หลังผ่านพ้นการสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อ 7 ปีก่อนกับการจากไปของ “Chester Bennington” นักร้องนำ “Linkin Park” วงร็อคชื่อดังระดับตำนานในยุค 2000 ท่ามกลางความเสียใจของแฟนเพลงทั่วโลกที่ร่วมไว้อาลัยผ่านบทเพลง “One More Light”
ตลอดระยะเวลาเกือบทศวรรษแห่งความเศร้าโศก วันนี้ยุคใหม่ของ Linkin Park เริ่มต้นอีกครั้งกับการคัมแบ็กอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดตัวนักร้องนำคนใหม่ “Emily Armstrong” นักร้องหญิงเสียงทรงพลังจากวง Dead Sara ที่พร้อมจะมาสานต่อตำนาน พร้อมกับสมาชิกดั้งเดิม “Mike Shinoda” , “Brad Delson” , “Phoenix” และ “Joe Hahn” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยเพลงใหม่ “The Emptiness Machine” ที่เป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งเหมือนกับชื่ออัลบั้มใหม่ในรอบ 7 ปีที่ชื่อว่า “From Zero”
Emily ให้สัมภาษณ์กับ Billboard นิตยสารเพลงชื่อดังของสหรัฐฯ ถึงความรู้สึกที่มีต่อ “Hybrid Theory” อัลบั้มชุดแรกของ Linkin Park ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2000 ว่า “ฉันร่วมงานกับวงเก่าอยู่ตอนที่มัน(อัลบั้ม)ปล่อยออกมา เพลง One Step Closer มันเป็นอะไรที่โดนใจฉันมาก ในฐานะนักร้องฉันอยากที่จะร้องได้อย่างเขา (Chester) อัลบั้มชุดนั้นโคตรเจ๋ง ฉันฟังมันเป็นล้านครั้งได้เลย”
ไม่ใช่แค่นักร้องนำเท่านั้นการกลับมาครั้งนี้ยังได้ “Colin Brittain” นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มากประสบการณ์ที่เคยฝากผลงานไว้มากมาย อาทิ G Filp , 5 Seconds of Summer และ One OK Rock ที่มาร่วมงานในฐานะมือกลองคนใหม่ของวงด้วย
แน่นอนว่าการกลับมารอบนี้ไม่มีคำว่าธรรมดา เพราะทางวง Linkin Park เตรียมเดินสายระเบิดความมันส์ให้แฟนๆ หายคิดถึงผ่านเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ต เริ่มขายบัตรรอบพรีเซลล์ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน และจะเปิดขายบัตรรอบถัดไปวันที่ 7 กันยายน
ตารางการแสดง Linkin Park From Zero World Tour
- ลอสแอนเจลิส 11 กันยายน
- นิวยอร์ก 16 กันยายน
- ฮัมบูร์ก 22 กันยายน
- ลอนดอน 24 กันยายน
- โซล 28 กันยายน
- โบโกตา 11 พฤศจิกายน
นับตั้งแต่เปิดตัวอัลบั้มแรก Hybrid Theory เมื่อปี 2000 Linkin Park มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องประกอบด้วย Meteora (2003) , Minutes to Midnight (2007) , A Thousand Suns (2010) , Living Things (2012) , The Hunting Party (2014) และ One More Light (2017) มีเพลงฮิตติดหูแฟนเพลงชาวไทยและทั่วโลกมากมาย อาทิ Numb , Somewhere I Belong และ Papercut รวมถึงผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ชุด Transformers ในบทเพลง “What I’ve Done” , “New Divide” และ “Iridescent”
ที่มา : BBC
