ก้าวเข้าเดือนแห่งความรัก “วันวาเลนไทน์” (Valentine’s day) หลายคู่คงพากันไปท่องเที่ยวพักผ่อนเพิ่มความหวานตามสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าหากคู่ไหนยังไม่มีแพลนไปไหนแล้วล่ะก็ วันนี้ทีมงาน FEED ขอแนะนำ 5 หนังรักหลากรส ที่จะมอบความสุขและสนุกให้คุณต้อนรับวันวาเลนไทน์ 2566
1. Call me by your name – เอ่ยชื่อคือคำรัก (2017)
เริ่มต้นด้วยภาพยนตร์เรื่องแรก Call me by your name ที่ได้รับการดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของผู้เขียน “อันเดร อะซีแมน” (Andre Aciman) ตีพิมพ์เมื่อปี 2007 ก่อนที่จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ออกฉายในปี 2017 โดยได้ “ลูก้า กัวดาญิโน” (Luca Guadagnino) นั่งแท่นผู้กำกับที่เคยรังสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมมาแล้วอย่าง I Am Love (2009), A Bigger Splash (2015), และ Melissa P. (2005) นอกจากนั้น งานการกำกับภาพอันงดงามตราตรึงสายตาผู้ชมเป็นฝีมือของ “สยมภู มุกดีพร้อม” ผู้กำกับภาพชาวไทย พร้อมด้วย “ชัยธวัช ไตรสารศรี” คัลเลอริสต์ชาวไทย มาช่วยปรับแต่งสีให้ภาพสวยงามจับใจมากยิ่งขึ้น
สำหรับเอ่ยชื่อคือคำรัก คือภาพยนตร์แนวโรแมนติก ดราม่า Coming of age นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่างชายหนุ่มสองคนท่ามกลางฤดูร้อนทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีปี 1983 “เอลิโอ” (Elio) รับบทโดย “ทิโมธี ซาลาเมต” (Timothee Chalamet) เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย หลงใหลในเสียงเพลง ไม่ประสีประสาเรื่องความรัก อาศัยอยู่ในคฤหาสน์เก่าแก่กับครอบครัว และ “โอลิเวอร์” (Oliver) รับบทโดย “อาร์มี่ แฮมเมอร์” (Armie Hammer) นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 24 ปี ได้เดินทางมาช่วยงานวิจัยให้ศาสตราจารย์ของเขา นั่นก็คือพ่อของเอลิโอ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ แม้ว่าทั้งสองคนจะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกไม่ดีต่อกันมากนัก แต่ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปความรู้สึกของพวกเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยน โดยเฉพาะเอลิโอที่เอาแต่เฝ้าคิดถึงโอลิเวอร์ตลอดเวลา ท้ายที่สุดเขาก็รู้หัวใจตัวเองว่าตัวเขาได้ตกหลุมรักโอลิเวอร์ไปเสียแล้ว
2.Twilight – แวมไพร์ ทไวไลท์ (2008)
ภาพยนตร์เรื่อง Twilight ได้รับการดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของผู้เขียน “สเตเฟนี เมเยอร์” (Stephenie Meyer) ตีพิมพ์เมื่อปี 2005 ก่อนที่จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ออกฉายในปี 2008 การมาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภาพลักษณ์แวมไพร์แทบจะทั้งหมด เนื่องจากสมัยก่อนแวมไพร์จะต้องมีฟันแหลม ดื่มเลือดมนุษย์ ชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย และปรากฏตัวได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น แต่ทว่าแวมไพร์ในทไวไลท์กลับตรงกันข้าม เพราะดื่มเลือดจากสัตว์ป่า สามารถโดนแสงแดดได้ แถมยังใช้ชีวิตในตอนกลางวันเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปได้อีก
สำหรับแวมไพร์ ทไวไลท์ คือภาพยนตร์แนวโรแมนติก แฟนตาซี นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์สาวกับแวมไพร์หนุ่ม
“เบลล่า สวอน” (Bella Swan) รับบทโดย “คริสเตน สจ๊วต” (Kristen Stewart) เด็กสาวที่พ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เธอต้องย้ายตามพ่อมาอยู่ในเมืองที่มีอากาศชื้นตลอดทั้งปีอย่าง “ฟอร์คส” ไม่กี่วันหลังจากนั้นเธอก็ได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครอบครัวของ “เจคอบ แบล็ก” (Jacob Black) รับบทโดย “เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์” (Taylor Lautner) เพื่อนชายสมัยเด็ก ซึ่งเขาถึงกับเก็บอาการไม่อยู่เมื่อได้เจอเบลล่าในวัยสาวสวยสะพรั่ง แต่การย้ายมาอยู่ในเมืองใหม่นี้ เธอต้องปรับตัวอย่างหนักทั้งสภาพแวดล้อมและเพื่อนในโรงเรียน รวมไปถึงการได้เจอชายหนุ่มรูปงามลึกลับอย่าง “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” (Edward Cullen) รับบทโดย “โรเบิร์ต แพททินสัน” (Robert Pattinson) เขาเป็นผู้ชายในแบบที่เธอไม่เคยพบมาก่อนทั้งแข็งแรง ฉลาด และมีความสามารถ อีกทั้งดวงตาเขาราวกับมองทะลุผ่านหัวใจเธอได้
3.The Notebook – รักเธอหมดใจขีดไว้ให้โลกจารึก (2004)
ภาพยนตร์เรื่อง The Notebook ได้รับการดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของผู้เขียน “นิโคลัส สปาร์กส์” (Nicholas Sparks) ก่อนที่จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ออกฉายในปี 2004 ซึ่งเขาถือเป็นเจ้าพ่อนิยายโรแมนติกดราม่าที่เคยฝากผลงานเอาไว้มากมายและติดอันดับหนังสือขายดีมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น A Walk to Remember, Dear John, และ The Last song โดยเฉพาะ The Notebook ติดอันดับหนังสือขายดีข้ามปีของ New York Times อีกทั้งผลงานเกือบจะทั้งหมดของเขาก็ถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ เรียกได้ว่าการันตีคุณภาพและฝีมือของเขาจริงๆ
สำหรับรักเธอหมดใจ ขีดไว้ให้โลกจารึก คือภาพยนตร์แนวโรแมนติก ดราม่า นำเสนอเรื่องราวการตกหลุมรักกันระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ต่างชนชั้นกัน โดยเล่าผ่านสมุดบันทึกที่ชายชราเล่าให้หญิงชรากำลังจะสูญเสียความทรงจำไป “โนอาห์” (Noah) รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) เป็นเพียงแค่ผู้ชายฐานะยากจนและมีชีวิตธรรมดาทั่วไป แต่ดันไปตกหลุมรักสาวสวยฐานะร่ำรวยอย่าง “แอลลี แฮมิลตัน” (Allie Hamilton) รับบทโดย เรเชล แม็คอดัมส์ (Rachel McAdams) แม้ว่าเริ่มแรกแอลลีจะหวงเนื้อหวงตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งครอบครัวของแอลลีไม่ชอบโนอาห์ จึงกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทั้งคู่ต้องกุมมือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ ประจวบกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันโดยปริยาย แต่เพราะโชคชะตาฟ้าลิขิตได้นำพาทั้งคู่ให้โคจรกลับมาพบกันอีก
4.Set It Up – แผนแก้เผ็ดเผด็จเจ้านาย (2018)
ภาพยนตร์เรื่อง Set it up เป็นผลงานของค่าย Netflix แนวโรแมนติก คอมเมดี้ นำเสนอเรื่องราวของเลขาสองคนทำงานอยู่ในตึกเดียวกัน “ฮาร์เปอร์” (Harper) รับบทโดย โซอี ดุตซ์ (Zoey Deutch) เลขาสาวของ “เคิร์สเตน” (Kirsten) รับบทโดย ลูซี่ หลิว (Lucy Liu) ผู้สื่อข่าวกีฬาชื่อดัง แต่ดันเป็นเจ้านายจอมเฮี๊ยบ บ้างาน เอาแต่ใจ ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง ทำให้ฮาร์เปอร์ไม่มีเวลาส่วนตัวและได้ใช้ชีวิตสนุกสนานอย่างคนอื่น รวมถึงสานต่อความฝันให้เป็นจริงในการเป็นนักเขียนคอนเทนต์ที่เก่งกาจและสามารถผลิตผลงานออกมาได้ ขณะที่ “ชาร์ลี” (Charlie) รับบทโดย เกลน โพเวลล์ (Glen Powell) เลขาชายหนุ่มวัย 28 ปี ของ “ริก” (Rick) รับบทโดย เทย์ ดิกก์ (Taye Diggs) นักวิเคราะห์ทางการเงิน เจ้านายที่บ้างานไม่แพ้กัน งานรัดตัวจนไม่มีเวลาดูแลแฟนตัวเอง และเมื่อเขาได้รับข้อเสนอขอเลิกกับแฟน ยิ่งทำให้ริกต้องกลายมาเป็นกระโถนรองรับอารมณ์เจ้านายเต็มรูปแบบ ดังนั้น ทั้งสองคนจึงตกลงร่วมมือกันวางแผนแก้เผ็ดเจ้านาย ไหนๆ เจ้านายบ้างานกันขนาดนี้ ก็จับพวกเขาทั้งคู่ให้มารักกันซะเลย แล้วลูกน้องอย่างเราจะได้มีชีวิตส่วนตัวเสียที แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งพวกเขาสวมบทกามเทพมากเท่าไหร่ พวกเขาดันตกหลุมรักกันเองซะงั้น
5.Isn’t it romantic – รักฉันซึ้งปนฮา (2019)
ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์เรื่อง Isn’t it romantic เป็นผลงานของค่าย Netflix แนวโรแมนติก คอมเมดี้ บอกเล่าเรื่องราวของ “นาตาลี” (Natalie) รับบทโดย เรเบล วิลสัน (Rebel Wilson) สถาปนิกสาวผู้มีปมในใจเกี่ยวกับหนังโรแมนติก เนื่องจากถูกแม่พูดกรอกหูมาแต่เด็กว่า ความรักไม่เหมือนดั่งเทพนิยาย และชีวิตคู่ก็ไม่มีวันจบแบบมีความสุขหรอก เพราะเราไม่ได้สวยอย่างจูเลีย โรเบิร์ต ใน Pretty Woman เธอจึงโตมากับความคิดแง่ลบต่อความรัก ไม่ยอมเปิดใจให้กับใคร แต่แล้ววันหนึ่งเธอโดนโจรปล้น และเมื่อฟื้นคืนมาพบว่าตนเองติดอยู่ในโลกหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ที่ไม่ว่าหันไปทางไหนก็มีแต่สีชมพูอยู่เต็มไปหมด และนั่นทำให้เธอได้พบกับหนุ่มรูปงามกล้ามใหญ่อย่าง “เบลค” (Blake) รับบทโดย “เลียม เฮมส์เวิร์ธ” (Liam Hemsworth) ที่คลั่งรักเธอไม่ไหว