Google ประเทศไทย เผยผลคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2565 หรือ Year in Search ทั้งเทรนด์บุคคล เหตุการณ์สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว ในหมวดสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ (Trending International Destinations) ที่สะท้อนให้เห็นความสนใจของคนไทยในการออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังจากประเทศต่าง ๆ ผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 มากขึ้น ไปเริ่มดูกันที่อันดับ 10 กันก่อนเลยครับ
อันดับที่ 10 ซาปา (Sapa)
ดินแดนแห่งเวียดนามเหนือ มีพิกัดติดกับจีน เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม มีนาขั้นบันไดและขุนเขาอยู่โดยรอบ ประกอบกับมีสถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองที่ได้รับอิทธิผลมาจากฝรั่งเศส ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก มี ยอดเขาฟานซีปัน (Fansipan Mountain) ที่ถูกขนานนามให้เป็น “the Roof of Indochina” หรือ “หลังคาแห่งอินโดจีน” เนื่องจากเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม รวมถึงสูงที่สุดในประเทศแถบอินโดจีน สำหรับเวียดนามแล้วคนไทยสามารถไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องของวีซ่า พำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน
อันดับที่ 9 มาเลเซีย ( Malaysia)
มาเลเซียเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ประเทศไทยอีกประเทศหนึ่ง สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง จะเป็นทางอากาศผ่านทางสายการบินต่างหรือแม้แต่จะเดินทางโดยรถยนต์แวะเที่ยวระหว่างทางก็สามารถทำได้ ซึ่งมาเลเซียมีเมืองหลวงคือ กัวลาลัมเปอร์ ที่เป็นศูนย์รวมทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซียที่น่าสนใจ เช่น ตึกแฝดเปโตรนาส, สวนนกกัวลาลัมเปอร์, ย่านบูกิต บินตัง, หอคอยกัวลาลัมเปอร์, อนุสาวรีย์แห่งชาติมาเลเซีย, พระราชวังอิสตานา เนการา คนไทยไปเที่ยวไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน
อันดับที่ 8 จอร์เจีย ( Georgia)
จอร์เจียเป็นประเทศที่ระยะหลังมานี้ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีประวัติศาสตร์ยาวนานเพราะในสมัยก่อนเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต สถานที่ท่องเที่ยว ของที่นี่เรียกได้ว่าสวยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมต่างๆ รวมไปถึงวิวทัศนียภาพของธรรมชาติอันงดงาม เป็นเสน่ห์ที่หาที่ไหนไม่ได้ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตนเองดูสักครั้งในชีวิต
สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียที่น่าสนใจ เช่น เทือกเขาคอเคซัส, มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี, โบสถ์เกอร์เกติ, อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย, อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย, โบสถ์เกอลาติ, พิพิธภัณฑ์สตาลิน การเดินทางไปประเทศจอร์เจียนั้น ส่วนใหญ่ยังต้องแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 จุด เพื่อไปลงที่เมืองหลวงจอร์เจีย ทบิลิซี (Tbilisi) ส่วนเรื่องการขออนุญาตเข้าประเทศนั้นไม่ต้องกังวล พาสปอร์ตไทยไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ได้ถึง 365 วัน
อันดับที่ 7 โตเกียว (Tokyo, Japan)
เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศแล้ว ประเทศที่อยู่ในใจของหลายๆคนมาตั้งแต่ช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดอยู่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อกล่าวถึงญี่ปุ่นแล้วสิ่งที่หยุดคิดถึงไม่ได้เลย ก็คงจะเป็นเมืองหลวงโตเกียวนั้นเอง ศูนย์รวมเศรษฐกิจ การศึกษา วัดวาอาราม แหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งบันเทิงต่างๆ มากมาย แถมยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องห่วงว่าจะลำบากแต่อย่างใด
สถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวที่น่าสนใจก็มีหลายที่เช่น เช่น ย่านฮาราจูกุ, พระราชวังอิมพีเรียล, โตเกียวทาวเวอร์, ย่านอากิฮาบาระ, ห้าแยกชิบูย่า, ตลาดปลาซึกิจิ เป็นต้น การเดินทางไปญี่ปุ่นหลังจากญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ โดยฟรีวีซ่าให้คนไทย ไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องตรวจโควิด เพียงแค่ต้องลงทะเบียนผ่าน Visit Japan Website ก่อนเดินทาง
อันดับที่ 6 ไต้หวัน (Taiwan)
ไต้หวันอีกหนึ่งเกาะที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกาะไต้หวันมีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นสายช้อปปิ้ง สายท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือแม้แต่สายกิน ไต้หวันคือจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การมาสักครั้งในชีวิต ที่พักก็มีหลากหลายแบบทั้งโรงแรมหรูหราไปจนถึงโฮสเทลราคาย่อมเยา ด้านการเดินทางในไต้หวันก็ไม่ยาก
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันที่น่าสนใจ เช่น หมู่บ้านแมว Houtong Cat Village, จิ่วเฟิ่น (Jiufen), ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake), อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alisan National Park), อนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก, ตึกไทเป 101 เป็นต้น ในส่วนของการเดินทางนั้น ทางการไต้หวันประกาศเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2565 ซึ่งสามารถท่องเที่ยวพำนักได้ยาวถึง 14 วัน
อันดับที่ 5 เกาหลีใต้ ( South Korea)
หลังจากช่วง COVID-19 ที่ผ่านมาคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลายามว่างไม่ได้ออกไปไหน ในการรับชมซีรีส์เกาหลีกันไปหลายเรื่อง หลายตอน หลังจากเริ่มมีการเดินทางกลับมาเป็นปกติ ก็มีทั้งคนไทยที่สนใจในเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเกาหลีและกลุ่มที่ต้องการเดินทางไปตามรอยซีรีส์ สนใจเดินทางไปเที่ยวเกาหลีเป็นอย่างมาก ซึ่งเกาหลีหนึ่งในประเทศที่ยืนหนึ่งเรื่องแหล่งช้อปปิ้ง ของกิน และสิ่งบันเทิงมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระราชวังถ็อกซูกุง, พระราชวังคย็องบกกุง, หมู่บ้านบุกชอนฮันอก, หอคอยเอ็นโซล, ย่านอินซาดง, ย่านฮงแด เป็นต้น
การเดินทางเข้าเกาหลีในตอนนี้ต้องลงทะเบียน K-ETA ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัว แถมยังดีงามตรงที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า แค่มีพาสปอร์ต
อันดับที่ 4 ญี่ปุ่น ( Japan)
นอกจากโตเกียวแล้วญี่ปุ่นยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ในหลายด้าน มีวัฒนธรรมที่น่าค้นหา รวมถึงผู้คนที่น่ารัก สถานที่เที่ยวในญี่ปุ่นนอกจากตัวของเมืองหลวงเองแล้วยังมี ภูเขาไฟฟูจิ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเมืองมรดกโลกอย่าง เกียวโต แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตที่ โอซาก้า และอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การเดินทางไปเที่ยวนั่นเป็นไปตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น
อันดับที่ 3 ลาว (Laos)
ประเทศลาวเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการค้นหามากเป็นอันดับต้นๆโดดเด่นด้วยวัฒนธรรมอันทรงเสน่ห์ และสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์และเงียบสงบ มีรถไฟความเร็วสูงช่วยให้การเดินทางไปเที่ยวลาวง่ายขึ้นและเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของลาวก็คงไม่พ้นเมืองหลวงอย่าง เวียงจันทน์ และเมืองมรดกโลกอย่าง หลวงพระบาง หรือถ้าอยากเที่ยวธรรมชาติให้ชื่นใจล่ะก็ ปากเซ และ วังเวียง รวมถึงมีลักษณะภูมิประเทศ อากาศ ภาษา การใช้ชีวิต ที่ไม่ต่างจากคนไทยมากนัก
สำหรับเรื่องการเดินทางแค่มีพาสปอร์ตก็สามารถเดินทางเข้าลาวได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ยื่นพาสปอร์ตก็ผ่านเข้าได้เลย อยู่ได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน
อันดับที่ 2 เวียดนาม ( Vietnam)
เวียดนามที่เที่ยวใกล้ไทยยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งที่บอกเลยว่ามาแรง เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ มีทั้งเมืองน่าเที่ยวไม่ได้มีแค่เมืองหลวงอย่างโฮจิมินห์เท่านั้น แต่มีเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซาปา ฮานอย ฮอยอัน ดานัง ดาลัด เว้ และญาจาง เป็นต้น ที่นี่จึงได้กลายมาเป็น Dream Destination การเดินทางไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน
อันดับที่ 1 สิงคโปร์ ( Singapore)
สิงคโปร์เกาะเล็กทางใต้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการค้นหามากที่สุด โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อกลางปีที่ผ่านมา มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวครบครันทั้งที่เที่ยวสมัยใหม่ ที่เที่ยวธรรมชาติ และที่เที่ยวทางวัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น รวมถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ที่น่าสนใจอื่น เช่น เมอร์ไลออน, การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์, เขื่อนมารีน่า บาร์ราจ, มารีน่า เบย์ แซนด์, สิงคโปร์ ฟลายเออร์ เป็นต้น การเดินทางไปเที่ยวนั้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน (ต้องมีเจตนาเพื่อการเดินทางไปท่องเที่ยวเท่านั้น)
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้วยังสามารถไปดูการจัดอันดับอื่นๆได้เพิ่มที่ Google Trend ส่วน FEE:D ได้เคยทำ 4 อันดับคนไทยที่ได้การค้นหาชื่อมากที่สุดในปี 2022 คลิกดูที่นี่ได้เลย
แหล่งที่มาและข้อมูล
Google : https://trends.google.co.th/trends/yis/2022/TH/