“ฉันจะไปทำงานหาเงินมาให้คุณนะคะ ฉันรักคุณ ฉันขาดคุณไม่ได้”

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานที่ล้วนเป็นทาสแมวในออฟฟิศ พบว่า 5,000 บาทหรือมากกว่านั้น คือตัวเลขที่เหล่าทาสแมวต้องหามาเปย์นายทาสตัวจิ๋วทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะค่าอาหาร ขนม ยา ของเล่น และอาจรวมถึงเสื้อผ้า เครื่องประดับ และอาหารเสริมบำรุง เพราะเมื่อแมวกินอิ่ม นอนหลับ ร่าเริง มีความสุข และสุขภาพดี เหล่าทาสทั้งหลายก็ล้วนปลื้มปริ่ม มีแรงใจออกไปทำงานหาเงินให้เจ้าแมวเหมียวได้อยู่ดีกินดีต่อไป

ในยุคปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับแมวถือว่าผูกพันลึกซึ้งเทียบเท่ามนุษย์ด้วยกันไปเสียแล้ว เมื่อแมวเป็นทั้งเพื่อนข้างกาย เป็นลูกที่ต้องดูแล เป็นสมาชิกในครอบครัว เป็นทูลหัวของบ่าว และเป็น Subject ที่แบรนด์ต่างๆ นำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการค้า เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจจากปรากฏการณ์ A cat lover หรือ ทาสแมว อย่างแพร่หลาย

และหากเรามองย้อนความสัมพันธ์นี้กลับไปในอดีต จะพบว่า ‘แมว’ ปฏิสัมพันธ์กับมนุษยชาติมายาวนานเกินกว่าจะคาดถึง เช่น ในอารยธรรมอียิปต์โบราณ ‘แมว’ อยู่ในฐานะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อว่าแมวเป็นเทพเจ้าจำแลงมาเกิดเป็น ‘เทพีบาสเทท’ (Bastet) ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ช่วยต่อต้านสิ่งชั่วร้ายและความเจ็บป่วย โดยเทพีองค์นี้ มีส่วนหัวเป็นแมว มีร่างเป็นสตรี ชาวอียิปต์จึงเชื่อ เคารพ และบูชาว่าแมวสามารถช่วยขจัดศัตรูที่ทำลายพืชผลทางการเกษตรและการแพร่เชื้อกาฬโรค ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคระบาดในสมัยนั้น และทำให้อียิปต์มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ และพลเมืองไม่ต้องล้มตายลงด้วยกาฬโรคดังเช่นประเทศอื่น ๆกระทั่งแผ่ขยายอาณาจักรออกไปได้เป็นเวลาหลายพันปี

หรือในอารยธรรมโรมัน แมวถือเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพและอิสรภาพ โดยนักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานว่า ลิเบอร์ตัส (Libertas) เทพเจ้าแห่งเสรีภาพของชาวกรีก มักจำแลงกายเป็นแมว อีกทั้งในกองทัพทหารจักรวรรดิโรมัน ยังมักนำแมวเข้าประจำการในป้อมปราการด้วย เพื่อช่วยในการจับหนูที่กัดกินอาหารในคลังและหนัง ซึ่งเป็นชุดเกราะและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เสียหาย ดังนั้นแมวจึงถูกยกย่องสรรเสริญและกลายเป็นดั้ง ‘มิตรคู่กายของทหาร’

ทว่าในอีกทวีปอย่างยุโรปในยุคกลาง แมวกลับเป็นภาพแทนของความชั่วร้าย เป็นดั่งบริวารพ่อมดแม่มด โดยเฉพาะ ‘แมวดำ’ และอาจถูกประนามหากชาวยุโรปคนใดนำแมวไปเลี้ยงดู ในช่วงเวลายุคนี้เองที่มีการระบาดของกาฬโรค โดยมีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการแพร่พันธุ์ของหนู และจำนวนแมวที่ลดลงจากความเชื่อของผู้คน

ส่วนแมวในวัฒนธรรมเอเชีย หลายประเทศโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ที่ต่างก็มองว่าแมวคือสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ โดยจีนก็ได้พัฒนาประเพณีของตนเองผ่านตำนานแมว (ไม่ใช่เทพ Bastet) และมีเรื่องเล่าหนึ่งของจีนในปี 500 ก่อนคริสตกาล กล่าวขานไว้ว่า ขงจื๊อเองก็ได้เก็บแมวมาเลี้ยงจำนวนหนึ่งเช่นกัน โดยบทบาทของแมวในช่วงเวลานั้น มักถูกส่งไปกับคาราวานตามเส้นทางการค้าระหว่างตะวันตกกับตะวันออก และมักถูกชื่นชมในทักษะการจับหนูเช่นเดียวกับตะวันตก กระทั่งเวลาต่อมา แมว ได้ถูกยกระดับสถานะเป็นสัตว์เลี้ยงและเพื่อนของเหล่าผู้หญิง และยังมีหลักฐานว่า แมวได้ปรากฏตัวผ่านนิทานพื้นบ้านของจีนที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเวทมนต์มากมายอีกด้วย

ญี่ปุ่นเองก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะในสมัยเอโดะ (1615-1857) แมวได้รับความนิยมสูงสุดผ่านการแสดงมากมายในศิลปะร่วมสมัย อีกทั้งมีการสร้างศาลเจ้าและวัดมากมายเพื่ออุทิศให้กับแมว เช่น วัดโกโทคุจิ เขตเซตางายะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ส่วนประเทศไทย ในยุคสุโขทัยนั้น แมวถือเป็นสัตว์ชั้นสูงของเหล่าขุนน้ำขุนนางในวัง พวกเขาเชื่อว่า แมวลักษณะดีจะให้คุณแก่ผู้เลี้ยง ให้โชคลาภและเจริญยศศักดิ์ ส่วนแมวที่มีลักษณะไม่ดี จะให้โทษ นั่นทำให้แมวถูกแบ่งชนชั้นผ่านประเภทของแมว โดยมีการค้นพบตำราแมว (สมุดข่อยโบราณ) รวบรวมแมวดี 17 ชนิด และแมวลักษณะร้าย 6 ชนิดไว้อย่างละเอียด

ปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็น ‘ยุคแมวไอดอล’ ความนิยมของแมวเพิ่มขึ้นทวีคูณ โดยมนุษย์นำแมวเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับสังคมและวัฒนธรรมหลากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะสื่อโฆษณา วงการบันเทิง ภาพยนตร์ อุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ และโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นแมวโด่งดังมากมายที่มีแฟนคลับกลุ่มใหญ่เป็นของตัวเองไม่น้อยหน้าเหล่าดาราดังเลยทีเดียว

8 สิงหาคม ของทุกปี คือวัน ‘แมวโลก’ หรือ วันแมวสากล (international cat day) FEED จึงอยากพาทุกคนมาส่องเหล่าแมวเหมียว และทาสของพวกเขา กับความน่ารักที่ทำให้มนุษย์ถอนตัวไม่ขึ้น

LISA

น้องแมวเหมียวตระกูล L ของ ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล หรือ LISA BLACKPINK ที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของเธอ นั่นคือ Leo (ลีโอ) แมวตัวแรกของสาวลิซ่า แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ (Scottish fold),  Luca (ลูก้า) แมวตัวที่สอง ลูก้าเป็นแมวพันธุ์แร็กดอลล์ (Ragdoll), Lily (ลิลลี่) แมวตัวที่สาม แมวพันธุ์แร็กดอลล์เหมือนลูก้านั่นเอง, Louis (ลูอิส) น้อยตัวที่สี่ น้องเป็นแมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) และ LEGO (เลโก้) มักเน่ของบ้าน เป็นแมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์  ที่เหมือนกับลูอิส ซึ่งถึงจะเป็นน้องเล็กแต่ก็เคยติดอันดับเทรนด์ X ของประเทศและของโลกอีกด้วย บรรดาน้องเหมียวตระกูล L เรียกได้ว่าทำให้แฟนคลับหลายๆ คนอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นการให้น้องๆ นั่งบนโซฟาของแบรนด์หรู Chrome Hearts ซึ่งราคาอยู่ที่ 40,000 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,429,000 บาทไทยโดยประมาณ และลิซ่าได้ทำการเปิด Instagram ให้กับเจ้าเหมียวตระกูล L อีกด้วย IG : lalala_lfamily

TEN (เตนล์)

เตนล์ หรือ เตนล์ NCT เจ้าของแมวอ้วนหนุบหนับ 3 ตัว ที่น่ารักเหมือนเจ้าของ  Loui (ลูอี) แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese/Wichienmaat) ตัวแรกของเตนล์ พี่คนโตของเหล่าแมวในบ้าน, Leon (ลีออน) พันธุ์อะบิสซิเนียน (Abyssinian) แมวที่รูปและถูกพูดถึงเป็นไวรัลเต็มโซเชียล ด้วยรูปลักษณ์ที่อ้วนกลมกว่าแมวพันธุ์อะบิสซิเนียนทั่วไป และตัวสุดท้าย Levi (เลวี่) พันธุ์วิเชียรมาศ สี  Blue Point น้องเล็กของบ้านที่ชอบอ้อนเหล่าพี่ๆ เหล่าแมวของเตนล์เรียกได้ว่าเป็นแมวเซเลปเลยก็ว่าได้เพราะคอนเทนต์รายการใน YouTube ของช่อง NCT ได้นำเสนอกิจกรรมประจำวันของสมาชิกแต่ละคนของวง และรายการ My Neighbor Charles ของช่อง KBS ที่ฉายบรรยากาศบ้านของเตนล์และจะมีบรรดาแมว 3 ก้อนของเขาร่วมเฟรมด้วย ทำให้เหล่าแฟนคลับหรือคนที่ได้เห็นคลิปนี้ตกหลุมพลางความน่ารักไปตามๆ กัน และถูกพูดถึงเป็นกระแสในโซเชียลอีกด้วย

Taylor Swift

เจ้าของผลงานเพลงชื่อดังระดับโลกอย่าง Taylor Swift เธอมีแมวที่เธอรักด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว คือ Meredith Grey (เมเรดิธ เกรย์) แมวสายพันธุ์ สก็อตติช โฟลด์ หูพับ (Scottish Fold) เทย์เลอร์ยังเคยบอกอีกด้วยว่า Meredith​ คือหนึ่งในแมวที่ดีที่สุด และ Olivia Benson (โอลีเวีย เบนสัน) ที่มีชื่อเล่นเรียกกันว่า Dibbles​ เป็นแมวสายพันธุ์เดียวกับ Meredith แตกต่างกันที่สีขน โดยเหล่าแมวของเทย์เลอร์เคยไปปรากฎตัวในโฆษณา​ Diet Coke ที่เทย์เลอร์เป็นพรีเซ็นเตอร์​อีกด้วย และยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 3 รางวัลด้วยกัน,   Benjamin Button (เบนจามิน บัททอน)  แมวสายพันธุ์แร็กดอลล์​ (Ragdoll) เป็นแมวไร้บ้านที่ทำให้เทย์เลอร์ตกหลุมรักความอ้อนน่ารักของน้องและถูกนำมาเลี้ยงดูในที่สุด


เซียวจ้าน (肖战) 

เป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง สำหรับแฮชแท็กที่เคยติดเป็นฮอตเสิร์ชบนเว่ยป๋อ #肖战的猫掉毛# (แมวของเซียวจ้านขนร่วง) ที่กล่าวถึงแมวสุดน่ารักอย่าง ‘เจียนกั่ว’ แมวพันธุ์มันช์กิ้น (Munchkin) ที่น่ารักจนทำให้เซียวจ้านโดนตกแล้ว แฟนคลับของเขายังโดนตกไปด้วยอีก เจียนกั่ว แปลว่า ถั่ว ในภาษาไทย เป็นแมวขี้โรค มีลักษณะหัวกลม ดวงตาโต ขาสั้น ขี้อ้อน เวลา เซียวจ้าน พูดถึง เจียนกั่ว เขาจะพูดด้วยความอ่อนโยนและเอ็นดูเจ้าเหมียวตัวนี้มากๆ เรียกได้ว่าโดนตกเต็มประตูเลย 

BAMBAM

แบมแบม – กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ แบมแบม GOT7 หนุ่มทาสแมวที่ถอนตัวไม่ขึ้น แบมแบมเลี้ยงน้องแมวไว้ถึง 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่  PUDDING (พุดดิ้ง) แมวพันธุ์ Devon Rex เป็นเหมือนลูกชายของแบมแบม ชอบตามติดเขาไปทุกที่, LATTE (ลาเต้) พันธุ์ Sphynx มีลักษณะ ไร้ขน ไม่มีหนวดและไม่มีขนตา จะชอบวิ่งไปมา จะชอบมาอยู่ใกล้ๆ เขาและชวนเขาเล่นตลอด, CUPCAKE (คัพเค้ก)  พันธ์ุ Munchkin เปรียมเป็นราชินีของบ้าน เป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน และตัวสุดท้าย KING (คิง) พันธุ์ Devon Rex ที่เหมือนกับพุดดิ้ง เด็กสุดของบ้าน แบมแบมแพ้ลูกอ้อนของเจ้าแมวเหมียวที่ชอบเข้ามาคลอเคลียเขา ทำให้เขาโดนตกเข้าอย่างจัง

นอกจากเหล่าบรรดาศิลปิน นักแสดงที่เป็นทาสแมวแล้ว ยังมีแมวที่โด่งดังจากชื่อเสียงของเขาเองอีกด้วย

Freddie Mercury

ใครจะไปรู้ว่า ศิลปินยุค 70 ผู้เป็นนักร้องดังระดับตำนานจากวง Queen ก็เป็นทาสแมวตัวยงเช่นกัน โดยหลังจากที่เขาจากโลกไป ก็ได้มีการนำประวัติของ เฟรดดี้ ที่น่าสนใจถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ให้แฟนๆ ได้ชม ซึ่งในภาพยนตร์ได้เล่าเกี่ยวกับมุมมองหรือเรื่องที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับเขา หนึ่งในนั้นคือการที่เขาเป็นทาสแมวนั่นเอง 

โดยแฟนสาวของเฟรดดี้ ได้ซื้อแมวมา 2 ตัวและตั้งชื่อว่า ทอม กับ เจอร์รี่ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฟรดดี้ได้ใกล้ชิดแมว เฟรดดี้เลี้ยงดูแลเจ้าแมวอย่างดีราวกับลูกของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะจากรูปภาพที่ถูกปล่อยออกมา เป็นภาพที่เฟรดดี้ถ่ายคู่กับแมวและหน้าตาของเขาดูมีความสุขมาก ว่ากันว่าเขาเคยมีแมวถึง 10 ตัว แต่จะมีตัวโปรดตัวนึงชื่อ Delilah เขารักแมวของเขามากถึงกับออกอัลบั้มและแต่งเพลงให้กับแมวด้วย ซึ่งเพลงนั้นมีชื่อว่า Delilah ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแมวของเขา แถมในเนื้อเพลงก็ยังมีชื่อของ Delilah อีกด้วย 

Karl Lagerfeld

Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟล) คือดีไซเนอร์ชื่อดัง ผู้เป็นไอคอนิกด้านแฟชั่นระดับตำนานของโลก จากการนำพาแบรนด์ Chanel ก้าวขึ้นมาโดดเด่นบนรันเวล์โลกมากกว่า 30 ปี และยังอยู่เบื้องหลังการปั้นแบรนด์ Fendi แถมยังเป็นเจ้าของแบรนด์ KARL LAGERFELD คาร์ลมีแมวที่ตนรัก 1 ตัว แมวของเขามีชื่อว่า Choupette จุดเริ่มต้นของการเลี้ยง Choupette เกิดจากที่เพื่อนของเขาได้นำ Choupette  มาฝากเลี้ยงเอาไว้ และระหว่างที่คาร์ลได้เลี้ยงดู ก็ทำให้เขาตกหลุมรักเจ้าแมวตัวนี้อย่างหัวปักหัวปำ จนเมื่อเพื่อนของเขามารับ Choupette คืน แต่คาร์ลได้บอกกับเพื่อนของเขาว่า “ขอโทษนะ ตอนนี้ Choupette เป็นของฉันแล้ว” และเขาเคยให้สัมภาษณ์กับ The Cut ว่า

“ถ้าการแต่งงานกับแมวเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เขาคงทำไปนานแล้ว”

ในระหว่างที่เขาไม่ได้อยู่กับ Choupette คาร์ลจะจ้างแม่บ้านให้มาดูแล 3 คนด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับแมวของตน หลังจากคาร์ลเสียชีวิตไปเมื่อปี 2019 ทรัพสินย์มรดกของคาร์ลที่เป็นเงินกว่า 6,400 ล้านบาท ตกเป็นของ  Choupette แมวที่เขารัก จนทำให้  Choupette กลายเป็นแมวที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลก 

มาลี 

มาลี คือแมวส้มที่กลายเป็นดาราของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด โดยเจ้ามาลีได้แสดงภาพยนตร์ในเรื่อง นงเยาว์นิวยอร์ค หรือ Breakfast at Tiffany’s (1961)  นงเยาว์นิวยอร์ค เป็นหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงชื่อให้แก่ดาราสาวออเดรย์ เฮปเบิร์น จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เจ้าหญิงแห่งวงการฮอลลีวูดยุคทอง มาลี ได้รับบทบาทเป็นแมวที่ ฮอลลี โกไลต์ลี นางเอกของเรื่องเลี้ยงไว้ในห้องพักใจกลางมหานครนิวยอร์ค

มาลียังได้รับรางวัล PATSY Award (the animal kingdom’s equal of an Oscar) จาก American Humane Association และได้รับการยกย่องว่าเป็น ดาราแมวที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกด้วย

แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังมีการตั้งคำถามอยู่ว่าตกลงแล้วแมวส้มที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ มาลี แมวของไทยหรือไม่ เพราะจากการสืบค้นข้อมูลพบว่า แมวส้ม ที่ปรากฎในภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany’s มีถึง 9 ตัว และแท้จริงแล้วคือดาราแมวฮอลลีวู้ดที่ชื่อว่า Orangey โดยเป็นแมวส้มสัญชาติอเมริกัน ซึ่งถูกฝึกฝนโดยครูฝึกที่ชื่อ แฟรงค์ อินน์ (Frank Inn) โดย Orangey ยังมีประวัติผลงานการแสดงที่มากมาย เช่น ไปปรากฏตัวในซีรีส์ออกฉายทางโทรทัศน์เรื่อง Batman (1967-1968)  สุดท้ายก็ยังไม่มีใครมาให้คำตอบได้มาว่าแมวที่อยู่ในเรื่อง Breakfast at Tiffany’s  เป็นแมวชื่ออะไร สัญชาติอะไร 

Nico and Schnitzel

เจ้าเหมียว 2 ตัวที่รับบทเป็น ‘โฟรโด’ แมวที่ปรากฎในซีรีส์หนังฟอร์มยักษ์เรื่อง A Quiet Place: Day On ที่แสดงนำโดยดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง ลูปิตา เอ็นยองโก และ โจเซฟ ควินน์ โฟรโด คือชื่อในหนังของเจ้าแมวตัวนี้ หลังจากหนังฟอร์มยักษ์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้รับกระแสชื่นชมและเจ้าเหมียวกลายเป็นที่รักของแฟนๆ หนัง ด้วยความสามารถและเสน่ห์ของแมวทั้ง 2 ตัว ทำให้การแสดงที่ออกมาสมบูรณ์แบบ บทบาทของโฟรโดโดดเด่นมากในหนัง โดยในหนังโฟรโดมักจะหนีเอาตัวรอด และเผชิญหน้ากับอันตรายได้ ทั้งนิโคและเซลสามารถเข้ากันได้ดีจึงทำให้การถ่ายทำราบรื่น นอกจากแฟนๆ หนังจะถูกเจ้าเหมียวโฟรโดในเรื่องตกแล้ว นักแสดงนำอย่าง ลูปิตา ก็ยังโดนตกอีกด้วย ก่อนหน้าที่จะมีการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ลูปิตา มีอาการกลัวแมว จนต้องเข้าไปเทรนกับครูฝึกแมวจนสามารถถ่ายทำกับแมวได้ และจากการที่ได้อยู่ด้วยกันกับแมวทำให้เขาตกหลุมรักแมว จนหลังปิดกล้องเขาจึงตัดสินใจรับเลี้ยงแมวอีกด้วย 

Larry

แมวอันดับ 1 ในทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แลร์รี่เป็นแมวลายสลิดเชื้อสายบริติช ที่เป็นรู้จักกันดีของชาวอังกฤษและทั่วโลก แมวผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแมวจับหนูประจำสำนักคณะรัฐมนตรี ประจำการ ณ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง โดยแลร์รี่เป็นหนึ่งในแมวกว่าแสนตัวที่รัฐบาลอังกฤษเลี้ยงดูเพื่อทำหน้าที่จับหนู แถมยังได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 100 ปอนด์ แลร์รี่เป็นขวัญใจของชาวอังกฤษและผู้คนที่เป็นทาสแมวทั่วโลก มีการพูดถึงแลร์รี่ในโซเชียล และแลร์รี่ยังมีบัญชีหรือแอคเคาท์ X ของตัวเอง ชื่อว่า Larry the Cat มีผู้ติดตามกว่า 890,000 คน นอกจากนี้ยังมีหนังสือที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับแลร์รี่ที่ชื่อว่า Larry Diaries : Downing Street–the First 100 Days แลร์รี่ถือว่ามีอิทธิพลในอังกฤษอย่างมากเพราะสื่อมักจะชอบตีพิมพ์หรือเขียนข่าวเกี่ยวกับแลร์รี่อยู่เสมอ แลร์รี่ทำงานรับใช้นายกรัฐนตรีอังกฤษมาแล้ว 6 คน คือ  เดวิด คาเมรอน, เทเรซา เมย์, บอริส จอห์นสัน, ลิซ ทรัสส์, ริชี ซูแน็ก และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน คือ เคียร์ สตาร์เมอร์ 

ที่มา:

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก