ท่ามกลางสงครามรัสเซียยูเครนที่ตึงเครียดกันมาเป็นเวลานานเกือบ 1 ปี และท่าทีที่ยังไม่รู้จะจบยังไงในสงครามครั้งนี้ รัสเซียที่หวังจะยึดกรุงเคียฟให้ได้ ยูเครนที่หวังจะขับไล่ทหารรัสเซียออกไปจากดินแดนของตนและชนะสงครามครั้งนี้ แม้ในช่วงฤดูหนาวที่เผชิญอยู่ ท่าทีของแต่ละฝ่ายจะดูมีความเคลื่อนไหวที่ช้าลง สำหรับประชาชนทั่วโลกยังคงต้องใช้เวลาในการติดตามไปอีกสักระยะว่าเหตุการณ์จะลงเอยเช่นไร
ล่าสุด Time หนังสือแมกกาซีนชื่อดัง จัดอันดับให้ “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี” (Volodymyr Zelenskiy) ประธานาธิบดีของยูเครนคือบุคคลแห่งปี 2022 ไม่ใช่แค่นั้นปีนี้ Time ยังยกย่องจิตวิญญาณของชาวยูเครนทุกคนที่ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องดินแดนบ้านเกิดของตน ชาวยูเครนทุกคนที่ออกมาช่วยกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าหมอที่ออกมาสอนให้ประชาชนรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พ่อครัวที่ทำอาหารกว่าพันจานเพื่อเลี้ยงปากท้องของชาวยูเครนที่ต้องเผชิญกับศึกสงคราม รวมไปถึงคนยูเครนที่อยู่นอกประเทศเช่นเหล่านักกีฬา E-Sport ที่คอยเป็นกระบอกเสียงบอกเล่าความโหดร้ายของสงครามไปยังชาวโลก
แรกเริ่มเดิมทีในครั้งที่รัสเซียเริ่มก่อสงครามและบุกเข้ายูเครน เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นคนที่หนีออกไปนอกประเทศและทิ้งให้ชาวยูเครนต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้าย แต่เขาได้พิสูจน์ตัวต่อชาวโลกว่า ไม่เหมือนใครและเป็นคนแบบที่โลกนี้ไม่ได้พบเห็นมานาน เซลนสกีเลือกที่จะอยู่เพื่อสู้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเยือนแนวรบในพื้นที่ต่างๆ การกล่าวสุนทรพจน์ที่ทำให้ชาวโลกจนเป็นผลให้เกิดการประณามรัสเซียในเวทีโลก การช่วยเหลือในด้านต่างๆ แม้ว่าจะมีการกระทำบางอย่างที่ทำให้ถูกติติงว่าไม่เหมาะสมจากการที่พยายามที่จะเผยแพร่ความโหดร้ายของสงความสู่สายตาชาวโลก
ในเวลานี้ท่าทีของยูเครนดูแล้วเป็นไปในทิศทางที่ค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งผิดกับทางรัสเซียที่เริ่มขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์หนักขึ้นเข้าไปทุกที แต่เหล่านักวิชาการทางการสงครามยังคงมองว่าเมื่อใดที่รัสเซียเข้าใกล้การใช้อาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียยิ่งเข้าใกล้ความพ่ายแพ้มากขึ้น
สำหรับรางวัลบุคคลแห่งปี 2021 เป็นของ “Elon Musk” บุคคลที่ตอนนี้คนไทยคงคุ้นชื่อเป็นอย่างดีภายหลังการเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่เรียกได้ว่าเปิดราคากันมาให้ตลาดคึกคัก โดยในปีที่แล้ว Time ยกย่องว่า Elon Musk เป็นคนที่สร้างบริษัทรถยนต์ที่ผลักดันการใช้รถไฟฟ้าที่มีมูลค่าที่สูงที่สุดในโลก
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
นิตยสาร Time
https://www.reuters.com/world