วิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภคอาหารของคนเปลี่ยนแปลงไป เมนูอาหารเช้าที่ทานได้ง่ายอย่าง ปาท่องโก๋ กาแฟ หรือชาสักแก้ว กลายเป็นเมนูจานด่วนช่วยรองท้องสำหรับใครหลายคน ทว่าเมนูที่ดูเรียบง่ายนี้กลับแฝงไปด้วยอันตรายที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
จากข้อมูลด้านสุขภาพ “นายแพทย์สุวรรชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย” อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่า “ปาท่องโก๋” เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย อยู่ในหมวดเบเกอรีและอาหารว่าง อย่างไรก็ตามหากพูดถึงคุณค่าทางโภชนาการแล้ว พบว่าปาท่องโก๋ 100 กรัม ให้พลังงานมากถึง 441 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 40.56 กรัม ไขมัน 27.79 กรัม
โดยปาท่องโก๋ 1 คู่ขนาดจะมีน้ำหนักประมาณ 30 กรัม จึงให้พลังงาน 132 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม ไขมัน 8 กรัม ขึ้นอยู่กับขนาดตัวว่าเล็กหรือใหญ่ นอกจากนี้ปาท่องโก๋ยังนิยมทอดในน้ำมันเก่าที่ทอดซ้ำ ก่อให้เกิดสารโพลาร์ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งด้วย
คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการทานปาท่องโก๋แบบไม่อ้วนและได้รับสารอาหารครบถ้วน ควรเลือกร้านที่ใช้น้ำมันใหม่ในการทอด โดยสังเกตได้จากสีน้ำมันที่ต้องเป็นสีน้ำตาลอ่อน (น้ำมันทอดซ้ำจะมีสีดำ) และไม่ควรกินเกิน 2 คู่ต่อวัน โดยอาจกินพร้อมกับโจ๊ก ไข่ต้ม ผลไม้ไม่หวานจัด น้ำเต้าหู้ชนิดไม่หวาน เพิ่มธัญพืช เช่น ถั่วแดง เม็ดแมงลัก หรือลูกเดือย เพื่อเพิ่มใยอาหารช่วยดักจับไขมัน และเลี่ยงการกินปาท่องโก๋แบบจิ้มกับดิปปิ้งอื่นๆ
นอกจากปาท่องโก๋ อีกหนึ่งเมนูที่คนไทยนิยมกินคู่กันคือ “ชาไทย” หรือ “ชาเย็น” โดยนายแพทย์สุวรรณชัย ระบุว่า ชาเย็น 1 แก้ว ปริมาณ 200 มิลลิลิตร ให้พลังงานประมาณ 430 กิโลแคลอรี ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน มีคาร์โบไฮเดรต 69 กรัม ไขมัน 15 กรัม และน้ำตาล 53 กรัมหรือประมาณ 13 ช้อนชา เพราะเสน่ห์ของชาเย็นจะต้องใส่นมข้นหวาน น้ำตาล หรือนมสดนั่นเอง
จากการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร ปี 2564 พบว่า ประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป บริโภคเครื่องดื่มชง อาทิ ชา กาแฟ น้ำหวาน ชานม สูงถึงร้อยละ 26.3 ขณะที่กลุ่มประชากรอายุ 45-59 ปี นิยมดื่มเครื่องดื่มชงมากที่สุด ร้อยละ 34.8
ในแต่ละวันเราไม่ควรบริโภคน้ำตาลมากกว่า 6 ช้อนชา ดังนั้นหากดื่มบ่อยหรือเป็นประจำทุกวันจะทำให้เกิดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หลอดเลือดสมองและหัวใจ มะเร็ง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนลงพุง
แหล่งที่มาข้อมูล
- กรมอนามัย : https://www.hfocus.org/content/2023/03/27179
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง