Indy Mania By พอล เฮง คอลัมน์ที่จะพาย้อนกลับไปในช่วงการปะทุและระเบิดของเพลงไทยนอกกระแส ในช่วงทศวรรษที่ 90s
‘คณะดนตรีที่ยืนระยะในวงการเพลงมากว่า 20 ปี และถือเป็นคณะหนึ่งที่น่าดูชมการแสดงสดในลำดับต้นๆ ของเมืองไทย
ในยุคโซเชียลมีเดีย ‘ETC. ชวนมาแจม : Live Session’ เป็นการแสดงสดร่วมร้องและเล่นดนตรีที่มีคณะอีทีซี. เป็นเจ้าภาพในช่องยูทูบของตัวเอง แสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือและเชิงชั้นทางดนตรีที่สามารถยืนระยะมากกว่า 80 การแสดงที่มีคุณภาพและสีสันทางดนตรีที่อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม
เพราะฉะนั้นการผลิตเพลงยอดนิยมและการแสดงสดโดยผ่านดนตรีที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา พ็อปที่มีกลิ่นอายอีซีลิสซึ่นนิ่ง มีทางดนตรีของฟังค์กี อาร์แอนด์บี โซล และฟิวชันแจ๊ซ ที่มั่นคงในเส้นทางของตัวเองในหลายอัลบั้ม ดนตรีและบทเพลงของ อีทีซี. จึงน่าดูชมเป็นอย่างยิ่งในการมาเล่นสดกลางแจ้งบนสนามหญ้าเขียวขจีในยามค่ำคืนต้นหน้าหนาว

อีทีซี. (ETC.) นับได้ว่าเป็นคณะดนตรีรุ่นกลางที่มีอายุมายาวนานเกิน 2 ทศวรรษในวงการ เพียงแต่จะนับตั้งแต่ก่อตั้งคณะในปี 2543 ที่ชนะเลิศการประกวดดนตรีฝนหลายเวที อาทิ ได้รับรางวัลชนะเลิศ เชียงใหม่ มิวสิค อวอร์ด รางวัลชมเชย การประกวด ITV shure music award และรางวัลชนะเลิศ Nescafe’ Open up music challenge 2000 หรือจะนับในอีก 4 ปีต่อมาก็มีสตูดิโออัลบั้มชุดแรกออกมาชื่อเดียวกับคณะคือ ‘ETC.’ ในปี 2547 ซึ่งถึงปัจจุบันพวกเขามีงานสตูดิโออัลบั้มออกมาแล้ว 5 อัลบั้ม ล่าสุด เมื่อปลายปี 2567 อัลบั้ม ‘คิดถึงไม่หาย (How Are You?)’
หากมองย้อนกลับไปสู่อดีต แนวดนตรีของอีทีซี. ETC ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงพ็อปมาตรฐานที่ผสมผสานความเป็นสมูธแจ๊ซแบบไทยที่มีแต่เดิม ตามแนวทางของ ออโตบาห์น / เศกพล อุ่นสำราญ หรือโก้ มิสเตอร์แซ็กแมน / ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน แต่มาผสมผสานความเป็นตัวของตัวเองมีเอกลักษณ์พิเศษของดนตรีโซล ฟังค์กี้ ฟิวชันแจ๊ซ อาร์แอนด์บี ดนตรีประกอบด้วยเสียงคีย์บอร์ดและซินธิไซเซอร์สร้างบรรยากาศในตัวเพลงหนาแน่น เสียงเบสและกีตาร์ที่หนักแน่น ผสานกับเสียงร้องอันนุ่มนวลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์อาร์แอนด์บี ซึ่งเป็นซาวด์กลิ่นพ็อปอาร์แอนด์บี โซล ในสกุลเบเกอรี่อีกโสตหนึ่งด้วย
อีทีซี. สามารถผสมผสานยืนอยู่ตรงกลางของผู้มาก่อนจนมีซาวด์ของตัวเองได้อย่างชัดเจน และถูกหูถูกใจคนฟังเพลงกระแสหลักอยู่ใช่น้อย โดยเฉพาะบทเพลงในโหมด ‘อกหักรักร้าว’
จากคณะดนตรีมือสมัครเล่น นักศึกษาจากวิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ชนะบนเวทีประกวดดนตรีต่างๆ และพยายามยกระดับตัวเองขึ้นสู่ระดับมืออาชีพ อีทีซี. มีสมาชิกประกอบด้วย หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท : ร้องนำและกลอง / โซ่-แมนลักษณ์ ทุมกานนท์ : คีย์บอร์ด / บี-โสตถินันท์ ไชยลังการณ์ : คีย์บอร์ด, ซินธิไซเซอร์ / มิ้นท์-ปรชญา รามโยธิน : เบส / โอเล่-ไพโรจน์ ธรรมรส : กีตาร์

จนในปี 2547 ได้ออกอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงว่า ‘ETC.’ โดยโปรดิวซ์เอง ภายใต้การดูแลของ ชุมพล สุปัญโญ นักดนตรีผู้คร่ำหวอดในวงการผ่านคณะอินฟินิตี้ วงดนตรีในแนวฟิวชันแจ๊ซระดับตำนาน ที่เห็นแววและชักชวนเข้าสังกัดค่าย Baitong Records ในเครือ GMM Grammy เส้นทางดนตรีที่โลดโผนทั้งขึ้นและลง จนอยู่ยืนยาวจนถึงวันนี้ ผ่านความโดดเด่นจากการได้รับคำชื่นชมอย่างสูงในเรื่องฝีมือทางดนตรีและการแสดงสดที่ยอดเยี่ยม โดยสามารถรักษาสมาชิกหลักไว้ได้ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น
ดนตรีของ อีทีซี. ภาพรวมที่อยู่ในกระแสนิยมจะเป็นบัลลาดพ็อปอีซี่ลิสซึนนิ่ง ฟังง่าย มีกลิ่นอายของสมูธแจ๊ซ ฟังค์กี อาร์แอนด์บี ฟิวชันแจ๊ซ ในสัดส่วนดนตรี ซึ่งเป็นการผสมผสานที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เพลงของพวกเขามีความซับซ้อนแต่ก็ฟังง่ายและเข้าถึงผู้ฟังในวงกว้าง
ความเป็นโซลและริธึมแอนด์บลูส์ เป็นรากฐานสำคัญของคณะอีทีซี. ซึ่งสามารถสร้างซาวด์เฉพาะตัวขึ้นมาให้เป็นที่จดจำของคนฟังเพลงในสมัยนิยมได้ โดยเฉพาะสำเนียงการร้องของหนึ่ง-อภิวัฒน์ ที่มีกลิ่นอายของโซลและอาร์แอนด์บีแบบยุคเก่าเน้นความรู้สึก อารมณ์ และการใช้เทคนิคการร้องที่มีลูกเล่น
ส่วนลีลาของดนตรีแจ๊ซ โดยเฉพาะสมูธแจ๊ซและฟิวชันแจ๊ซ เป็นสิ่งที่ทำให้คณะอีทีซี. แตกต่างจากคณะดนตรีพ็อปทั่วไปในตลาดเพลง เพราะสมาชิกแต่ละคนมีทักษะทางดนตรีสูงและใช้เครื่องดนตรีได้อย่างซับซ้อน เสน่ห์ดนตรีของบทเพลงมักมีการเดินเบส (Bassline) ที่มีความอิสระและลูกเล่นทางดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากแจ๊สมีการใช้คอร์ด (Chord Progression) และการเรียบเรียงเสียงประสาน (Arrangement) ที่ซับซ้อนกว่าเพลงพ็อปทั่วไป โดยเฉพาะการใช้เปียโนและซินธิไซเซอร์จากคีย์บอร์ดทั้งสองตัว ที่ทำให้เกิดซาวด์แบบฟิวชันแจ๊ซที่มีการผสมผสานดนตรีหลายแนวเข้าด้วยกัน
นอกจากเชิงชั้นทักษะและกลวิธีของการเล่นดนตรีที่โดดเด่น อีทีซี. มีเซนส์หรือสัมผัสของความเป็นพ็อปสามารถสร้างสรรค์พื้นฐานจากดนตรีที่มีชั้นเชิงสูงนำมาผสมผสานให้เป็นเพลงที่เข้าถึงง่ายมีท่วงทำนองที่ติดหู และมีเนื้อหาเพลงรักที่คุ้นเคย บทเพลงฮิตหรือยอดนิยมส่วนใหญ่จึงมักเป็นเพลงช้าหรือเพลงรักที่มีจังหวะปานกลาง ที่เรียกว่า พ็อพแจ๊ซและสมูธแจ๊ซ ทำให้เพลงของพวกเขามีความไพเราะและถูกใจคนฟังเพลงพ็อปกระแสหลักในอีกทางด้วย
เอกลักษณ์ในบทเพลงแบบ อีทีซี. จึงโดดเด่นด้วยดนตรีสำเนียงเฉพาะที่เกิดจากการผสมผสานความอบอุ่นของดนตรีโซล เข้ากับความซับซ้อนและมีชั้นเชิงของดนตรีแจ๊ซในโครงสร้างของเพลงพ็อป ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในคณะดนตรีแนวหน้าของไทยที่มีฝีมือและได้รับการยอมรับมาตลอดกว่าสองทศวรรษ รวมถึงได้ทำงานเบื้องหลังทั้งสายโปรดิวซ์อัลบั้มของนักร้องต่างๆ และอำนวยการผลิตและควบคุมดนตรีในคอนเสิร์ต

ว่าไปแล้ว นอกจากดนตรีซึ่งมีความจำเพาะในลายเซ็นแบบอีทีซีแล้ว ตัวชูโรงของ อีทีซี. ก็คือ หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักร้องชายที่มีเทคนิคและสำเนียงการร้องที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงไทย ด้วยพื้นฐานดนตรีของ อีทีซี. ที่ทำให้สไตล์การร้องของหนึ่งมีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
เสียงร้องและการขับร้องของ หนึ่ง-อภิวัฒน์ มีช่วงเสียงที่กว้างและยืดหยุ่น สามารถร้องเสียงสูงได้คมชัด (High Tenor Range) แต่ก็มีความหนาและหนักแน่นในช่วงเสียงกลาง (Mid-range) ซึ่งเป็นลักษณะที่จำเป็นสำหรับการร้องเพลงโซล รวมถึงโทนเสียงของเขามีความอบอุ่น และมีมิติและความหนา ทำให้เสียงดูเต็มอิ่มและมีเสน่ห์ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเปลี่ยนจากเสียงเต็ม (Chest Voice) เป็นเสียงสูง (Head Voice/Falsetto) ได้อย่างนุ่มนวล
ด้วยเทคนิคการขับร้องที่โดดเด่นมีสำเนียงแบบโซลและริธึมแอนด์บลูส์ คือจุดเด่นที่สุดของหนึ่ง เขาใช้เทคนิคการลากเสียงหรือการวิ่งโน้ตหลายๆ ตัวในพยางค์เดียวได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ การใช้ลูกเล่นเหล่านี้ทำให้เพลงมีความซับซ้อนและมีกลิ่นอายของดนตรี โซล อาร์แอนด์บีอย่างชัดเจน ผ่านความเข้าใจในการวางจังหวะการร้องที่ไม่จำเป็นต้องตรงกับจังหวะดนตรีแบบเป๊ะๆ ทำให้การร้องดูมีอิสระ มีความยืดหยุ่น และสร้างอารมณ์คล้อยตามดนตรีฟิวชันแจ๊ซได้ดี
กลวิธีการร้องที่สามารถขึ้นเสียงสูงได้อย่างมั่นคงและมีพลังโดยที่ยังรักษาคุณภาพเสียงไว้ได้ รวมทั้งการใช้เสียงหลบ (Falsetto) ได้อย่างนุ่มนวลและควบคุมได้ดี มักใช้เพื่อเพิ่มมิติหรือความอ่อนไหวให้กับเพลง มีการควบคุมและการถ่ายทอดอารมณ์ของเสียงได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะไดนามิคของเสียงสามารถลดเสียงให้กระซิบเพื่อสร้างความใกล้ชิด แล้วเพิ่มพลังเสียงเมื่อถึงช่วงไคลแม็กซ์ของเพลงได้อย่างไม่ต้องฝืน
นอกจากนี้ การตีความและเล่าเรื่องราว หนึ่งสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านเนื้อเพลงมีความชัดเจนและจริงใจ เสียงร้องของเขามีความเป็นธรรมชาติทำให้ผู้ฟังรู้สึกเข้าถึงเรื่องราวที่เขากำลังถ่ายทอดออกมาได้อย่างรื่นรมย์
สไตล์การร้องของ หนึ่ง อภิวัฒน์ คือการผสมผสานระหว่างเทคนิคและอารมณ์ สามารถเล่นกับโน้ตและจังหวะได้อย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้ใช้เทคนิคจนล้นเกินไป สำเนียงการร้องเพลงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เสียงของเขากลายเป็นลายเซ็นของคณะ อีทีซี. กล่าวได้ว่านี่คือตัวอย่างของนักร้องที่ใช้ความรู้สึกเป็นแกนหลัก และใช้เทคนิคการขับร้องและควบคุมเสียงเป็นเครื่องมือในการขยายอารมณ์เหล่านั้นให้ลึกซึ้งและน่าสนใจยิ่งขึ้น
ชื่อของคณะดนตรีอีทีซี. (ETC.) จริงๆ แล้วหมายถึง etc. ที่ย่อมาจาก et cetera หมายถึง และอื่นๆ ถ้าเทียบกับภาษาไทยก็คือ ไปยาลใหญ่ (ฯลฯ) มาจากการที่วงมีส่วนผสมของหลายๆ อย่าง แต่มารวมกันได้อย่างกลมกลืน แต่เราอยากนิยามจากตัวตนของพวกเขาว่า ย่อมาจาก ‘Executive Talent & Creativity’ ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 ปี พิสูจน์ตัวเองเดินทางมาถึงคำนิยามคำนี้ และยังคงเดินทางต่อไป

เสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 มาฟัง ETC. กันแบบสดๆ กับอากาศดีๆ ที่งาน FEED MUSIC x AIS : Share Your Vibe งานดนตรีในสวน
📍เสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 พบกับ
-ETC. วงดนตรีที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์บทเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
-BANdSHI วงดนตรีนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-Snoff Bux วงดนตรีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล
📍 อาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 พบกับ
-ModernDog ผู้บุกเบิกดนตรี Alternative Rock ในไทย
-The Moonlight Band วงดนตรีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพา
-The Ocean Waves Band วงดนตรีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
♻️นอกจากจะมา Share Your Vibe กับดนตรีสุดมันแล้ว! เราอยากชวนทุกคนมาร่วมทำภารกิจเพื่อโลกไปด้วยกันกับ AIS 🌏 เพียงนำขยะ E-Waste หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ใช้แล้ว เช่น
📱 โทรศัพท์มือถือ
🔌 สายชาร์จ
🎧 หูฟัง
🖱️ เม้าส์/คีย์บอร์ด
..หรือ ขยะ E-Waste อื่นๆ มาทิ้งให้ถูกที่ ที่จุดรับทิ้ง E-Waste ภายในงาน FEED MUSIC x AIS มาร่วมกันช่วยโลกให้น่าอยู่ ด้วยมือของเรา 🫶



