แคนนอน (CANON) แบรนด์ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ประกาศเปิดตัว “EOS C400” กล้องถ่ายภาพยนตร์ระบบดิจิทัลรุ่นใหม่ในซีรีส์ CINEMA EOS มอบศักยภาพใหม่ในการทำงานด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องกะทัดรัด คล่องตัวสูง พร้อมชุดอินเตอร์เฟซที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตอบโจทย์การถ่ายงานวิดีโอ และงานถ่ายทอดสดที่ต้องการคุณภาพสูง รวมถึงงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่ต้องถ่ายทำออกอากาศจากสถานที่จริง และงานวิดีโอเสมือนจริง (Virtual Production)

กล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C400 รองรับเมาต์ RF โดยยังคงมอบฟังก์ชันพื้นฐานเช่นเดียวกับรุ่น EOS C500 Mark II (เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2562) และ EOS C300 Mark III (มิถุนายน 2563) และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีกว่าเดิม มาพร้อมเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียด 6K ที่สามารถถ่ายฟุตเทจคุณภาพสูงและมีระยะชัดตื้นที่เป็นธรรมชาติ พร้อมโบเก้ฉากหลังที่สวยงาม ภายใต้บอดี้ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พร้อมชุดอินเตอร์เฟซทำงานที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้ EOS C400 สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของภาพได้ในระดับภาพยนตร์ จึงไม่เพียงเหมาะสำหรับการผลิตภาพยนตร์และละครในโรงถ่ายเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์การถ่ายทอดสดนอกสถานที่ด้วยเช่นกัน

การเปิดตัว EOS C400 ยังเป็นการใช้เมาต์ RF เป็นครั้งแรกในผลิตภัณฑ์กลุ่ม CINEMA EOS ระดับไฮเอนด์ และด้วยระบบโปรโตคอลการส่งข้อมูลผ่านเมาต์ RF ทำให้ผู้ใช้สามารถทำการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของสี การแก้ไขความเข้มแสง การแสดงโฟกัสพิกเซลคู่ และการแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพได้โดยตรงจากตัวกล้อง และสามารถเลือกใช้เลนส์ได้หลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมโดยขึ้นอยู่กับอารมณ์ของภาพที่ต้องการ EOS C400 ยังสามารถส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลที่จำเป็นในการผลิตภาพยนตร์เสมือนจริง (Virtual production) ผ่านประสิทธิภาพการส่งข้อมูลความเร็วสูงของเมาต์ RF นอกจากนี้ EOS C400 ยังสามารถใช้ได้กับเลนส์ PL ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ เมื่อใช้งานร่วมกับ Mount Adapter PL-RF (แยกจำหน่าย)[1] รวมถึงสามารถใช้เลนส์ EF เมื่อใช้งานร่วมกับ Mount Adapter EF-EOS R (แยกจำหน่าย)[2]

นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของกล้องในกลุ่ม CINEMA EOS ที่มีการใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรม Stacked CMOS แบบ back-illuminated ความละเอียด 6K พร้อมหน่วยประมวลผล DIGIC DV 7 ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกภาพเฟรมเรทสูงได้แม้บันทึกด้วยรูปแบบไฟล์ RAW 6K/ 60P และ 4K/120P[3] โดย EOS C400 ยังใช้ระบบการสร้างโทนสีธรรมชาติไล่จากความสว่างต่ำไปสูง ช่วยลดนอยส์ในบริเวณที่มืด และปรับปรุงคุณภาพของภาพระดับ 4K ผ่านการทำ oversampling เป็น 6K อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมด Dual Pixel CMOS AF II ที่สามารถทำออโต้โฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำสูง และครอบคลุมพื้นที่กว้าง จึงสามารถจับโฟกัสติดตามวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ตัวกล้อง EOS C400 จะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่อัดแน่นไปด้วยอินเตอร์เฟซใช้งานที่หลากหลาย อาทิ ขั้วต่อ GENLOCK/SYNC/RETURN และพอร์ต ETHERNET โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการถ่ายทอดสดได้ในตัวโดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ต่อพ่วง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน Tally เพื่อยืนยันภาพจากกล้องที่กำลังถ่ายออกอากาศ และฟังก์ชั่น Return เพื่อการตรวจสอบภาพที่ออกอากาศบนจอภาพได้ ฯลฯ นอกจากนี้ EOS C400 ยังใช้การบันทึกไฟล์วิดีโอรูปแบบใหม่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแบรนด์ อย่างฟอร์แมต XF-HEVC S/XF-AVC S ซึ่งเป็นฟอร์แมต MP4 ที่รองรับข้อมูลปริมาณมหาศาลจากฟอร์แมต XF-HEVC/XF-AVC ที่มีใช้กันอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถแสดงข้อมูลวันที่และเวลาของการถ่ายทำ ตลอดจนหมายเลข Reel number ไว้ในชื่อไฟล์ได้ ซึ่งจะทำให้การจัดการไฟล์ในสถานที่ถ่ายทำที่ใช้กล้องหลายตัว สามารถทำได้ง่ายขึ้นและช่วยให้ขั้นตอนการทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 เป็นต้นไป

  • Canon EOS C400 เฉพาะตัวกล้อง          279,900 บาท[4]
  • Canon MOUNT ADAPTER PL-RF        60,700 บาท[5]
  • Canon CN7x17 KAS T/R1 (RF)           827,009 บาท[6]

พิเศษ โปรโมชั่นช่วงเปิดตัว

  • รับส่วนลด 9,000 บาทเพื่อแลกซื้อ Mount Adapter PL-RF หรือเลนส์แคนนอนเมาต์ RF รุ่นใดก็ได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก