“แคน – นายิกา ศรีเนียน” อีกหนึ่งคนที่เปลี่ยนบทบาทจากไอดอลสาวจากวง BNK48 เข้าสู่ถนนสายการเมือง ผ่านการสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล และล่าสุด “แคน” ก็ได้ลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคก้าวไกล ร่วมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่อย่างเต็มตัว
หลายคนคงรู้จัก “แคน” ในบทบาทของสมาชิกวงไอดอล BNK48 แต่เธอได้ยุติการเป็นสมาชิก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2561 และเริ่มเข้าสู่การทำงานจิตอาสา “แคน” เป็นลูกสาวของ “ภูวกร ศรีเนียน” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พะเยา จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และในช่วงเดือนธันวาคม 2563 “แคน” ได้เข้าสภาทำหน้าที่ที่ปรึกษาอนุคณะกรรมาธิการอีสปอร์ตด้วย
หลังจากลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคก้าวไกล ล่าสุด “แคน” ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี ขอประชาชนเลือก ส.ส.และพรรคก้าวไกลเข้าสภา ตัดวงจรรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร สร้างเศรษฐกิจหายจน เรียกเสียงปรบมือสนั่น
ตัดวงจรรัฐประหาร สาเหตุร่วมพรรคก้าวไกล
แคน – นายิกา ศรีเนียน : สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน วันนี้แคน จะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางกับพรรคก้าวไกล ต้องย้อนกลับไปสมัยที่แคนยังเด็ก แคนเติบโตมาในครอบครัวของคนเสื้อแดง เราเห็นคนในครอบครัวของเราออกไปต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เราเกิดคำถามว่าทุกหนังสือเรียน ทุกโรงเรียน มีการบอกไว้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองในแบบประชาธิปไตย แต่ทำไมทุกๆ ปีที่ผ่านมา มันถึงยังมีการออกมาเคลื่อนไหว ร้องขอให้คนเท่ากัน ขอให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริงในประเทศ นั่นเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาตลอดชีวิตแคน 25 ปี แคนไม่เคยเห็นประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเลย ประเทศเราเกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง ในช่วงอายุของแคน ตั้งแต่ปี 2549 และปี 2557 ทุกครั้งที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตย และกำลังจะเบ่งบาน มักจะถูกระงับด้วยการรัฐประหาร แคนจึงตัดสินใจเข้ามาร่วมเดินทางกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกล มีนโยบายที่จะตัดวงจรรัฐประหารครั้งนี้
ปฏิรูปกองทัพฯ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
แคน – นายิกา ศรีเนียน : เราจะปฏิรูปกองทัพฯ เอาทหารออกจากการเมือง ให้ทหารมาอยู่ใต้พลเรือน การปฏิรูปกองทัพฯ ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร จริงๆ มันควรจะเกิดขึ้นตั้งนานแล้ว แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่เคยมีใครพูดถึง ไม่เคยมีใครกล่าวถึง กลับถูกทำซ้ำ ๆ การรัฐประหารเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 7 ปี 1 ครั้ง แล้วประเทศเราได้อะไร ประเทศเรายังคงเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และไม่เปลี่ยนเป็นประเทศที่พัฒนาเสียที
“นโยบายพรรคก้าวไกลการปฏิรูปกองทัพฯ อย่างแรกเลยก็คือเราจะมีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนหรืออำนาจต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม ลดจำนวนนายพลลง ถ้าเลือกก้าวไกลตอนนี้ ปีหน้าไม่ต้องจับใบดำใบแดง”
แคน – นายิกา ศรีเนียน กล่าว
การเมืองดี ปากท้องดี
แคน – นายิกา ศรีเนียน : การเมืองดี ปากท้องเราต้องดี เพราะฉะนั้นก้าวไกลมองเห็นจุดนี้ เราไม่ได้มีแค่เรื่องปราศรัยในสภา เรายังมีนโยบายอีก 300 กว่าข้อ ที่ตอบสนองทุกๆ ด้าน ทุกๆ ปัญหา เพื่อพี่น้องประชาชน เรามีนโยบายเรื่องของรัฐสวัสดิการ อันนี้เป็นนโยบายที่พูดกันบ่อยมาก และเป็นนโยบายที่พรรคเราคิดว่าประชาชนสมควรได้รับ เพราะมันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจ ทุกวันนี้เรามีเบี้ยคนชรา 600 ,700 ,800 บาท แต่มันไม่เพียงพอ พรรคก้าวไกลจึงเสนอปรับขึ้นเบี้ยคนชราเป็น 3,000 บาท สำหรับคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
ส่วนใครที่อยากจะเพิ่มจำนวนประชากรให้ประเทศไทย ให้มีเด็กเกิดใหม่มากขึ้น เด็กแรกเกิดรับของขวัญไปเลย 3,000 บาท เด็กเล็กรับเดือนละ 1,200 บาท เงินตรงนี้จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ ประหยัดค่าผ้าอ้อม ประหยัดค่านม และในส่วนผู้พิการก็เพิ่มเบี้ยเป็น 3,000 บาท เช่นกัน
ความเหลื่อมล้ำ กับอนาคตของชาติ
แคน – นายิกา ศรีเนียน : สุดท้ายเรื่องของอนาคต แคนอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาที่ได้พบเจอมา การเข้าไม่ถึงการศึกษา ความไม่เท่าเทียม ทั้งๆ ที่เราควรจะมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน เรื่องราวมันเกิดขึ้นตอนที่แคน จะสอบเข้ามัธยมศึกษาตอนต้น ตอนนั้นเพื่อนๆ ในโรงเรียนเกิดการแข่งขันกันว่าถ้าเราสอบติดโรงเรียนนี้เราจะเป็นคนเก่ง เราจะเป็นคนที่สอบติดโรงเรียนระดับท็อปของประเทศ แคนก็สมัครเข้าไปมีคนมาสอบเป็นพันคน สุดท้ายแคนสอบติด แต่เมื่อถึงวันรายงานตัวมีเอกสารยื่นมาว่ามีค่าบำรุงการศึกษาซึ่งไม่ใช่ค่าเทอม และถ้าเราไม่จ่ายเราจะไม่มีสิทธิเข้าเรียนที่นี่ แม้จะสอบติดและเป็นโรงเรียนของรัฐบาล เหตุการณ์นี้คือการจำกัดสิทธิเด็กๆ ก้าวไกลเรามีนโยบายเพื่อการศึกษาเพื่อลูกหลานของทุกๆ คน คือเรียนฟรี มีอาหารกลางวัน มีรถรับส่ง เพื่อลูกหลานจะได้มีอนาคตที่ดี เพื่อน้องๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้มีรถรับส่งช่วยผู้ปกครองประหยัดค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
“14 พฤษภาคมนี้ สิ่งที่พรรคก้าวไกลอยากได้มากๆ คือการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
แคน – นายิกา ศรีเนียน กล่าวทิ้งท้าย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2564 แคน เคยให้สัมภาษณ์กับ FEED หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ในตอนนั้นแคนได้เล่าถึงสาเหตุที่เลือกเข้าสู่เส้นทางการเมือง และพรรคก้าวไกล พร้อมเป้าหมายไว้ว่าตนเองเป็นเด็กกิจกรรมทั้งรองประธานค่ายอาสา ค่ายรับน้อง ชอบทำกิจกรรมพัฒนาชุมชน และฝักใฝ่เรื่องความยุติธรรม การเมือง เพราะว่าเห็นมาตั้งแต่เด็ก
และได้เข้าไปเป็นสมาชิกวง BNK เพราะเล็งเห็นว่ามีกิจกรรมที่สามารถเป็นกำลังใจให้ผู้คนได้ เช่นงานจับมือ จึงรู้สึกอยากทำเพราะว่าเป็นสิ่งใหม่ แต่ก็คิดอยากจะทำอะไรที่มากกว่านั้น อยากจะลงมาแก้ปัญหา อยากจะจัดการเรื่องต่างๆ ที่คิดว่าภาครัฐควรช่วยสนับสนุนประชาชน จึงเลือกมาสมัครที่พรรคก้าวไกล พอเริ่มทำก็รู้สึกสนุก มี passion อาจจะมีเหนื่อยกายบ้างแต่ไม่เหนื่อยใจ ก็เลยเป็นความฝันอันใกล้ที่อยากพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น
ในการสัมภาษณ์แคน เมื่อ 2 ปีก่อน แคนก็ได้พูดถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำของการศึกษา ไว้ว่าตนเองมีโอกาสได้เรียนทั้งโรงเรียนเอกชนและรัฐบาล พบว่ามันมีกฎระเบียบต่างๆ ที่เราสงสัยแต่เราตั้งคำถามไม่ได้ รวมไปถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำของคุณภาพชีวิตในสังคม โดยเฉพาะปัจจัยหลักที่มนุษย์ทุกคนควรจะได้ เช่น การศึกษา การเข้าถึงข้อมูล และการผูกขาดของธุรกิจในประเทศ
“เพราะเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่อยากเห็นก็คงไม่เข้ามา เราเคยไปลงถนน ไปชุมนุม มันเกิดการเคลื่อนไหว แต่มันยังไม่เปลี่ยนแปลง เราอยากเปลี่ยน เราก็ต้องมาอยู่ในสนามที่มันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ วันหนึ่งอยากจะเป็นคนที่มีอำนาจในการบริหาร นั่นคือเป้าหมายทางการเมืองของเรา”