โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ รุกต่อตลาดเฮลท์แคร์แบบองค์รวมเพื่อมอบการดูแลรักษาเฉพาะทางให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียม ล่าสุดเดินหน้าเปิดศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ (Urology Center) มุ่งรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ที่เหมาะสมกับผู้ป่วย รวมถึงเผยนวัตกรรม “UROLIFT” เทคโนโลยีส่องกล้องเพื่อขยายท่อปัสสาวะ ชูความปลอดภัยสูง ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน ฟื้นตัวเร็ว และไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต โรคร้ายที่กระทบต่อการใช้ชีวิตของชายไทยเกินครึ่งและทำให้ผู้ชายเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากมาย หากปล่อยไว้ไม่รักษาให้หาย รพ. วิมุต เผยการเปิดตัวศูนย์ทางเดินปัสสาวะและนวัตกรรม UROLIFT สอดรับกับเทรนด์การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดการดูแลสุขภาพผู้ชายทั่วโลก พร้อมหนุนเทรนด์ Heconomy หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยกำลังซื้อของผู้ชาย หลังข้อมูลพบว่าผู้ชายหันมาตื่นตัวเรื่องสุขภาพและลงทุนกับการดูแลตนเองเพื่อให้ห่างไกลโรคภัยมากยิ่งขึ้น โดยรพ.วิมุต มั่นใจนวัตกรรม UROLIFT จะได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมโรงพยาบาลประกาศเดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการทางการแพทย์ของเมืองไทยและส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

หน่วยงานวิจัย Research And Markets รายงานว่าซึ่งในปี 2023 ตลาดสุขภาพเพศชายมีมูลค่าราว 1.27 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2029 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชายในปัจจุบันมีความใส่ใจในสุขภาพและคุณภาพชีวิตในภาพรวมมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าตลาดจะเติบโตในอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 12.44% (ในช่วงระยะคาดการณ์ปี 2024 – 2029) นอกจากนี้ งานวิจัยของ Data Bridge Market Research ยังพบว่า โรงพยาบาลเป็นผู้ให้บริการที่ครองตลาดสุขภาพของผู้ชายมากที่สุด ส่วนหนึ่งมีปัจจัยหนุนจากจำนวนโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ผู้ชายเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ได้รับมาตรฐานเพื่อรักษาการเจ็บป่วยได้มากขึ้น โดยนอกจากผู้ชายจะหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจแล้ว ยังมุ่งเน้นการดูแลตนเองด้วยแนวทางอื่น ๆ อาทิ การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย เป็นต้น โดยเทรนด์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากการเติบโตของตลาดอาหารเสริมสำหรับผู้ชาย แพลตฟอร์มติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย บริการแพทย์ทางไกล และบริการสุขภาพดิจิทัลอื่น ๆ

นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุต ยังคงมอบบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม พร้อมยกระดับการดูแลรักษาโรคให้ครอบคลุมด้วยศูนย์เฉพาะทางที่เพียบพร้อมด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ตอบโจทย์การรักษา เพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจของผู้ใช้บริการ รพ. วิมุต ยังคงเดินหน้ามอบบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสะดวกสบายตอบโจทย์ผู้ใช้บริการเพื่อให้ทันกับยุคสมัยใหม่ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไป”

รพ. วิมุต เล็งเห็นว่าเพศชายมีความเสี่ยงต่อหลากหลายโรคที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งภาวะต่อมลูกหมากโต เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้ชายทั่วโลกอย่างมาก โดยสถิติพบว่าโรคต่อมลูกหมากโต พบได้ถึง 50% ในผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไป และถึง 80% ในผู้ชายอายุ 70 ปีขึ้นไป เราจึงอยากสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยของโรคนี้ที่ถึงแม้ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงจนทำให้เสียชีวิต แต่อาการแทรกซ้อนจากโรคนี้ ทำให้ผู้ชายเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เช่นกัน ยิ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่า ผู้ชายมีอายุเฉลี่ยที่ 73.5 ปี ในขณะที่ผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยถึง 80.5 ปี ซึ่งแน่นอนว่ามาจากหลายปัจจัย แต่หนึ่งในนั้นคือโรคเรื้อรังจากพฤติกรรมและโรคเฉพาะทาง โดยเฉพาะความผิดปกติของต่อมลูกหมากและมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่ชายไทยเป็นจำนวนมาก และการเปิดศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะและการเผยนวัตกรรม UROLIFT เพื่อนำมาใช้ในโรงพยาบาลเป็นแห่งแรก ๆ ในประเทศไทยนั้น สอดคล้องกับความตั้งใจของเราในการยกระดับการดูแลรักษาโรคเฉพาะทางให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการทุกเพศทุกวัย” นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย อธิบาย

นายแพทย์วรพงษ์ เลิศวีระศิริกุล หัวหน้าศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลวิมุต เผยว่าศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะของรพ.วิมุต เพียบพร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ซึ่งทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพที่พร้อมมอบการดูแลรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากที่สุด สำหรับโรคต่อมลูกหมากโต หรือ BPH (Benign Prostate Hyperplasia) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมาก ซึ่งหุ้มอยู่ล้อมรอบท่อปัสสาวะ มีขนาดใหญ่ขึ้นจนไปเบียดท่อปัสสาวะให้แคบลง ทำให้เกิดปัญหาอาการปัสสาวะผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น ปัสสาวะลำบาก ต้องเบ่ง ไม่พุ่ง ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะบ่อย ต้องลุกมาปัสสาวะกลางดึกหลายครั้ง รวมถึงการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หากมีอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อรีบหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตได้ เป็นต้น”

นายแพทย์ดนัยพันธ์ อัครสกุล แพทย์ผู้ชำนาญการศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะ กล่าวว่าเนื่องจากโรคต่อมลูกหมากโตเป็นปัญหาสุขภาพที่สัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น จึงเป็นโรคที่เราป้องกันไม่ได้ แต่ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้เรามีแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยและฟื้นตัวได้เร็ว ประเด็นสำคัญจึงเป็นการพบแพทย์เพื่อตรวจต่อมลูกหมากเป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะนอกจากโรคต่อมลูกหมากโตแล้ว มะเร็งต่อมลูกหมากก็เป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถือเป็นมะเร็งอันดับ 4 ที่พบได้ในเพศชาย โดยมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกอาจไม่มีอาการชัดเจน มักตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพหรือการตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากในเลือด (serum PSA) ที่มีค่าสูงเกินปกติ เมื่อเซลล์มะเร็งขยายตัวจนเบียดท่อปัสสาวะ อาจทำให้มีปัญหาในการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่พุ่ง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มีอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ หรือมีเลือดปนมากับปัสสาวะและอสุจิ ซึ่งเป็นอาการที่คล้ายกับโรคต่อมลูกหมากโต แต่จริง ๆ แล้วต่อมลูกหมากโตไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็ง คนที่เป็นต่อมลูกหมากโตจะมีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่ประมาณ 20% เมื่อปัสสาวะไม่สามารถออกได้หมด แบคทีเรียก็สะสมและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ บางกรณีอาจเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ที่สำคัญคือการปล่อยให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและไตเสื่อมลงจนเกิดความเสียหายถาวร ดังนั้นหากมีอาการปัสสาวะผิดปกติ ผู้ชายไม่ควรอดทนหรือนิ่งนอนใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจนจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเราเอง”

รพ. วิมุต มีแนวทางในการรักษาต่อมลูกหมากโต ได้แก่ การรักษาด้วยยาในกลุ่มคลายกล้ามเนื้อบริเวณต่อมลูกหมาก (alpha-blocker) และกลุ่มลดขนาดต่อมลูกหมาก ทั้งนี้หากการรักษาด้วยยาแล้วยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจหรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัด โดยมากจะทำผ่านการส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะ ใช้เวลาพักฟื้นสั้น โดยวิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่  1. TURP (Transurethral Resection of Prostate) เป็นการผ่าตัดโดยใช้หัวตัดไฟฟ้า ถือเป็นวิธีที่แพร่หลายที่สุด ใช้เวลาพักฟื้น 2-3 วัน เหมาะกับต่อมลูกหมากโตขนาดปานกลางถึงใหญ่ 2. Laser Prostate เป็นการผ่าตัดโดยใช้เลเซอร์ เหมาะสำหรับต่อมลูกหมากที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ใช้เวลาพักฟื้น 1-2 วัน 3. Water Vapor Therapy เป็นการผ่าตัดด้วยระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่รักษาโดยการฉีดไอน้ำที่มีอุณหภูมิ 103 องศาเซลเซียลเข้าไปที่เซลล์ต่อมลูกหมากเพื่อทำลายเนื้อเยื่อในต่อมลูกหมาก วิธีนี้เหมาะสำหรับต่อมลูกหมากขนาดเล็กถึงปานกลาง มีข้อดีเรื่องระยะการพักฟื้นที่สั้นกว่า ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและพักไม่เกิน 1 วัน และ 4. นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง UROLIFT (ยูโรลิฟต์) ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กมากมายึดติดกับต่อมลูกหมากถาวรเพื่อดึงเนื้อเยื่อให้ถ่างออกจากท่อปัสสาวะ UROLIFT เป็นวิธีการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ตั้งแต่ปี 2556 และได้รับการอนุมัติจาก อย. ไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยใช้เวลาผ่าตัดเพียง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ข้อดีคือเป็นหัตถการที่แก้ไขปัญหาการปัสสาวะได้อย่างรวดเร็ว ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ทั้งนี้ แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการผ่าตัดแบบใดมากที่สุด”

โรงพยาบาลวิมุต แนะนำเคล็ดลับ 5 เริ่มและ 4 เลิก เพื่อการดูแลสุขภาพผู้ชายก่อนโรคภัยร้ายมาเยือน ได้แก่

เคล็ดลับ 5 เริ่ม :

  1. เริ่มตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
  2. เริ่มออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างระบบทางเดินปัสสาวะและสุขภาพเพศชายโดยรวม
  3. เริ่มการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะ
  4. เริ่มรักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโตและปัญหาสุขภาพอื่นๆ

เคล็ดลับ 4 เลิก :

  1. เลิกบุหรี่ บุหรี่มีสารเคมีที่ทำลายสุขภาพทุกส่วนของร่างกาย
  2. เลิกดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป
  3. เลิกรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
  4. เลิกนอนดึก การนอนไม่พอเพียงทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อโรคมากมาย

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โรงพยาบาลวิมุต เวลาทำการ 8:00 – 20:00 น. โทร. 0 2079 0040 หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หรือแอป ViMUT ที่ลิงก์: vimut.com/other-page/telemed ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/vimuthospital อินสตาแกรม: vimut_hospital ไลน์: @vimuthospital

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก