“จินนี่” ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวคนเล็กของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
กับบทบาทหนึ่งในทีมหาเสียงพรรคไทยสร้างไทย เริ่มอินกับสนามการเมือง ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง การเลือกตั้ง 2566
จินนี่ หรือ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 24 ปี เป็นลูกสาวคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 3 คนของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ นายสมยศ ลีลาปัญญา
จินนี่ ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก กับบทบาทหนึ่งในทีมหาเสียงพรรคไทยสร้างไทย รวมถึงในช่วงลงพื้นที่ สื่อมวลชนเองก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ กับบุคคลิกน่ารัก ใสๆ ในสไตล์คนรุ่นใหม่
จินนี่ เล่าว่าเธอมีงานประจำอยู่แล้ว ในตำแหน่ง Sectional Marketing Manager ดูแลในส่วนแฟชั่น-ลักชัวรี ของศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ส่วนช่วงที่มาช่วยคุณแม่หาเสียง บางครั้งก็ลางาน ส่วนช่วงไหนที่ต้องใช้เวลาเยอะ ก็ใช้วิธี leave without pay
จินนี่ ให้สัมภาษณ์ กับ เว็บไซต์ ฟีดฟอร์ฟิวเจอร์ ในประเด็นที่น่าสนใจคือครั้งหนึ่งในวัยเด็กเคยอายที่มีแม่เป็นการนักการเมือง และ คิดอย่างไรกับ ฉายา “แม่ยายแห่งชาติ” ที่ชาวโซเชียลมอบให้คุณหญิงสุดารัตน์
นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พูดคุยประเด็นต่างๆ กับ จินนี่ ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 โดยมีบางช่วงบางตอนที่น่าสนใจดังนี้
ที่มาเดินหาเสียงกับทางพรรคไทยสร้างไทย คุณแม่เห็นอะไรในตัวเรา
“จริงๆคุณแม่ไม่ได้ขอ หรือบังคับ แต่บอกคุณแม่ไปว่า ถ้ามีตรงไหนที่หนูช่วยได้ ทำได้ หนูอยากช่วย เพราะเราเห็นความตั้งใจจริงของคนในพรรค ทั้งตัวคุณแม่เอง และตัวพี่ๆ ผู้สมัครทุกท่าน ทีมงานทุกคน แรกๆ เราไม่ได้เข้ามามากมาย แต่เราได้พบเจอทีมงาน ก็เห็นความตั้งใจจริง เลยคิดว่า ถ้าเราเป็นหนึ่งในกำลังเล็กๆ ที่เราช่วยได้ ก็อยากจะเสนอตัวมาช่วยเหมือนกัน”
จินนี่ได้เห็นงานการเมืองผ่านคุณแม่มาตั้งแต่เด็กๆ มองงานการเมืองอย่างไรบ้าง
“จริงๆ ถ้าเป็นตอนเด็กๆ หนูจะไม่ค่อยเข้าใจ perceptionการเมืองขนาดนั้น แต่แม่เราเป็นนักการเมือง แม่เราทำงานหนัก แม่เรายุ่งมาก แต่ต้องยอมรับว่าตอนเด็กๆ ช่วงประถม อาจจะเป็นค่านิยในสังคมบางกลุ่มที่ว่า การเป็นนักการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ดี ต้องโกง หรือเป็นตัวร้ายเท่านั้น มีแอบรู้สึกว่า ไม่กล้าบอกเพื่อนเหมือนกันว่า แม่เราเป็นนักการเมือง แต่เพื่อนก็ทราบ เวลาต้องเขียนในรายงาน หรือเพื่อนๆ พูดขึ้นมา เราก็บอกว่า แม่เป็นนักธุรกิจ แต่พอเราโตขึ้น เราเข้าใจอะไรมากขึ้น สังคมเปิดรับมากขึ้น แทนที่เราจะปกปิดว่าแม่เราเป็นนักการเมือง เรากลับภูมิใจว่าแม่เราเป็นนักการเมือง เค้าทำเพื่อประชาชนจริง มีแพชชั่น และมีความตั้งใจ มันเปลี่ยนเป็นความภูมิใจซะมากกว่า ที่เราได้เกิดมามีแม่เป็นนักการเมือง”
จินนี่ มองภาพรวมการเมืองอย่างไรบ้าง
“มองภาพรวมตอนนี้รู้สึกว่า ถ้ามองในแง่คนรุ่นใหม่ ในภาพกว้าง รู้สึกว่าทุกคนตื่นตัวมากๆ กับการเมือง อย่างที่บอกตอนแรก ๆ คนไม่อยากยุ่งเท่าไหร่ คนรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ดี หรือเรื่องไกลตัว แต่ตอนนี้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเด็กรุ่นใหม่ คนเจนใหม่ สนใจการเมืองมากขึ้น หรือแม้ในวงเพื่อนหนูก็เราก็คุยกันเรื่องการเมืองมากขึ้น”
เทียบกับช่วงตอนจินนี่เด็กๆ เสรีภาพในการพูด ในการแสดงออกในบ้านเราเป็นอย่างไร
“จริงๆ หนูรู้สึกว่า ช่องทางในการที่คนรุ่นใหม่จะออกมาให้ความเห็น หรือแสดงความเห็นทางการเมืองมันเยอะขึ้น แต่ไม่กล้าพูดว่า สิทธิเสรีภาพมันเยอะขึ้น เพราะว่าเราก็ยังเห็นว่าบางครั้งที่คนรุ่นใหม่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องๆ ต่างๆ ก็ยังถูกโจมตีหรือหน่วยงานต่างๆ เพ่งเล็งอยู่ แต่ช่องทางต่างๆ มันเยอะขึ้น เพราะเรามีโซเชียลมีเดีย มีสื่อที่เป็นของเราเองได้”
รู้สึกเอนจอยมั้ยกับงานการเมือง
“ก็รู้สึกเอนจอยระดับหนึ่ง เพราะตั้งแต่เด็ก ก็สนใจการเมืองระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายของตัวเองว่าต้องเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว แต่ว่าการที่เราได้มีโอกาสได้ติดตามคุณแม่ ก็ทำให้เราได้เจอปัญหาเยอะขึ้น ได้คุยกับประชาชน ทำให้เราได้แบบเห็นหน้า รู้สึกถึงอารมณ์ ถึงความหวังที่มอบให้”
หลังเลือกตั้งจะไปทำอะไร
“จริงๆ หนูก็มีงานประจำ ก็จะกลับไปทำงานประจำ สำหรับงานในพรรคเอง ถ้ามีอะไรที่หนูช่วยได้ หรือแบ่งเบาภาระได้ ก็อาจจะช่วย”
คิดอย่างไร กับคำว่า แม่ยายแห่งชาติ ที่ชาวโซเชียลมอบให้
“ ก็มีคุยกับแม่เหมือนกัน แต่แม่บอกว่าให้เรียกว่าแม่ก็พอ คำว่ายายอาจจะดูแก่ไป แต่ว่าภาพรวมก็ขอบคุณที่มีพี่ๆ ให้ความสนับสนุน ถ้ามีใครจำได้ก็ขอบคุณค่ะ”
รับชมในรูปแบบคลิปได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=TRpxjimo_cE