วันที่ 22 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นอีกหนึ่งวันที่ทาสแมวชาวญี่ปุ่นเฝ้ารอเพราะวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น “วันแมวญี่ปุ่น” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Neko no Hi” สาเหตุที่เป็นวันนี้เพราะว่า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า ni-ni-ni ซึ่งคล้ายกับเสียงร้องของแมวในภาษาญี่ปุ่นที่ร้องว่า nyan-nyan-nyan นั่นเอง เพิ่มเติมจากวันแมวโลก (International Cat Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม
จากการศึกษาของนักสัตววิทยาและนักประวัติศาสตร์ในญี่ปุ่นสันนิษฐานว่า บรรพบุรุษแมวเข้ามาพร้อมกับกองคาราวานที่เดินทางผ่านเส้นทางสายไหมประมาณสมัยนาราในช่วง ค.ศ. 710 – 794 คาบเกี่ยวสมัยเฮมันตอนต้น ค.ศ.794 – 1185 แมวถูกนำขึ้นเรือเพื่อให้ทำหน้าที่คอยป้องกันพระคัมภีร์จากหนูนั่นเอง นอกจากนี้ที่แหล่งโบราณคดีคาราคามิบนเกาะอิกิ จังหวัดนะงะซะกิ ยังค้นพบกระดูกของแมวซึ่งช่วยยืนยันว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นตั้งแต่ 2,000 ปีก่อน
ในอดีตนั้นแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่สงวนไว้เฉพาะกับขุนนาง ข้าราชบริพารระดับสูงเท่านั้น กระทั่งเมืองเกียวโตเติบโตขยายใหญ่ขึ้น ปริมาณของหนูก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับในศตวรรษที่ 17 ตัวแทนขององค์จักรพรรดิในเกียวโตได้เรียกร้องให้แมวได้รับการปลดปล่อยเพื่อช่วยลดความเสียหายในฐานะเพชรฆาตกำจัดหนู
นอกจากจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ในฐานะสัตว์เลี้ยง เพื่อน และครอบครัวแล้ว ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับแมวในญี่ปุ่นยังมีหลายเรื่อง รวมถึง “แมวกวัก” หรือ “มาเนกิเนะโกะ” (Maneki Neko) สัญลักษณ์ของความโชคดีซึ่งมีตำนานที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดเรื่องว่า เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ มีหญิงชรายากจนซึ่งเลี้ยงแมวไว้หนึ่งตัว แม้จะรักแมวมากแค่ไหนแต่ด้วยความจนจึงจำเป็นต้องปล่อยแมวไป
ในคืนนั้นเธอนอนร้องไห้และฝันว่าแมวมาบอกให้ปั้นรูปปั้นแมวขึ้นมาแล้วจะโชคดี วันรุ่งขึ้นหญิงชราจึงปั้นรูปปั้นแมวและมีคนมาขอซื้อต่อ เธอจึงปั้นตัวใหม่ขึ้นมาและมีคนขอซื้อต่อเรื่อยๆ เมื่อเธอมีเงินมากพอจึงพาแมวสุดที่รักกลับมาอยู่ด้วยกันในท้ายที่สุด นับแต่นั้นรูปปั้นแมวจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีที่เราพบเห็นได้ตามหน้าร้านค้าต่างๆ ในปัจจุบัน
แมวกวักแขนแต่ละข้างก็มีความหมายต่างกัน คือ กวักแขนซ้าย หมายถึง ช่วยเรียกแขก ลูกค้า กิจการรุ่งเรือง กวักแขนขวา หมายถึง ช่วยดึงดูดเงินทองและโชคลาภ
นอกจากแขนที่ยกขึ้นมากวักแล้ว “สี” ที่ต่างกันก็ยังช่วยในเรื่องต่างกันด้วย
- แมวกวักสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ช่วยให้โชคดี
- แมวกวักสีทอง หมายถึง ส่งเสริมโชคลาภด้านการเงิน ช่วยให้ร่ำรวย
- แมวกวักสีน้ำเงิน หมายถึง ช่วยให้แค้วคลาดปลอดภัยจากการเดินทาง
- แมวกวักสีชมพู หมายถึง ช่วยให้สมหวังด้านความรัก
- แมวกวักสีดำ หมายถึง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ
- แมวกวักสีแดง หมายถึง ส่งเสริมด้านสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคภัย
- แมวกวักสีเหลือง หมายถึง ช่วยให้มีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดี
- แมวกวักสีเขียว หมายถึง ช่วยให้คนในบ้านปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุข
ชาวญี่ปุ่นจะเฉลิมฉลองวันแมวกันอย่างคึกคักสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขารักสัตว์ชนิดนี้มากแค่ไหน เด็กๆ จะได้สนุกกับผลงานศิลปะเกี่ยวกับแมวที่ประดับตามห้องสมุดชุมชน , โรงเรียน และศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ขณะที่ร้านค้าและบริการต่างๆ จะตกแต่งร้านในธีมแมวพร้อมออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแมวเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้
ความรักที่ชาวญี่ปุ่นมีให้ต่อแมวยังพบเห็นได้จากขบวนรถไฟแมวที่เมืองวากายามะ (Wakayama Electric Railway) บริการรถไฟส่วนต่อขยายจากเมืองวากายามะไปยังสถานีคิชิ ซึ่งขบวนรถไฟนี้มี “ทามะ” แมวสามสีเป็นนายสถานีคอยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว แม้ทามะจะจากไปกลับสู่ดาวแมวเมื่อปี 2015 เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้ง “ศาลเจ้าทามะ” ขึ้นมาที่ชานชาลาสถานีคิจิ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง พร้อมกับแต่งตั้ง “นิทามะ” ให้ดำรงตำแหน่งนายสถานีคนที่ 2 แทน
ปัจจุบันแมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับ 2 รองจากสุนัข โดยข้อมูลของเว็บไซต์ Statista ระบุว่า ในปี 2021 สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นคือสุนัข อยู่ที่ร้อยละ 11.3 จากประชากรทั้งหมด รองลงมาคือแมวที่ร้อยละ 9.8
แหล่งอ้างอิงข้อมูล