การประกวด Miss Universe 2024 ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย วิกตอเรีย เธลวิก (Victoria Theilvig) จากเดนมาร์ก สามารถคว้ามงกุฎไปครองได้สำเร็จ ส่วนตัวแทนประเทศไทยอย่าง โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ได้รองอันดับ 3 ไปครอง
เวทีการประกวด Miss Universe เป็นอีกหนึ่งเวทีที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่หลากหลาย และการสร้างค่านิยมความงาม (Beauty standard) ว่าผู้หญิงต้องสวยเป๊ะ หุ่นดี ไม่มีรอยสักหรือตำหนิตามร่างกาย
เมื่อค่านิยมสังคมเริ่มเปลี่ยนไป องค์กร Miss Universe ก็พยายามที่เปลี่ยนตาม ทั้งการที่เปิดโอกาสให้ Trans woman สามารถเข้าร่วมการประกวดได้ตั้งแต่ปี 2012 หรือการผลักดันกระแส Real Size Beauty ทำให้เห็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหลากหลายมากขึ้นในการประกวด
กระทั่งในปี 2022 หลังเปลี่ยนมือหัวเรือใหญ่เจ้าของเวที เป็น แอน จักรพงษ์ ได้มีการเปลี่ยนกฎการประกวด Miss Universe ให้ผู้หญิงที่แต่งงานและมีลูกแล้ว สามารถเข้าร่วมการประกวดได้ ทั้งหมดนี้ คือ ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง ให้เวที Miss Universe เป็นเวทีสำหรับทุกคน
แน่นอนว่าทุกครั้งที่มีการประกวด ย่อมเกิดความขัดแย้ง จากความคิดเห็นที่แตกต่าง เนื่องจากหลายคนมีความชอบและมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
แต่ดูเหมือนว่าในปีนี้ จะรุนแรงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา หลังประกาศว่ามีตำแหน่งใหม่ อย่าง ควีนทวีป (Miss Universe Continental Queens)
โดยจะคัดเลือกจากผู้เข้าประกวด 130 คน และคัดผู้เข้ารอบ 30 คนแรก โดย 4 คนในนั้นจะเป็นตัวแทนจากแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ละตินอเมริกาและแคริบเบียน, ยุโรป, แอฟริกา, และเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อช่วยรับประกันว่าแต่ละภูมิภาคจะมีตัวแทนในรอบรองชนะเลิศ
แตกต่างจากระบบเดิมที่มักอิงคะแนนจากรอบพรีลิมมินารีรอบเดียว โดยผู้ที่ให้คะแนนแก่ตัวแทนทั้ง 4 ทวีปคือ องค์กรมิสยูนิเวิร์สเอง และเก็บคะแนนตั้งแต่การเก็บตัวเข้าร่วมประกวด ไปจนถึงก่อนการประกวดบนเวทีจะเริ่มขึ้น
โดยผู้ได้รับตำแหน่ง ควีนทวีป (Miss Universe Continental Queens) ในปีนี้ได้แก่
- เชลซี มานาโล จาก ฟิลิปปินส์ รับตำแหน่ง Miss Universe Asia
- มาทิลดา วีร์ตาวูโอรี จาก ฟินแลนด์ รับตำแหน่ง Miss Universe Europe and Middle East
- ทาเทียนา คาลเมล จาก เปรู รับตำแหน่ง Miss Universe Americas
- ชิดิมมา อเดตชินา จาก ไนจีเรีย รับตำแหน่ง Miss Universe Africa and Oceania
เพิ่มความหลากหลาย หรือ สร้างความอยุติธรรม
ตำแหน่ง ควีนทวีป (Miss Universe Continental Queens) ได้รับการประกาศชื่อ มอบสายสะพาย ร่วมถ่ายรูปกับคณะผู้บริหารองค์กรมิสยูนิเวิร์ส และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่ รองชนะเลิศอันดับ 1-4 มีช่วงเวลาโชว์ตัวกับสื่อเพียงตอนที่ยืนอยู่บนเวที ไม่มีสัมภาษณ์หรือสวมสายสะพาย และถูกส่งตัวกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนทันที
การปฏิบัติหน้าที่เกือบจะเทียบเท่ากับ Miss Universe ทั้งทำหน้าที่เป็นทูตประจำทวีปต่าง ๆ และได้ร่วมเดินทางไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก
สิ่งเหล่านี้ทำให้แฟนๆทั่วโลกตั้งคำถามว่า นี่คือการตัดสินที่ไม่ยุติธรรม สำหรับผู้เข้ารอบ Top 5 ที่ต้องผ่านการเก็บตัว เดินแบบ โพสต์ท่า ตอบคำถาม แต่สิ่งที่ได้กลับไม่เทียบเท่า 4 ควีนทวีปที่เข้ารอบเพียง Top 30
ขณะเดียวกันก็มีข้อโต้แย้งว่า การคัดเลือก ควีนทวีปนั้น ใช้คณะกรรมการคนละชุด และมีขั้นตอนการเก็บคะแนนที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์อื่นๆ อย่าง การเดินอำลาตำแหน่งของ เชย์นิส ปาลาซิออส Miss Universe 2023 จากประเทศนิการากัว ที่เกิดความผิดพลาด ทำให้ไฟมืด จนมองไม่เห็นหน้าของเธอ
ไม่มีการประกาศรางวัลพิเศษ เช่น ชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ชุดราตรียอดเยี่ยม หรือชุดประจำชาติยอดเยี่ยม และยังไม่มีการประกาศประเทศเจ้าภาพสำหรับการประกวดในปีหน้า