“ใหม่โดนสบประมาทก่อนที่มันจะวางแผง เป็นนางเอกมันจะมาทำลายวงการเพลงเปล่าวะ เอาความเป็นนางเอกมาใช้ ตอนนั้นก็บอกว่าฉันไม่สวยเพราะฉันจะมาเป็นนางเอกหนัง พอวันนี้เป็นนางเอกหนัง ฉันจะมาทำลายเพราะเสียงฉันอีก ทำไมชีวิตฉันขวากหนามมันเยอะอย่างนี้”
“ก่อนพ่อเสียชีวิตได้ปีสองปีพ่อก็จะไปบอกกับลูกพี่ลูกน้องว่าภูมิใจในตัวใหม่ ใหม่มันเก่งนะ เขาไม่ได้บอกเราโดยตรง จนวันหนึ่งเขามาหาใหม่ เขาร้องไห้แล้วเขาบอกว่าขอบคุณนะใหม่ที่เกิดมาเป็นลูกผม ใหม่ลงไปกองที่พื้นเลยถ้าพูดขนาดนี้คือยิ่งกว่ารางวัลโนเบล เขาก็บอกว่าเมื่อ 30 กว่าปี เอาเด็กคนนึงอาบน้ำในกะละมังแล้วก็นึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้เลย ใหม่ก็บอกพ่อว่ามาอยู่กับใหม่สักทีสิพ่อ ให้ใหม่ไปรับไหมแบ่งเวลามาอยู่ด้วยกัน เขาก็บอกเอาไว้ชาติหน้านะลูก”
ชีวิตที่โรยไปด้วยหนามกุหลาบของนักร้องแสดง-ศิลปินชื่อดัง ใหม่ สิริวิมล หรือ ใหม่ เจริญปุระ ลูกสาวของ รุจน์ รณภพ ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่เธอเข้าวงการวันแรกจนถึงปัจจุบันนี้
ใหม่ เจริญปุระ ถ่ายทอดเรื่องราวไว้ว่าเธอมีพี่น้อง 4 คน ตั้งแต่วัยเด็กคุณพ่อรุจน์ ซึ่งตอนนั้นพ่อดังมาก ได้มาจุดประกายความฝันโดยชักชวนว่าจะให้มาเล่นหนังกับพ่อ จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอมุ่งมั่นอยากเป็นดาราเหมือนกับ อาเปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์ หรือ เพชรา เชาวราษฎร์ เมื่อไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาที่ไทย คุณพ่อก็ยังเงียบไม่ได้ชวนไปแสดงหนังเหมือนที่เคยบอกไว้ เธอและพี่สาวจึงร่วมกันวางแผนและไปสมัครเป็นนางเอกหนังตามที่หวังไว้ โดยในวันนั้นครอบครัวของใหม่ ได้ไปทานอาหารที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และในค่ำคืนนั้นได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องหนึ่งมี อาแอ๊ด สมบัติ เมทะนี พระเอกภาพยนตร์ ซึ่งเคยรู้จักสนิทสนมกับครอบครัวของใหม่ ได้ชักชวนให้ใหม่ไปร่วมงาน หลังจากงานเลิกเธอจึงเดินทางเข้าไปสมัครเป็นนักแสดงกับ ไพจิตร ศุภวารี
หนังเรื่องแรกของ ใหม่ เจริญปุระ

ผ่านไปเกือบครึ่งปี ใหม่ ถูกเรียกให้ไปเทสหน้ากล้อง ถูกถ่ายรูปเป็นพันๆ รูป แต่ทีมงานก็บอกว่าถ่ายรูปไม่ขึ้นตัวจริงดูดีกว่าจึงเป็นเรื่องกลุ่มใจของทีมงาน ประกอบกับตอนนั้นเขานิยมนักแสดงลูกครึ่ง การเป็นสาวไทยแท้ก็ต้องฟาดฟันอยู่เหมือนกัน สุดท้ายเขาก็เลยพาไปโชว์ตัวให้คนได้เห็นว่าตัวจริงมีความน่ารักนะ จนได้เล่นภาพยนตร์เรื่องแรกเมื่อ พ.ศ. 2527 เรื่องขอแค่คิดถึง หม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย เป็นผู้กำกับ
“ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก เด็กคนหนึ่งอายุ 15 ปี ไปเดินสยาม ลิโด้ แล้วมีคนเดินมาหอมแก้ม ได้เห็นรูปตัวเองในโปสเตอร์ ก็ฮือฮาแต่ไม่ได้คิดไกลใดๆ หรอก ก็แค่จะให้คุณพ่อได้เห็นว่าใหม่ก็ได้เล่นของใหม่เอง เพราะคุณพ่อเขาไม่ยินดีให้ลูกสาวเข้าวงการเลย พี่สาวทั้ง 3 คน โดนทาบทามให้ไปเล่นหนังพ่อก็จะกันหมด”
จนกระทั่งวันแต่งงานของพี่สาวคุณพ่อก็ได้มาร่วมงาน และได้เข้าไปพูดคุยกับ อาจารย์ไพจิตร ศุภวารี ผู้ที่ชักนำใหม่เข้าวงการ ตอนนั้นใหม่และคุณแม่รู้สึกตกใจและกังวลมาก เพราะคิดว่าคุณพ่อคงไปบอกกับอาจารย์ไพจิตร ว่าไม่ให้เราไปเล่นหนัง และอาจารย์ไพจิตร ก็มาเล่าในภายหลังว่าคุณพ่อไปบอกแบบนั้นจริงๆ ว่าไม่อยากให้เอาลูกของผมเข้าวงการบันเทิง แต่อาจารย์ไพจิตร ยังยืนยันว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะสคริปต์ ตั๋วเครื่องบิน ที่จะต้องบินไปถ่ายทำที่อังกฤษ เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว และสิ่งสำคัญคือมันเป็นความฝันของเด็กที่มีความพยายามขันแข็ง พอได้ฟังแบบนั้นใหม่ก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะพ่อเราดุขนาดนั้นแต่อาจารย์ไพจิตร เขาก็ไม่ล้มเลิกที่จะพาเราเข้าวงการ
ใหม่บอกว่าตัวเองเคยคุยกับพ่อหลายครั้ง ยุคก่อนคนจะมองวงการเต้นกินรำกิน หาเช้ากินค่ำ ไม่แน่นอน พ่อแม่ทุกคนรู้สึกแบบนี้ พ่อเขาก็มองยิ่งกว่านั้น เสือสิงห์กระทิงแรด ลูกฉันยังเด็ก พ่อเขาก็อยู่ในนี้เขายิ่งรู้ เขามาบอกใหม่ภายหลัง ว่าถ้าพ่อเอาใหม่มาเล่น คนจะมองเป็นลูกรุจน์ แล้วเอาลูกมาเล่น พอใหม่เล่นมาแล้ว เป็น ใหม่ สิริวิมล พ่อก็ไม่ให้เล่นอีกกลัวจะถูกมองชุบมือเปิบ ตอนนั้นน้อยใจพ่อเลือดตกยางออกในหัวใจเลย เสียใจมาก น้อยใจมาก สงสารแม่มาก

ที่ผ่านมาทุกคนจะถามใหม่ ว่าไม่ได้เล่นหนังกับคุณพ่อ เราก็ตอบแทนคุณพ่อทุกอย่าง จนวันหนึ่งเราต้องบอกว่าให้ไปถามคุณพ่อเองเพราะเราตอบแทนเขาไม่ได้จริงๆ ตัวเราเองก็มีแผลในใจตรงนั้นอยู่แล้ว บางคนก็ยังมองเฮ้ยเด็กเส้นได้เข้ามาได้เพราะคุณพ่อ ซึ่งต้องบอก ณ จุดนี้เลยว่าดิฉันมาด้วยขวากหนามที่แน่นไปหมด แล้วก็ยินดีกับขวากหนามนั้น แล้วก็ภูมิใจที่มันเป็นแบบนั้น ที่ผ่านมาเดี๋ยวพ่อจะให้เล่นไม่ให้เล่น ใหม่กับแม่ก็มีความหวังแต่แล้วก็เงียบหายไป เราก็ชะเง้อคอยหา แต่วันนี้ใหม่เข้าใจแล้วเพราะว่าเราอยู่คนละบริษัท บริษัทพ่อก็มีมาตรการแบบนึง บริษัทเราก็มีมาตรการอีกแบบนึง แต่ตอนนั้นในวัยเด็ก 15-16 ปี มันนึกไม่ออกหรอกได้แต่ถามทำไมคุณพ่อผิดคำพูด วันนี้เราโตแล้วเราเริ่มเข้าใจเกมหลายๆ อย่างว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ก็ดี บริษัทเขามีมาตรการก็ดี แต่กว่าเราจะเข้าใจ เราผ่านน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่านะ ร้องไห้ไม่รู้กี่โอ่งเพราะสงสารแม่ เส้นทางของเรามันไม่ได้ถูกปูด้วยพรมแดงกลีบกุหลาบ ทุกอย่างขวากหนามมันจะแน่นไปหมด แต่อาจารย์ไพจิตร ผู้อยู่เบื้องหลังของใหม่ท่านยืนหยัดและเข้มแข็งว่าฉันหมายมั่นเด็กคนนี้ ฉันเชื่อใจเด็กคนนี้ มันก็ไปในทิศทางที่ดี
จุดเริ่มต้นเป็นนักร้อง
การเล่นหนังเรื่องแรกใหม่ยังได้พบกับ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ และพี่ต้น สุชาติ ชวางกูร พอได้มาสนิทกันพี่เบิร์ดก็จะพูดกับคุณแม่ใหม่ว่าน้องดูชอบร้องเพลงมากเลย ทำไมคุณแม่ไม่ส่งน้องไปแกรมมี่ แต่ในความรู้สึกของเราคือมันห่างไกล เหมือนกรุงเทพ – เชียงใหม่ จึงได้แต่คิดในใจว่าเป็นไปได้เหรอ แต่การแสดงตอนนั้นก็คาบเกี่ยวกับการร้องเพลงตลอดเวลา จนกระทั่งใหม่อายุ 18 ปี ตอนนั้นแสดงหนังมาแล้ว 10 กว่าเรื่อง เริ่มรู้สึกไม่อยากเป็นนางเอกหนังแล้ว ร่างกายเริ่มไม่ไหว แต่มันก็มีละครเวทีซึ่งเป็นละครเพลงเข้ามาก็เลยไปเรียนร้องเพลงจริงจัง และทุกครั้งที่ไปเรียนอาจารย์ก็อัดเทปคาสเซ็ทไว้ และได้เล่นหนังเรื่องวัยร็อกเพลงร้อน ก็เป็นมิวสิคัล ทำให้ใหม่ได้ไปเจอกับ พี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง ซึ่งเป็นผู้ปลุกปั้นพี่เบิร์ด ธงไชย ด้วย เขามาอยู่ในวันที่เราไปถ่ายหนังพอดี ซึ่งพี่เล็ก ก็เลยบอกกับหใม่ว่าถ้าหนูชอบร้องเพลงวันหลังมาหาพี่ได้นะ
ตอนนั้นใหม่มีเทปคาสเซ็ทจากการเรียนร้องเพลง จึงปรึกษากับคุณแม่ว่าใหม่จะไปหาพี่เล็ก บุษบา ที่แกรมมี่ เมื่อเดินทางไปถึงพี่เล็กก็บอกว่าจะให้ไปพบกับ พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ แต่รอแล้วรอเล่าทั้งพี่เล็ก กับพี่เต๋อ ก็ประชุมกันไม่เสร็จ พี่เล็ก ก็เลยเดินมาบอกว่าพี่เต๋อติดประชุมเดี๋ยวพี่ให้ใหม่เจอกับเจ้าของแกรมมี่นะ (อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม)
“ความรู้สึกตอนนั้นเด็กคนหนึ่งอายุ 18 ปี แม้จะมีความมั่นใจสูง แต่ก็กลัวมาก เมื่อเข้าไปพบกับคุณไพบูลย์ เขาก็ถามเราทันทีว่ามาทำอะไร เราก็ตอบไปว่าหนูนำเพลงมาให้ฟังค่ะ พอเปิดให้ฟังคุณไพบูลย์ ก็บอกว่าโอเคเราอยู่กับพี่ 5 ปีนะ ก็รู้สึกตกใจมากเพราะเราอยู่กับอาจารย์ไพจิตร แม้จะไม่มีการเซ็นสัญญาแต่ก็เป็นสัญญาใจรักอาจารย์เหมือนพ่อคนนึง จึงขอไปถามที่บ้านก่อน จนทุกอย่างลงตัวก็ได้เข้าไปฝึกร้องเพลง ภายใต้การลบภาพความเป็นนางเอกหนังออกไปให้หมด”
ตอนนั้นใหม่ เล่าว่าฝึกเรียนร้องเพลงอยู่ร่วม 2 ปี ควบคู่ไปกับการถ่ายหนังเรื่องที่ยังค้างอยู่ให้จบ และถูกแก้ชื่อจากเดิมที่อาจารย์ไพจิตรตั้งไว้คือ ใหม่ สิริวิมล เป็น ใหม่ เจริญปุระ (ชื่อนามสกุลตามบัตรประชาชน) ไปเลย ระหว่างเรียนทางแกรมมี่ก็แต่งเพลงและหาคาแรกเตอร์ของเราควบคู่ไปด้วย ร้องแล้วร้องเล่าก็ยังไม่ใช่จนรู้สึกว่าหรือเรายังไม่ใช่กับที่ตรงนี้ พอมันสำเร็จก็ได้รู้ว่าคำว่ากว่าจะสำเร็จมันได้ถูกขัดเกลา มันได้ถูกเจีย กว่าจะมาถึงความลำบากมันเป็นเซรุ่ม ช่วยทำให้เอาอึกถึกทนเป็นสีทนได้

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
หลังจากออกอัลบั้มใหม่ เจริญปุระ ก็ประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องหญิงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่จากนิตยสาร สีสัน อะวอร์ดส์ และ อีกครั้งในปี 2541 กับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมจากอัลบั้ม แผลงฤทธิ์ จากเวทีเดียวกัน ส่งผลให้เธอขึ้นแท่นเป็น Queen of Pop rock แห่งยุค 90
เมื่อได้รับรางวัลใหม่ก็รู้สึกดีใจมา แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะมีคำสบประมาทมาตั้งแต่ก่อนที่เทปจะวางแผงว่าใหม่เป็นคนเสียงใหญ่ เป็นนางเอกจะเข้ามาทำลายวงการเพลงหรือเปล่า หรือจะเอาความเป็นนางเอกมาใช้หรือเปล่า ตอนนั้นก่อนแสดงหนังก็บอกฉันไม่สวยเพราะฉันจะมาเป็นนางเอกหนัง ตอนนี้จะมาทำลายเพราะเสียงของฉันอีก ทำไมชีวิตฉันขวากหนามมันเยอะอย่างนี้ ฉันเกิดกลางดงกุหลาบหรือเปล่านะ แต่ทุกอย่างเสร็จแล้วสำเร็จ มันก็เลยเป็นที่มาของคำถามที่ว่ารู้สึกปลื้มปริ่มขนาดไหน
ใหม่ เจริญปุระ เล่าให้ฟังอีกว่าชีวิตของเธอไม่ใช่แค่ขวากหนามที่มีเยอะแยะมากมาย แต่ยังมีชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงที่ชิวิตดีก็มักจะมีเหตุการณ์เป็นบททดสอบของชีวิต เช่นเรื่องคดีความที่อเมริกา ถูกตำรวจเข้ามาพยายามจับกุมเพราะเข้าใจผิด ส่วนตัวเราเองตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นตำรวจคิดว่าเป็นโจรเพราะเขาดูไม่เหมือนตำรวจก็คิดว่าจะเข้ามาชิงเงิน เพราะตัวเองเพิ่งได้รับค่าจ้างที่อเมริกามาถือเงินมาเป็นแสน จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น จนสุดท้ายเขาผิดเขาก็ขอโทษ แต่การต่อสู้ครั้งนี้มันรุนแรงมากผู้ใหญ่จึงทักท้วงว่าควรฟ้องร้อง แต่พอฟ้องร้องกันแล้วสิ่งที่ตามมาคือการเสียเวลามากมายเพราะต้องบินไปบินมาไปขึ้นศาล ไม่สามารถรับงานคอนเสิร์ตได้เต็มที่ แถมยังต้องเสียเงินมากมาย เรียกว่าหลอกหลอนชีวิตแบบสุดๆ จนที่สุดก็จบออมชอมกันไป เสียทุกอย่าง
ความในใจ ใหม่ เจริญปุระ ถึงบท อีย้อย กรงกรรม

จากนั้น ใหม่ เจริญปุระ ก็ได้ห่างหายจากงานละครไปนานหลายปี ก่อนจะมาถ่ายทอดบทบาทตัวละคร อีย้อย ในละครกรงกรรม ทางช่อง 3 ที่เรียกว่าฝีมือขั้นเทพ ทำเอาคนดูเคลิ้มกับบทบาทของตัวละครดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง พี่แดง ธัญญา วชิรบรรจง ช่อง 3 พี่สาว คุณแม่ และทุกๆ คน เพราะว่าเกือบไม่เล่นแล้ว ที่ผ่านมาเราเคยแสดงเป็นนางเอก อยู่ๆ จะให้แสดงเป็นคุณแม่ลูก 4 แต่พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ บอกว่าเอ็งจะไม่ลืมชื่อย้อย และจะรู้สึกรักย้อยเลย และให้รู้ไว้ว่าคนทีจะถูกเรียกนำหน้าว่าอีแล้วมีคนรักในประเทศไทยมีไม่กี่คนนะ และเอ็งจะคือหนึ่งในนั้นอีย้อย
เมื่อพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ชงมาหนักขนาดนี้ ประกอบกับคำสบประมาทว่าเราเป็นร็อคเกอร์ เป็น Queen of Pop rock จะหลุดภาพนี้ได้เหรอ จะมาเป็นแม่ลูก 4 ได้เหรอ แต่มันคือตัวเอก ตัวเดินเรื่อง บทแบบนี้ก็หาได้ยากครบรสชาติ เราจึงทำการบ้านเพราะห่างหายจากละครไปเกือบ 20 ปี ต้องไม่ทำให้น้องๆ นักแสดงคนอื่นๆเสียหาย ต้องไม่ทำให้กองถ่ายสิ้นเปลือง เราต้องจำมันให้ได้และนำเสนอมันออกไปในรูปแบบที่เราจินตนาการมา หลังจากละครออนแอร์ไปก็รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าวงการใหม่อีกครั้งเพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนมีกลุ่มแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแฟนคลับเด็กๆ มันคือความสำเร็จอีกรูปแบบเกินกว่าที่เราจะคาดหวังไว้ บางทีไปเล่นคอนเสิร์ตเล่นเพลงควักหัวใจก็มีคนตะโกนเรียก “ม๊า” เราก็อ๋อม๊าคืออีย้อย และจากการแสดงละครเรื่องนี้ก็ส่งผลให้เราได้รับรางวัลหลายรางวัล ก็รู้สึกขอบคุณสื่อทุกแขนงที่เล็งเห็น และมันก็ยังเป็นน้ำหล่อเลี้ยงเหมือนความรู้สึกที่ตอบโจทย์ในการทำงานอย่างหนักหน่วง
ความรักที่เหมือนเพื่อนตายของ “ใหม่ เจริญปุระ”
เมื่อถามถึงเรื่องราวความรัก ใหม่ บอกว่าตอนนี้เธออยู่ในจุดที่มีความสุข เป็นเพื่อนกันทั้งวันที่ดีและร้าย เพรารู้จักกันมานานกว่า 30 ปี และมาดูกันได้ 17 ปี เห็นกันมาในทุกรูปแบบคบกันเหมือนเพื่อนตาย ถือเป็นของขวัญอีกหนึ่งชิ้นจากพระเจ้าที่ประทานลงมาให้ มีอีกหนึ่งคนที่คอยมาดูแลเรา ดูแลแม่เราด้วย
แต่ถ้าจะพาย้อนไปสมัยก่อนเรื่องความรักของนักแสดงศิลปินต้องหลบซ่อน สิ่งสำคัญต้องผ่านเสือที่บ้านคือคุณแม่ที่ดุมาก แต่ใหม่เองก็เข้าใจคุณแม่ เพราะมีลูกสาว 4 แต่เฮี้ยวกันหมด พอใหม่มาอยู่ในวงการก็ยิ่งมีความกดดัน เพราะแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณพ่อก็อาจจะสบประมาทตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเธอเอาลูกมาทำอย่างนี้ คุณแม่จึงเป็นตองอูที่จะล้มไม่ได้ ตรงนี้มันก็อาจจะเป็นปมในใจคุณแม่ ส่วนใหม่ก็จะต้องแบกรับความรู้สึกตรงนี้ของแม่ ไม่ทำให้แม่รู้สึกเฟลหรือถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือพ่อจะมาส้มน้ำหน้าภายหลังว่าเห็นไหมมันมันเกิดอะไรขึ้น
และความสำเร็จของผู้หญิงไม่ได้หมายถึงการแต่งงาน แต่แน่นอนใหม่ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งก็เคยฝันถึงภาพนั้น แต่ภาพฝันกับภาพจริงมันไม่คนละภาพกัน การที่เราจะประสบความสำเร็จและทำให้พ่อแม่ภูมิใจมันไม่ใช่การจัดงานแต่งใหญ่โตมีคนมาเป็นหมื่นๆ คน เราสามารถสร้างความภูมิใจให้พ่อแม่ได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งใหม่รู้สึกว่าเธอทำได้แล้ว ยืนด้วยลำแข้งตัวเรา ทำมันให้ดีให้ได้

“ก่อนคุณพ่อจะเสียชีวิตได้ปีสองปี คุณพ่อได้บอกกับลูกพี่ลูกน้องว่าภูมิใจในตัวใหม่ ใหม่มันเก่งนะ เขาไม่ได้บอกเราโดยตรง จนวันหนึ่งเขามาหาใหม่แล้วใหม่ซึ่งทำบุญเลี้ยงพระที่บ้านพอส่งพ่อขึ้นรถเสร็จรถก็ขับออกไป แล้วอยู่ดีๆ รถก็ถอยกลับมาเราก็ตกใจว่าพ่อลืมของเหรอ เขาลงมาแล้วเขาร้องไห้บอกว่าขอบคุณนะใหม่ที่เกิดมาเป็นลูกผม ใหม่ลงไปกองที่พื้นคือเรานึกว่าพ่อลืมของไง ถ้าพูดขนาดนี้คือยิ่งกว่ารางวัลโนเบล แล้วเขาก็พูดไปร้องไห้ไป ตอนนั้นใหม่อายุ 30 กว่าๆ เขาก็บอกว่าเมื่อ 30 กว่าปีเอาเด็กคนนึงอาบน้ำในกะละมังนึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้เลยขอบคุณใหม่จริงๆ ที่เกิดมาเป็นลูกผม ใหม่ก็บอกพ่อว่ามาอยู่กับใหม่สักทีสิพ่อให้ใหม่ไปรับไหมแบ่งเวลามาอยู่ด้วยกัน เขาก็บอกเอาไว้ชาติหน้านะลูกนะ”
วันนี้ใหม่ บอกว่าตัวเองจับต้นชนปลายทุกอย่างถูกแล้ว และรู้สึกว่านี่ก็เป็นอีกความสำเร็จหรือความสุขอีกรูปแบบหนึ่งที่เราทำให้พ่อแม่เราภูมิใจ ส่วนคุณแม่ใหม่ ก็ไม่ค่อยพูดเมหือนกัน จนบางทีเพื่อนไปถามคุณแม่ ว่ารู้กสึกภูมิใจใหม่หรือเปล่า คุณแม่ก็จะเขินอาย แต่เราเห็นในแววตาว่าเขามีความสุข เพราะเราไม่ทำตัวเสื่อมเสีย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง สำเร็จได้มาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปก็รู้กสึเหมือนกันนะว่าเรามาไกลมาก แต่พอมองไปข้างหน้าเราก็ไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เราจะทำทุกวันให้ดี ขอบคุณในทุกโอกาส เราไม่ได้มีชื่อเสียงตลอดเวลา หรือโด่งดังตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่เรารักษาความดี พาคนที่รักเราไปทำเรื่องดีๆ ให้กับสังคม ซึ่งตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ใหม่ทำมาตลอดและก็ยังคงทำต่อไป ส่วนชื่อเสียงมันจะวูบวาบ 5 ดาว 3 ดาว แล้วไม่ว่าจะเหลือกี่ดาว แต่เป็นดาวในใจเขาก็เพียงพอแล้ว
นอกจากนี้ยังขอฝากผลงาน Photobook จากการไปทัวร์คอนเสิร์ตหลายประเทศแทบจะทั่วโลก บันทึกมาจากโทรศัพท์บ้างจากกล้องดีๆ เป็นเรื่องเป็นราวบ้างเอามาประมวลรวมกันเอามาเป็น Rockstar Journey บรรจุภาพพวกนี้ลงไป และตั้งใจว่ารายได้หลังหักให้กับสำนักพิมพ์แล้วจะนำเงินไปมอบให้กับบ้านศุกร์สุดท้ายของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และจะแบ่งช่วยเลหือ เด็กพิการ เด็กตาบอด เด็กที่ป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิด โรงพยาบาลศรีธัญญา วัดพระบาทน้ำพุ 6 ที่ด้วยกัน
ส่วนคอนเสิร์ตจะมีขึ้นในปี 2569 หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และงานละครกับพี่อ๊อฟ พงพัฒน์ ก็ฝากถึงแฟนคลับว่าให้มาเจอกันไม่นานเกินรอแน่นอน ขอบคุณค่ะ