วันที่ 13 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนัดแรก แจ้งข่าวดีสำหรับพี่น้องประชาชนด้วยมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพหลายรายการ ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และต่ออายุแวต 7% นาน 1 ปี

โดยในที่ประชุม ครม.มีมติลดค่าไฟฟ้าลง 35 สตางค์ เหลือ 4.10 บาท ต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (เดิม 4.45 บาท) จะเริ่มในรอบบิลเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป

ในส่วนของน้ำมันดีเซลจะปรับราคาให้ถูกลงไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะเริ่มในวันที่ 20 กันยายนนี้ ส่วนน้ำมันเบนซินยังไม่ได้พิจารณาและพูดคุยกันในเรื่องนี้

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. มีมติจะเปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการประจำ เป็น 2 รอบต่อเดือน เพื่อลดภาระความเดือดร้อนของข้าราชการ คาดว่าจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2567 เนื่องจากต้องมีการแก้ไขระบบหลายอย่างจึงทำเลยในทันทีไม่ได้ แต่เชื่อว่าการจ่ายเงินเดือนแบบใหม่จะช่วยข้าราชการชั้นผู้น้อยได้เยอะพอสมควร ถ้ามีการจ่ายเงิน 2 รอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องคอยให้ถึงสิ้นเดือนก็จะมีเงินแบ่งจ่ายออกมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง (กลาง) ระหว่างการประชุมครม.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง (กลาง) ระหว่างการประชุมครม.

ด้านมาตรการท่องเที่ยว จะเริ่มฟรีวีซ่าให้กับชาวจีนและคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 จนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นการชั่วคราวก่อน

สำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยใช้แนวทางของรัฐสภา หารือรูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ตั้งคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นการดึงศักยภาพของประชาชนชาวไทยทุกคนออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชนชาวไทยทุกคน ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกรได้มีการตกลงกัน ซึ่งจะพักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลา 3 ปี

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ครม.มีมติให้ขยายระยะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ในอัตรา 7% จากที่ต้องเก็บ 10% ต่อไปอีก 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567 การปรับลดการเก็บภาษีแวต เป็นปีต่อปีอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง เพราะภาระของประชาชนในเรื่องของค่าใช้จ่ายยังสูง ครม.จึงเห็นชอบการปรับลดภาษีเหลือ 7% ต่อไปอีก 1 ปี

แหล่งที่มาข้อมูล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก