“ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยนะ แต่เราคิดว่าเราความรู้น้อย พอทำไปเราก็รู้สึกรักและสนุกกับมัน ส่วนเรื่องความเสี่ยงเราคิดว่าทุกอาชีพก็เสี่ยง แต่มันก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติและเราภูมิใจกับอาชีพนี้”
นงนุช เชิดประสิทธิ์ พนักงานกวาด สังกัดกรุงเทพมหานคร
จุดเริ่มต้นอาชีพพนักงานกวาดถนน
อาชีพพนักงานกวาดถนนเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากต้องทำงานในช่วงเช้าตรู่ และบางครั้งภัยก็มาในรูปแบบมิจฉาชีพ
เราได้พูดคุยกับคุณนงนุช เชิดประสิทธิ์ วัย 53 ปี พนักงานกวาด สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่มาบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองและการทำอาชีพพนักงานกวาดถนน
คุณนงนุช เล่าว่าเดิมทำอาชีพขายของตามงานวัด แต่รู้สึกว่ามันไม่มั่นคง อยากหาอาชีพที่สร้างรากฐานให้กับชีวิตได้ จึงมาสมัครเป็นพนักงานกวาดถนนที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ พ.ศ.2542 ก็ได้เข้ามาอยู่ที่สำนักงานเขตบางขุนเทียน
เหตุการณ์ไม่คาดคิดของอาชีพพนักงานกวาดถนน
กว่า 20 ปี กับอาชีพพนักงานกวาดถนน คุณนงนุช เล่าว่าจะต้องเตรียมความพร้อมร่างกาย และอุปกรณ์ป้องกันตัวเองให้ดี อาวุธคู่กายที่สำคัญก็คือไม้กวาดและบุ้งกี๋ นอกนั้นก็เป็นเสื้อสะท้อนแสง หมวก และหน้ากากอนามัย โดยมีระยะทางกวาดถนนที่ทางเขตจัดไว้ให้คนละ 800 เมตร
“ทุกวันจะต้องตื่นนอนตอนตี 4 รีบอาบน้ำแต่งตัว และมาถึงพื้นที่กวาดถนนไม่เกินตี 5 เพราะหากมาสายก็จะทำงานไม่สะดวก เนื่องจากคนเริ่มออกมารอรถตามป้ายรถประจำทางเพื่อไปทำงานกัน แล้ว บางครั้งก็มีรถมาจอดกีดขวาง และถ้ามีน้ำขังริมถนนหากกวาดไม่ระวังกระเด็นไปถูกชาวบ้านก็อาจถูกตำหนิได้”
ขณะทำงานสิ่งสำคัญคือการป้องกันตัวเอง หูตาจะต้องไว ไม่รับโทรศัพท์เด็ดขาด แต่บางครั้งเราระวังข้างหน้าแต่รถมาข้างหลัง หรือ กวาดอยู่ดีๆ ล้อรถหลุดพุ่งมาหา บางทีรถขับผ่านเหยียบหินกระเด็นใส่ก็สุดวิสัยเหมือนกัน นอกจากอุบัติเหตุก็ยังมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น คนเมาสุรา หรือพวกมิจฉาชีพทำทีมาขอยืมโทรศัพท์ มาถามทาง หรือกระชากกระเป๋า เจอกันมาทุกรูปแบบแล้ว
คุณนงนุช เล่าว่าขยะส่วนใหญ่ที่พบริมถนนก็มักจะเป็นใบไม้ ก้นบุหรี่ ใบปลิว แต่บางครั้งก็มีที่นอน มูลสัตว์ ซากสัตว์ ถ้าเป็นขยะชิ้นใหญ่พนักงานกวาดจะเรียกรถขยะให้มาเก็บไปทิ้ง แต่หากพบของมีค่า หรือยาเสพติด ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บไปให้เร็วที่สุด อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว
“ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยนะ แต่เราคิดว่าเราความรู้น้อย พอทำไปเราก็รู้สึกรักและสนุก ส่วนเรื่องความเสี่ยงเราคิดว่าทุกอาชีพก็เสี่ยง แต่มันก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติและเราภูมิใจกับอาชีพนี้ ทุกวันได้ตื่นแต่เช้ามาทำงาน ได้เดินไปเดินมาก็เหมือนมาออกกำลังกาย แถมได้มาคุยกับผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา คุยกับเพื่อนร่วมงาน มีสวัสดิการที่ดี มีเงินก้อนไว้ใช้ยามเกษียณ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว” คุณนงนุช กล่าวทิ้งท้าย