจไหมน้องโฟร์ท ใช่ครับ ก็เก่งมากแล้ว ขอบคุณมากนะครับน้องโฟร์ท
ฝากผลงานกันหน่อย
โฟร์ท: ก็ฝากติดตาม Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ ด้วยนะครับ ออนวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้แล้ว เวลา 6 โมงเย็น ทุกๆ วันพุธ และวันพฤหัสบดี ที่ Disney+Hotstar นะครับ ก็ฝากติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ