สิ้นสุดการรอคอยของ “Hyper Knife” ซีรีส์การแพทย์สุดระทึก ออริจินัลคอนเทนต์เกาหลีจาก Disney+ Hotstar ที่แฟน ๆ ปักหมุดรอกันอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่ต้นปี พร้อมพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของอัจฉริยะทางการแพทย์นำแสดงโดย “พัคอึนบิน” (จาก Extraordinary Attorney Woo, The King’s Affection) ที่มารับบทเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทอัจฉริยะ พลิกบทบาทใหม่ที่เข้มข้นและท้าทายยิ่งขึ้น พร้อมประกบคู่กับ “ซอลคยองกู” (จาก Memoir of a Murderer, Oasis) ในบทอาจารย์แพทย์ผู้เป็นทั้งแรงผลักดันและศัตรูของเธอ ผู้ชมจะได้เต็มอิ่มไปกับดราม่าความเข้มข้น การันตีความไปสุดด้วยการประชันฝีมือของสองนักแสดงระดับท็อป
เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความตื่นเต้นให้สมกับการรอคอย Disney+ Hotstar ได้จำลองโรงพยาบาลลึกลับที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hyper Knife ขึ้น ณ ลานกิจกรรม Q Stadium ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ภายใต้แนวคิดของซีรีส์ที่ว่า “มีด… เครื่องมือเพื่อช่วยชีวิต และอาวุธเพื่อฆ่า” งานเปิดตัวเริ่มต้นด้วยฉากหน้าโรงพยาบาลที่ดูเผินๆ เหมือนโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบประสาทและสมองทั่วไป ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของการแพทย์ในการช่วยชีวิต แต่เมื่อสำรวจลึกลงไป ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับอีกด้านที่ดำมืดของโรงพยาบาลใต้ดิน รวมถึงห้องรับแขกที่ถูกปกคลุมด้วยพลาสติกอย่างพิถีพิถัน สื่อถึงความลึกลับและบรรยากาศอันเย็นเยียบของอีกมุมหนึ่งของการแพทย์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมทดสอบสมองเล็กๆ น้อยๆ ให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์สุดสมจริง เสมือนกลายเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทอัจฉริยะด้วยตัวเอง
Hyper Knife แตกต่างจากซีรีส์การแพทย์ทั่วไปด้วยความสดใหม่ของแนว “การแพทย์ระทึกขวัญ” โดยทั่วไปซีรีส์การแพทย์มักเล่าเรื่องของแพทย์ที่เก่งกาจและการช่วยชีวิตคนไข้ แต่ Hyper Knife กลับพาผู้ชมไปสำรวจ ‘ด้านมืดของอัจฉริยะทางการแพทย์’ ที่ถูกความหมกมุ่นในฝีมือของตัวเองเข้าครอบงำ นี่ไม่ใช่เรื่องราวของแพทย์ผู้มีเมตตา หากแต่เป็นเรื่องราวของแพทย์ผู้ที่ไล่ล่าความสมบูรณ์แบบ จนพร้อมจะก้าวข้ามเส้นของจริยธรรมเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่เข้มข้นจนอาจเรียกได้ว่าบ้าคลั่ง ตลอดจนไดนามิกของตัวละครหลักที่มีปมขัดแย้งอันน่าติดตาม
ผู้กำกับ คิมจองฮยอน (โด่งดังจากผลงาน After the Rain, My Fellow Citizens!) เผยว่า “คำที่นิยาม Hyper Knife ได้ดีที่สุดคือความตึงเครียดและความขัดแย้ง เรื่องราวนี้เป็นเหมือนสนามรบระหว่างสองตัวละครหลัก เซอ๊กและด็อกฮี ทั้งคู่มีบาดแผลลึกที่ไม่อาจประสานกันได้ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาคือสองด้านของเหรียญเดียวกัน ผมชอบเคมีระหว่างนักแสดงหลักทั้งสองมาก บทบาทที่พวกเขาเคยแสดงมานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนแรกอาจดูเหมือนว่าพวกเขาไม่น่าจะเข้ากันได้ง่ายๆ แต่ผมเห็นว่าเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทั้งคู่กลับทำให้เคมีบนจอดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น”
