อุ๊งอิ๊งปัก หมุด ดันSoft power เป็นผู้นำโลก เชื่อ เป็นรากฐานเศรษฐกิจไทย หวังสร้างมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ชวนปชช.ร่วมงาน ลงทะเบียน หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟพาวเวอร์
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 หัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย” ว่า การจัดงานนี้ เป็นจุดเริ่มสำคัญของนโยบาย Soft Power ของไทย ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความฝัน และโอกาสที่จะปลดปล่อยพลังของคนไทยให้กระจายไปทั่วโลก ตลอด 3 วันของการจัดงาน จะได้พบกับการแสดงวิสัยทัศน์ การแบ่งปันเรื่องราวจากตัวจริงของแต่ละภาคอุตสาหกรรม ทั้งในไทยและต่างประเทศ นิทรรศการนโยบายที่จะบอกเล่าเรื่องราวการทำงาน การทำเวิร์กช็อปมาให้เรียนรู้ และเป็นครั้งแรกที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียน “โครงการหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS)” เพื่อยกระดับศักยภาพของตัวเองภายในงานนี้
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เริ่มต้นมา 9 เดือน แต่ภารกิจนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย คือ นโยบายOTOP หรือ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เพราะเชื่อว่า ภูมิปัญญา วัฒนธรรมไทย และศักยภาพคนไทย มีมูลค่าสูง สามารถดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก ที่สนับสนุนพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากของประชาชน 7,000 ตำบลทั่วประเทศ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับประเทศและสร้างมูลค่าต่อเนื่องมาจากปี 2545 จนถึงวันนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย เพราะขาดจิ๊กซอว์ที่จะทำให้soft power สมบูรณ์
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ครั้งนี้เราคิดใหญ่ ตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าsoft power จะต้องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท ยกระดับชีวิตคนไทยทุกครอบครัว ให้มีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาทต่อปี สร้างแรงงานทักษะสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 20 ล้านตำแหน่ง จะต้องมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 1 แสนแห่ง ยิมมวยไทยทั่วโลกจะต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20,000 แห่ง หนังสือจากคนไทยจะต้องได้รับการแปลในหลายภาษาอย่างเป็นระบบ หมอลำ TPOP นักร้องลูกทุ่ง จะได้มีพื้นที่ในเวทีคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ มีแฟนเพลงทั่วโลก เทศกาลของประเทศไทยจะต้องได้รับ IP Festival
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราจะไปถึงเป้าหมายทั้งหมดนี้ได้อย่างไร จะต้องสร้าง Ecosystem ให้ยั่งยืนด้วย 3 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้แก่
1.นโยบายการพัฒนาศักยภาพคน นโยบาย OFOS หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ คือ การทบทวนทักษะ และยกระดับทักษะ ครั้งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ เราจะยกระดับทักษะของคนไทย ยกระดับรายได้ เติมแรงงานที่เก่งเข้ามาในระบบเพื่อทำให้เกิดการพัฒนา
2.นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม คือการตั้ง THACCA Thailand Creative Culture Agency หน่วยงานกลางที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบาย รวบรวมงบประมาณไม่ให้กระจัดกระจาย แก้ไขปัญหากฎหมายที่ติดขัดในอุตสาหกรรม ความพิเศษของ THACCA คือการสร้างกลไก ให้ภาคเอกชนในแต่ละอุตสาหกรรมเป็นผู้นำภาครัฐเป็นครั้งแรก
3.นโยบายต่างประเทศ หลักสำคัญคือ เราจะส่งออกสิ่งที่แต่ละประเทศต้องการ เราได้ทำงานร่วมกับคณะทูตไทยทั่วโลกและทูตพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบนโยบายนี้เพื่อจับคู่สิ่งที่เรามีกับสิ่งที่ในแต่ละประเทศต้องการ เพื่อขยายโอกาสให้คนไทย
“ซอฟต์พาวเวอร์ที่เราทำในวันนี้ อาจผลิดอกออกผลอย่างเต็มที่ในอีก 10 ปีข้างหน้า ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ต้องทำด้วยกลไกใหม่ให้เกิดขึ้นจริงเท่านั้น รัฐบาลนี้เริ่มทำแล้ว และทำอย่างจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์ และนโยบายนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอีกหลายสิบปีข้างหน้า”