น้ำตาลถูกตั้งข้อสงสัยมานานว่าแท้จริงแล้วเป็นสารอาหารที่ทำลายสุขภาพ มากกว่าให้ประโยชน์หรือเปล่า เพราะน้ำตาลเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเกาต์ ภาวะไขมันพอกตับ โรคไต ไขมันในเลือดสูง กรดยูริคในเลือดสูง ทำให้ฟันผุ เป็นต้น

แม้ว่าการรับประทานน้ำตาลจะส่งผลเสียต่อร่างกายขนาดไหน นอกจากความหวาน และให้พลังงานแก่ร่างกายแล้ว น้ำตาลยังช่วยให้ระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย และเนื้อเยื่อต่างๆ สามารถทำงานได้เป็นปกติยิ่งขึ้น เนื่องจากอวัยวะในการหายใจ การขับปัสสาวะ ระบบการไหลเวียนของเลือด และการย่อยอาหาร ล้วนแล้วแต่ต้องการความร้อน และพลังงานจากน้ำตาลแทบทั้งสิ้น

แต่ถ้าน้ำตาลไม่ดีต่อร่างกายเราจริงๆ แล้วทำไมเราถึงอยากกินน้ำตาลนัก คำตอบแบบสั้นๆ ก็คือ น้ำตาลที่เข้าสู่กระแสเลือดจะไปกระตุ้นศูนย์ความพึงพอใจในสมองตำแหน่งเดียวกับที่ตอบสนองต่อเฮโรอีน และโคเคน อาหารที่มีรสอร่อยออกฤทธิ์ในลักษณะเดียวกันนี้ในระดับหนึ่ง เพราะอย่างนี้เราถึงรู้สึกว่าอร่อยนัก แต่น้ำตาลส่งผลร้ายอย่างชัดเจน อาจเรียกได้ว่า น้ำตาลเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง

“น้ำตาลทราย” และความหวาน  อาจจัดได้ว่าเป็นสารเสพติด ที่หากไม่ได้กินก็จะมีอาหารหงุดหงิดฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด ดังนั้นการบริโภคน้ำตาลอาจจะดีกว่าการเสพยาเสพติดนิดเดียว คือ เสพแล้วไม่ได้มีอาการหลอนจนเที่ยวเอามีดไปเที่ยวไล่แทงใคร แต่การกินน้ำตาลปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ก็เหมือนการเอามีดกรีดตัวเองให้เป็นแผลเรื้อรัง เสียเลือดทีละนิด และเมื่อรู้ตัวอีกทีก็เกิดโรคมากมาย

ดังนั้นปริมาณน้ำตาลต่อวัน ควรเลือกรับประทานน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันจะดีที่สุด ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ชาย-หญิงทั่วไปควรทานน้ำตาลในปริมาณวันละ 6 ช้อนชา (2 ช้อนโต๊ะ) หรือสูงสุดไม่เกิน 10 ช้อนชา หากทานในปริมาณเท่านี้ โอกาสเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพหรือโรคต่างๆ ก็ย่อมลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม นอกจากน้ำตาลแล้ว ผู้บริโภคยังควรทานคาร์โบไฮเดรตอย่างอื่นในจำนวนที่เหมาะสม เพราะคาร์โบไฮเดรตสามารถแปรสภาพเป็นน้ำตาลได้ อย่าง ข้าว และผลไม้ ซึ่งอาจทำให้คนที่ทานน้ำตาลน้อยยังมีปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงได้ ทางที่ดีควรหมั่นไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก :

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
องค์การอนามัยโลก (WHO)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก