วันนี้ FEED พาทุกท่านย้อนกลับไปชมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสิ้นเดือน มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษาให้กับหนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดีกับโรค ท่อนำอสุจิอุดตัน สำหรับใครที่ไม่ได้มีเวลาในการช่วยเหลือตัวเองบ้างเลย วันนี้เรามีอาการที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ได้มีโอกาสในการช่วยตัวเองมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ
ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ วันที่ 24 มิถุนายน 2566 ทวิตเตอร์แอคเคาต์ ป๊อบเองแอนตี้ถั่วงอก ได้โพสต์เรื่องราวประสบการณ์ป่วยซึ่งเป็นเคสที่หายากว่า “เมื่อคืนเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในช่องท้องช่วงอัณฑะ เลยไปหาหมอ ตรวจทุกอย่างได้ข้อสรุปว่าไม่ชักว่าวเลย ท่อนำอสุจิอุดตัน เลยทำให้อักเสบ ห๊าาาา” ซึ่งทวีตนี้ได้กลายเป็นไวรัลที่มีผู้เข้าถึงกว่า 2.6 ล้านครั้ง และรีทวีตไปมากกว่า 4 หมื่นครั้ง
โดย เจ้าของทวีตยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง “เรื่องจริงครับ ไปถึงคุณหมอจะตรวจเลือดหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะครับ ผลเลือดออกมาหมอส่งเอ็กซ์เรย์ต่อแล้วดูด้านในครับว่าเกิดจากอะไร แล้วก็ถามพฤติกรรมเรา ก็ได้ข้อสรุปครับ ผมไม่ชักว่าวเลยเดือนสองเดือนงี้” ทั้งยังให้ข้อมูลอีกว่า “ได้ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบมากินก็หายครับไม่มีอะไรมาก แต่ตอนเป็นแสบภายในช่วงไข่มากนึกว่าเป็นอะไรหนัก” “ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่ชักว่าวเลยมันจะเปลี่ยนจากน้ำเป็นวุ้นหนืดๆเลยอุดตันได้ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” เขากล่าวพร้อมโพสต์เอกสารซึ่งระบุช่องการวินิจฉัยโรคไว้ว่า “สงสัยท่อนำเชื้ออักเสบ”
ขณะเดียวกันก็ยังมีคนสงสัยและไม่เชื่อว่าสาเหตุมาจากการไม่ได้สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ต่างตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศหรือไม่ ทำเอาเจ้าของทวีตต้องออกมาชี้แจงว่า “หมอเจาะเลือดหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็แล้ว ไม่โดนเย็ดมาเกือบปีแล้ว ชักว่าวยังไม่ได้ชัก แต่ในทวิตบอกว่าติด บอกว่าเปลี่ยนคู่นอนบ่อย(อยากสวยจนเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆจังอะ) ต้องเชื่อใคร ควรกลับไปด่าหมอมั้ย” ก่อนจะโชว์ยาที่หมอจ่ายให้รับประทาน ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดอักเสบ ไม่ได้มียาเกี่ยวกับโรคทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด
และในวันที่ 25 มิถุนายน เจ้าของทวีต ก็ได้เผยว่า “หายแล้วครับ วันนี้กลับไป ร.พ. อีกรอบหลังจากที่เกิดเรื่อง ตรวจแล้วอีกรอบเพราะอาการเจ็บมันหายไปแล้วหลังจากกินยา” อย่างไรก็ตาม กับเรื่องนี้เพจของแพทย์ อย่าง “Sarikahappyworld” ก็ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยให้ความรู้ว่า “ epididymal hypertension (blue ball) เกิดจากเวลาแข็งตัวแล้วมันก็จะมีเลือดมาคั่งแถวนั้นชั่วครู่ ทีนี้พอได้ปลดปล่อย ภาวะตึงตัวก็จะเกิดการผ่อนคลาย ทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในบางกรณีเช่น สถานที่ไม่พร้อม คนไม่พร้อม เงินไม่พร้อม หรือเป็นคนดีมีความยับเยะชั่งใจแบบหมอ ก็เลยไม่ได้ปลดปล่อย ณ ตอนนั้นเวลานั้น ก็อาจจะทำให้จิตหงุดเงี้ยว เสียวปวดหน่วง ถ่วงเจ็บจุกบริเวณลูกอัณฑะจนเกิดอาการไม่ค่อยสบายตัวได้ครับ แต่จริง ๆ กรณีนี้เกิดได้น้อยมากนะครับ เพราะต่อให้ไม่ปล่อยก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทุกคน และต่อให้เป็นจริง ๆ แค่ไปชตอ.(shark wow) ทีนึงก็หายแล้ว ดังนั้นโรคนี้มักจะเอามาใช้วินิจฉัยในกรณีที่ปวดไข่แล้วหาสาเหตุอะไรไม่เจอมากกว่าครับ”
แหล่งที่มาและข้อมูล : ข่าวสด, มติชน