“นายคิดเหมือนที่ฉันคิดไหมบี 1 ฉันก็คิดเหมือนที่นายคิดนั่นแหละบี 2″
ประโยคอมตะที่เชื่อว่าเด็กไทยที่เกิดทันทศวรรษที่ 90 ถึงช่วง 2000 ต้นๆ จะต้องเคยได้ยินติดหู จาก กล้วยหอมจอมซน (Bananas in Pyjamas บานาน่า อิน พาจามาส) การ์ตูนที่มอบความสุขให้กับเด็กๆ มาหลายสิบปี
สำหรับ กล้วยหอมจอมซน เป็นรายการสำหรับเด็ก ที่ออกฉายในปี ค.ศ.1992 ทางช่องเอบีซี (the Australian Broadcasting Company) และได้รับความนิยมทั้งในออสเตรเลียและประเทศอื่น ๆ ก่อนจะสิ้นสุดการออกอากาศในปี ค.ศ.2002 ในประเทศไทย ออกอากาศทางช่อง 7
ฝาแฝดกล้วยหอม
กล้วยหอมจอมซน มีคาแรกเตอร์การ์ตูนที่คุ้นเคยอย่าง บี 1 และบี 2 ฝาเฝดกล้วยหอม สวมชุดนอนลายทางสีขาวฟ้า พร้อมกับเหล่าหมีเท็ดดี้ มอร์แกน ,ลูลู่ และเอมี่ มีนิสัยขี้เล่น ซุกซน ชอบช่วยเหลือคนอื่น บอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่ายๆ และมีวลีที่หลายคน ยังคงติดปากนำมาใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่ว่า “นายคิดเหมือนฉันไหมบี1” “ฉันก็คิดเหมือนที่นายคิดนั่นแหละบี 2”
Helena Harris
เฮเลน่า แฮริส (Helena Harris)โปรดิวเซอร์และผู้ผลักดันกล้วยหอมจอมซน จนกลายเป็นตำนานระดับโลก เธอได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่ากว่าจะมีรายการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งเรื่องงบประมาณที่จำกัด ทำให้ทะเลาะกับฝ่ายบริหารบ่อยครั้ง และการทำโชว์ที่มีกล้วยหอม 2 ตัว นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ช่วงยุคต้น 90 กลายเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลมาก แต่สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้ เธอจึงเริ่มต้นวางตัวละครต่างๆ โดยอิงประสบการณ์มาจากลูกๆ ของตัวเอง
เพลง Bananas in Pajamas
กล้วยหอมจอมซนเริ่มปรากฏตัวขึ้นในรายการทีวีโดยมีเพลง Bananas in Pajamas เป็นเพลงประกอบ ซึ่งเพลงนี้แต่งขึ้นโดย แครี ไบลตัน (Carey Blyton) นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ เพื่อกล่อมลูกให้นอนหลับ ปรากฏว่าลูกของเขาชอบเพลงนี้มาก และต่อมาเพลงนี้ก็ถูกนำมาใช้จนติดหูถึงปัจจุบัน
แม้ กล้วยหอมจอมซน (Bananas in Pyjamas บานาน่า อิน พาจามาส) จะลาจอไปนานแล้ว แต่เชื่อว่าการ์ตูนเรื่องนี้ยังตราตรึงในความทรงจำของใครหลายคน เมื่อนึกย้อนกลับไปในยุคที่ยังไม่เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมต่างๆ มากขนาดนี้ การ์ตูน รายการเด็ก ทางโทรทัศน์ คือสิ่งเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของเด็กๆ ในยุคนั้น คุณอาจจะเห็นภาพเด็กๆ มานั่งเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ เพื่อรอดู บี1 บี2 ผองเพื่อนเท็ดดี้ กับเรื่องราวสุดปั่นป่วนของพวกเขาอย่างตรงเวลา กับความรู้สึกเมื่อดูจบว่าทำไมจบเร็วจัง
ขอบคุณภาพจาก : abc.net