ชื่อของ “กัณวีร์ สืบแสง” และพรรคเป็นธรรม พรรคการเมืองที่มีว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพียงคนเดียว ถูกกล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย หลังจากได้รับคำเชิญร่วมรัฐบาลที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ เป็นแกนนำ FEED จึงได้รวบรวมข้อมูลประวัติของนายกัณวีร์ และพรรคเป็นธรรม มาให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้น
นายกัณวีร์ สืบแสง มีชื่อเล่น “นล” ปัจจุบันอายุ 46 ปี จบการศึกษาระดับมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศและมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยออริกอน (University of Oregon)
ประสบการณ์ทำงาน
เริ่มต้นรับราชการในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำงานเกี่ยวกับชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และความมั่นคงของชายแดนภาคใต้ เป็นเวลา 8 ปี ก่อนจะไปทำงานอยู่กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งมีอาณัติในการคุ้มครองผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศ และผู้พลัดถิ่นภายในประเทศไทย โดยเดินทางทำงาน 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ ,ซูดานใต้ ,ซูดานเหนือ ,ยูกันดา ,บังกลาเทศ และเมียนมา เป็นเวลาทั้งหมด 12 ปี ทำงานกับกลุ่มผู้ลี้ภัยในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม มีโอกาสสร้างกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ประเทศซูดานเหนือและซูดานใต้
จากนั้นก็เดินทางกลับมายังประเทศไทย มาตั้งมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ทำงานด้านการสร้างสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และมนุษยธรรม ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ทางฝั่งตะวันตกเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวพม่า รวมถึงสร้างสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ประสบการณ์การเมือง
ช่วงปี 2565 นายกัณวีร์ เริ่มต้นงานการเมืองกับพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค โดยได้รับการวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวง-ประเวศ กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ทันได้ลงสมัคร เขาตัดสินใจลาออกในปีเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาทำงานภาคประชาชน ในนามมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1ตุลาคม 2565 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา พรรคเป็นธรรมได้แถลงข่าวการเปิดตัว “กัณวีร์ สืบแสง” เป็นประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรค โดย ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคกล่าวว่า นายกัณวีร์เป็นคนตั้งใจทำงาน จะนำประสบการณ์จากองค์การสหประชาชาติ มาทำงานให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทุกพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งมีจุดยืนตรงกับพรรค
และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นพรรคใหม่ โดยมีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เป็นหัวหน้าพรรค และมีนายกัณวีร์ สืบแสง เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 การเลือกตั้งครั้งนี้ ได้คะแนนโหวต 181,226 คะแนน ส่งผลให้พรรคเป็นธรรมได้เก้าอี้ ส.ส. 1 ที่นั่ง นั่นคือนายกัณวีร์
ปัจจุบัน นอกจากจะเป็นว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นายกัณวีร์ ยังเป็นประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ซึ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ และประเด็นเรื่องผู้ลี้ภัยด้วย
อุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม
ขณะที่ “พรรคเป็นธรรม” พรรคการเมืองน้องใหม่ มีคำประกาศอุดมการณ์ ระบุว่า ความไม่เป็นธรรม คือ สนิมของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทยที่บ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มาเป็นเวลานาน ส่งผลให้การบริหารจัดการประเทศในทุกมิติ เกิดความเหลื่อมล้ำ ขัดแย้งปิดกั้นโอกาสของส่วนรวม แต่เกิดประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ทำให้ศักยภาพของประเทศมีความถดถอย เสื่อมโทรม แทนที่จะพุ่งไปข้างหน้า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งรวมถึงความอยู่ดี กินดี มีความสุขอย่างกว้างขวางและทั่วถึงให้กับประชาชนทุกพื้นที่
ด้วยความเชื่อมั่นใน ประชาธิปไตย และความศรัทธาในความเป็นธรรม ทำให้จุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม คือ ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ซึ่งจะเปิดโอกาสแห่งความเป็นธรรม ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมการศึกษา คุณภาพชีวิตและกฎระเบียบต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของชนทุกชั้น ทุกเพศ ทุกวัย พรรคเป็นธรรมกำเนิดขึ้นท่ามกลางบริบทการเมืองใหม่ที่เน้นคุณค่าของประชาธิปไตยและประชาชนเป็นหลัก
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์มติชน และประชาชาติธุรกิจ