สุนัขสัตว์เลี้ยงที่ถูกยกให้เป็นเพื่อนแท้ของมนุษย์หลายคนอาจมองว่าการบริโภค “เนื้อสุนัข” เป็นเรื่องชวนอ้วกหรือน่าขยะแขยง แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นสิ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายศตวรรษเมื่อครั้งที่อยู่ในช่วงสงครามและช่วงอดอยาก โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียและแอฟริกาที่เนื้อสุนัขถูกนำมาทำอาหารไม่ต่างจากเนื้อสัตว์ชนิดอื่นอย่างเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่
จากข้อมูลของสมาคมมนุษยาธรรมนานาชาติ (Humane Society International) บอกว่า เอเชียเป็นทวีปที่มีการบริโภคเนื้อสุนัขมากที่สุดมีสุนัขกว่า 30 ล้านตัวถูกฆ่าเพื่อนำไปเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ในจำนวนนี้บางส่วนเป็นสุนัขบ้านที่มีคนเลี้ยงไว้ซึ่งถูกขโมยเพื่อนำไปขายให้กับโรงเชือด
ประเทศในแถบเอเชียที่ยังคงบริโภคเนื้อสุนัขประกอบด้วย จีน, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์, ไทย, ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา, อินโดนีเซีย และรัฐนากาแลนด์ประเทศอินเดีย
จีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคเนื้อสุนัขมากที่สุดในโลกเฉลี่ย 10 ล้านตัวต่อปี (เป็นการบริโภคเนื้อแมวอีก4 ล้านตัวต่อปี) โดยเฉพาะที่เมืองหยู่หลินซึ่งมีงานฉลองประจำปี “เทศกาลลิ้นจี่และเนื้อสุนัข” ที่นักรณรงค์ต่อต้านการบริโภคเนื้อสุนัขประเมินว่าปีที่มีเทศกาลใหญ่จะมีสุนัขและแมวถูกฆ่าเพื่อนำมาทำอาหารประมาณ 10,000 ตัวตลอดการจัดงาน 10 วัน
ไม่ใช่แค่อร่อยแต่กินแล้วโชคดี
เวียดนามประเทศที่มีการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นอันดับสองเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ล้านตัวต่อปี ปัจจุบันการบริโภคเนื้อสุนัขพบเห็นได้แค่ในพื้นที่ชุมชนบางแห่งเท่านั้น ผลสำรวจขององค์กรสวัสดิภาพสัตว์ Four Paws เมื่อปี 2020 ระบุว่า มีชาวเวียดนามเพียง 6.3% เท่านั้นที่ยังบริโภคเนื้อสุนัข โดยอยู่ในกรุงฮานอยเมืองหลวงของประเทศ 11% และในนครโฮจิมินห์น้อยกว่า 2% แม้จะยังมีผู้ที่บริโภคเหลืออยู่แต่ไม่ได้หมายความพวกเขาบริโภคเนื้อสุนัขทุกมื้ออาหาร แต่จะมีเมนูจากเนื้อสุนัขเฉพาะโอกาสสำคัญๆ อย่างช่วงสิ้นเดือน ช่วงสิ้นปี หรือเมื่อกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ เท่านั้น
เมื่อถามว่าทำไมถึงต้องบริโภคเนื้อสุนัขไม่มีสัตว์หรืออาหารอย่างอื่นแล้วหรือ ตามความเชื่อพื้นบ้านของชาวเวียดนามบอกว่า “สุนัขเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย ความตาย และนำมาซึ่งโชคร้าย ดังนั้นการบริโภคเนื้อสุนัขในช่วงปลายเดือนหรือสิ้นปีจะถือว่าช่วยให้พ้นเคราะห์” หรือสรุปสั้นๆ เป็นการสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อท้องถิ่นนี่จึงเป็นแรงกระตุ้นอย่างหนึ่งที่ทำให้คนเวียดนามเชื่อเรื่องการบริโภคเนื้อสุนัขแม้จะไม่มีหลักฐานใดชี้ว่ามันได้ผลจริง แต่ความเชื่อนี้ก็ถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
ยาชูกำลังสำหรับท่านชาย
แม้จะดูโหดร้ายแต่สำหรับคนที่บริโภคเนื้อสุนัขบอกว่านี่คือเมนูชั้นเลิศที่ต้องกินเมื่อตั้งวงดื่มกับเพื่อน คลุกเคล้ากับขิง, ตะไคร้, กะปิ และเถาเสนียด (ตดหมูตดหมา) ไม่เพียงแค่นั้นเพราะมีความเชื่อที่บอกกันปากต่อปากว่า เนื้อสุนัขเป็นเหมือนยาโด๊ปช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้กับชายหนุ่มด้วย
หยุดบริโภคเนื้อสุนัข
ในปี 2018 กรมปศุสัตว์และสัตวบาลฮานอยออกแคมเปญกระตุ้นให้ชาวเมืองลดการบริโภคเนื้อสุนัข ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างมากเพราะร้านจำหน่ายเนื้อสุนัขและแมวมีจำนวนลดลงประมาณ 30% ขณะที่ในเมืองฮอยอันก็ออกข้อกำหนดห้ามการบริโภคและจำหน่ายเนื้อสัตว์ทั้งสองชนิด โดยเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างตัวแทนของเมืองฮอยอันและองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ Four Paws เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 นับเป็นเมืองแรกของเวียดนามที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้
“Nguyen Thi Kim Quy” คุณยายชาวเวียดนามซึ่งเคยเป็นช่างทำผมที่ในตอนนี้เธอขับรถจักรยานยนต์พาสุนัข 13 ตัวตระเวนไปบนท้องถนนที่พลุกพล่านในกรุงฮานอย คุณยายอุทิศเวลาที่เหลืออยู่ของเธอในการช่วยเหลือสุนัขไร้บ้านเพื่อไม่ให้พวกมันต้องลงเอยอยู่บนโต๊ะอาหารหรือถูกทำร้าย
“เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากถ้าพวกมัน(สุนัข)ถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ ฉันทนไม่ได้จริงๆ สำหรับฉันแล้วการบริโภคเนื้อสุนัขหรือแมวนับเป็นการก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่ง”
วัฒนธรรมการบริโภคเนื้อสุนัขกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อชาวเวียดนามเริ่มนำสุนัขมาเลี้ยงเป็นเพื่อนมากขึ้น “ฉันคิดว่าชาวเมืองฮานอยเริ่มมองสัตว์เหล่านี้เป็นเพื่อนมากขึ้น จากเดิมที่มองว่าสุนัขเป็นอาหารอันโอชะ” ทุกวันเธอจะตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อพาสุนัขไปเดินเล่นและในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเธอแปลงโฉมสุนัขเหล่านี้เป็นซานตาคลอสและกวางเรนเดียร์เพื่อร่วมเฉลิมฉลองช่วงส่งท้ายปี
ภาพของเธอที่ขับรถจักรยานยนต์บรรทุกสุนัขทั้ง 13 ตัวขับไปทั่วกรุงฮานอยกลายเป็นที่สนใจสำหรับคนที่พบเห็นที่เข้ามาขอถ่ายรูปเพื่อนำไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย “เมื่อพวกเขาเห็นสุนัขต่างก็อดยิ้มไม่ได้ บางครั้งก็ยังเอาของขวัญ(ขนม)เล็กๆ น้อยๆ มาให้สุนัขของเธอด้วย”
สำหรับคุณยาย Quy แล้วเธอเชื่อว่า “สัตว์เลี้ยงนำมาซึ่งความสงบสุข และยังช่วยขจัดความเศร้าและความเหนื่อยล้า สำหรับฉันแล้วสุนัขเป็นเปรียบเสมือนเพื่อนแท้ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากมอบความรักช่วยเหลือสุนัขที่ถูกทิ้งและที่ถูกทำร้ายทุกตัว”
อ่านบทความ “สุนัข” เพื่อนผู้แสนดีที่กำลังรอความช่วยเหลือ : https://feedforfuture.co/feed-life/8250/
แหล่งข้อมูลประกอบบทความ
- World Population Review : https://worldpopulationreview.com/country-rankings/what-countries-eat-dogs
- เทศกาลลิ้นจี่และเนื้อสุนัข : https://www.bbc.com/thai/international-40363426
- Do people actully eat dogs in Vietnam? : https://ama-vietnam.com/do-people-actually-eat-dogs-in-vietnam/
- We Animals Media : https://weanimalsmedia.org/2022/08/25/new-investigation-inside-vietnams-dog-meat-trade-and-wet-markets/
- TaiPei Times : https://www.taipeitimes.com/News/world/archives/2022/12/18/2003790953