เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ส.ค.2566 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาคดี กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน(ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภา (ผู้ถูกร้อง) มีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่สองเป็นญัตติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนทั้งสาม
ประกอบด้วย นายพรชัย เทพปัญญา ที่ 1 นายบุญส่ง ชเลธร ที่ 2 และนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ และคณะ ที่ 3 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม และมาตรา 27 โดยผู้ร้องกล่าวอ้างว่าผู้ร้องที่ 1 และ 2 เป็นประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเลือกพรรคก้าวไกลซึ่งมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นบุคคลเพียงรายชื่อเดียวที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อเป็นบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้ร้องที่ 3 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล
การที่รัฐสภามีมติดังกล่าวละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนทั้งสาม และขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยให้มีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยศาลพิจารณาคำร้องผลการพิจารณาคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัย (เพิ่มเติม) ของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 27 ก.ค.66 แล้วมีคำสั่งรับรวมไว้ในสำนวน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า คำร้องนี้มีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีประเด็นเชิงหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม จึงให้เลื่อนการพิจารณาสั่งคำร้องและให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
สำหรับคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ให้รอสั่งในคราวเดียวกันกับ การพิจารณาสั่งคำร้อง ทั้งนี้ ให้ผู้ร้องระบุสถานะบุคคลของคณะผู้ร้องเรียนที่ 3 ทุกราย ว่าเป็นประชาชนหรือสมาชิกรัฐสภา โดยให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 15 ส.ค. และให้นัดพิจารณาคำร้องนี้ในวันที่ 16 ส.ค.เวลา 09.30 น.