“กะเทยประท้วง” เพลงดังในตำนาน ขับร้องโดย ปอยฝ้าย มาลัยพร จากอัลบั้ม “วอนฟ้า” ที่วางแผงเมื่อปี 2547 เป็นเพลงที่บอกเล่าถึงเนื้อหาชีวิตของกะเทย สะท้อนภาพการถูกกดขี่กดทับของอัตลักษณ์ “กะเทย” ได้ชัดเจน เช่นท่อนที่ร้องว่า
“ฉันภูมิใจพอใจล่ะที่เป็นกะเทย
ไผสิเว้าเยาะเย้ยกะส่างเถาะเว้ย
กะส่างเถาะเว้ยปากคน
เริ่ดซะอย่างสวยแบบอดทน
บ่เคยสนคำคนนินทา
บ่สนดอกเด้อค่า
ไผสิเว้าฮื้อไผสิว่า
กะส่างดอกค่าฉันบ่สนใจ
เป็นกะเทยล่ะมันผิดหม่องได๋
เป็นกะเทยล่ะมันผิดหม่องได๋
ไผรับบ่ได้
กะตายโลดเด้อสู”
โดยเฉพาะมิวสิกวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา เปิดฉากมาด้วยปอยฝ้าย ซึ่งรับบทเป็นกะเทยถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายเนื่องจากตนเองไม่มีเงินให้ และมีเพื่อนๆ มาปลอบใจและปลุกใจให้ลุกขึ้นสู้ตามไปเอาคืนแฟนหนุ่มตรงตามชื่อเพลงกะเทยประท้วง
ชมมิวสิกวิดีโอเพลงกะเทยประท้วง
เพลง “กะเทยประท้วง” กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ ร่าง พ.ร.บ. คำนำหน้านามตามความสมัครใจ เสนอโดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ
โดยหลักการสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ Self-determination หรือการกำหนดเพศด้วยตัวเอง แต่ทาง สส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้ถอนร่างพ.ร.บ.ออกไปก่อน เพื่อรอร่างของภาคประชาชนที่มีแนวคิดคล้ายกัน เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ให้เป็นกฎหมายเป็นของทุกกลุ่ม ซึ่งนายธัญวัจน์ ยืนยันไม่ถอนร่างฯ ออก เนื่องจากเห็นว่าสามารถสร้างพื้นที่การมีส่วนร่วมได้อยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนผลักดันกันตั้งแต่ปี 2559 แล้ว
จากนั้น สส.พรรคก้าวไกล ต่างอภิปรายสนับสนุน ขณะที่ สส.พรรครัฐบาล ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติ อภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้
ประเด็นที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันในวันนี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่าการเปลี่ยนคำนำหน้านาม เราต้องรับฟังให้รอบคอบ อย่าเหาะเกินลงกาไปไกลชนิดที่ว่าสุดลิ่มทิ่มประตู และจะสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่
“การที่เราจะภาคภูมิใจหรือไม่ภาคภูมิใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้คำนำหน้านามว่าอะไร การจะภาคภูมิใจหรือไม่ภาคภูมิใจเรื่องใดก็ตาม น่าจะมีสาเหตุจากหลายประการ คงไม่ใช่ว่าปกติเป็นคนหม่นหมองตรอมเศร้า ผลไม้ที่ชอบก็ชอบระกำ ปลูกดอกไม้ก็ปลูกดอกลั่นทม ครั้นจะปลูกหญ้าก็ปลูกหญ้าตรอมใจ เป็นคนประเภทระทม ระกำ ตรอมใจ
แต่พอเปลี่ยนคำนำหน้านามแล้วจะลุกขึ้นมาแฮปปี้ ชนิดที่ว่าเปลี่ยนปุ๊บแฮปปี้ปั๊บ คงไม่ใช่เช่นนั้น ผมคิดว่าความภาคภูมิใจในความเป็นตัวของเราไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หรือ LGBTQ+ เราสามารถภาคภูมิใจได้”
จากนั้นนายอนุสรณ์ ได้ร้องเพลง “กะเทยประท้วง” ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร กลางสภาว่า “ฉันภูมิใจ ภูมิใจที่เป็นกะเทย ไผสิเว้าเยาะเย้ย กะส่างเถาะเว้ย กะส่างเถาะเว้ยปากคน” พร้อมระบุว่า เป็นกะเทยก็ภาคภูมิใจได้แล้ว วันนี้คำว่ากะเทย คำที่บ่งบอกถึงเพศสภาพที่ 3, 4, 5 ไม่ใช่สิ่งที่จะไปบูลลี่กัน ไม่ใช่คำที่ฟังแล้วถูกประณามหยามหมิ่น สังคมเราเปิดกว้าง และเปิดรับและเปิดกว้างกับคำหลากหลายทางเพศ
ดังนั้นสิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตคือ เราจะเป็นชายจริงหญิงแท้ LGBTQ เราควรจะภาคภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น มีงานเทศกาลที่เรียกว่างาน Pride แปลว่าภาคภูมิใจ ก็ไหนว่าเราภาคภูมิใจในความเป็น LGBTQ แล้วเราจะไปเปลี่ยนจากสภาพ LGBTQ ไปเป็นนายไปเป็นนางสาวเท่ากับว่าเราไม่ได้ Pride เราไม่ได้ภูมิใจกับเพศสถานะที่เราเป็นหรือเปล่า”
นายอนุสรณ์ ระบุต่ออีกว่าวันนี้เราไม่ได้คุยเรื่องการยอมรับมันเอาต์ไปแล้ว แต่วันนี้เราจะคุยกันว่านอกจากสมรสเท่าเทียมที่กำลังศึกษากันตอนนี้ เราจะไปไกลถึงขั้นเปลี่ยนคำนำหน้านามหรือไม่ แต่สิ่งที่จะเป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ หากทุกคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนคำนำหน้านาม ซึ่งในเอกสารระบุว่าสามารถยื่นคำขอต่อหน่วยงานของรัฐเพื่อจัดทำ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ข้อมูลในเอกสารได้ เช่น บัตรประชาชน สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ เอกสารราชการที่หน่วยงานของรัฐออกให้ท่านประธานลองนึกภาพตาม หากมีชายหญิงลุกขึ้นไปเปลี่ยนคำนำหน้านามจะต้องใช้งบประมาณในการจัดทำมากแค่ไหน มันจะสับสนอลหม่านขนาดไหน และตนเชื่อมั่นว่าเราจะใช้คำนำหน้าว่าอย่างไร เราก็ภาคภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นได้
ก่อนที่เราจะเรียกร้องให้คนอื่นเคารพเรา เราควรเคารพผู้อื่นก่อน และก่อนที่เราจะเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้กับตนเอง เราหันไปมองรอบด้านก่อนว่าสิทธิ์ที่เราเรียกร้องนั้นได้ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นหรือไม่ และต้องระมัดระวังผลกระทบที่จะตามมา
อย่างที่ ดา เอ็นโดรฟิน เคยร้องเพลงไว้ว่า “ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ” นั่นก็ลำบากแล้ว หากเปลี่ยนคำนำหน้านาม จะไม่ได้หยุดแค่ที่ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ แต่จะกลายเป็นไม่รู้จักชาย ไม่รู้จักหญิง ไม่รู้จัก LGBTQ และยืนยันอีกครั้งว่าเราภาคภูมิใจในตัวของเราเองได้ตลอดเวลา
ชมคลิปนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 152 เสียง ไม่เห็นด้วย 256 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ถือว่าที่ประชุมไม่รับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้
ภายหลัง นายธัญวัจน์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถเสนอร่างที่มีหลักการนี้เข้าสภาฯ ได้ภายในสมัยประชุมนี้ แต่ยืนยันจะไม่ถอย พร้อมเสนอในสมัยถัดไป