การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 แต่จวบจนถึงวันนี้ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 3 เดือนทว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่กลับยังไม่ลงตัว “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่รับไม้ต่อจาก “พรรคก้าวไกล” กำลังเดินหน้าเจรจากับพรรคอื่นๆ รวมถึงการขอเสียงสนับจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อเสนอชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ในช่วงการหาเสียงก่อนเลือกตั้งหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ คือ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) วงเงิน 10,000 บาท ที่พรรคให้นิยามว่าเป็นการ “ปั๊มหัวใจ” ของประชาชนเพื่อสู้กับความยากจนในสภาวะรายได้ไม่พอรายจ่าย และเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
รายละเอียดนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- คนไทยทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป แต่สำหรับประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ เช่น คนพิการ คนชรา ก็จะได้รับเต็มจำนวนไม่หักลด
- ประชาชนที่เข้าข่ายรับสิทธิไม่ต้องลงทะเบียนเพราะระบบผูกกับบัตรประชาชน
- เงินที่ได้สามารถนำไปซื้อของ ณ ร้านค้าในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่วนในพื้นที่ห่างไกลจะมีการพิจารณาเป็นกรณีด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
- ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน จะใช้ทีเดียวหรือทยอยใช้ก็ได้
- ร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารในโครงการในภายหลัง
- ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่ายไปจะหมุนเวียนเข้ามาเป็นภาษีของรัฐบาลเพื่อเอา เงินไปสนุบสนุนประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
- คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 มกราคม 2567
แหล่งที่มาข้อมูล
- พรรคเพื่อไทย : นโยบายด้านเศรษฐกิจ
- Faecbook พรรคเพื่อไทย : ทำไมต้องเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- Matichon Online : https://www.matichon.co.th/politics/news_3916132