“คือมันมีช่วงที่ยากตลอดครับ แต่ละวันเราต้องเจอปัญหา
แต่ว่าอยู่ที่ว่าพอเราโตขึ้นมา เราจะจัดการปัญหานั้นยังไง
เราไม่โฟกัสที่ปัญหา แต่เราโฟกัสวิธีการแก้ปัญหามากกว่า”
ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงหนุ่มที่เติบโตมาอย่างดีในทุกด้าน สำหรับ “กองทัพ พีค” FEED มีโอกาสได้กลับมาอัปเดตชีวิตกับนักแสดงหนุ่มอีกครั้งในรอบ 3 ปี และคุยถึงผลงานมาสเตอร์พีซอย่างละคร “ดวงใจเทวพรหม” ตอน “ดุจอัปสร” การพิสูจน์ฝีมือในเรื่องการแสดงกับบทบาท พันตรีหม่อมหลวงอศิร จุฑาเทพ จนกลายเป็นที่พูดถึงและสร้างเรตติ้งให้กับช่อง
พีค: สวัสดีครับ Hello Everyone สวัสดีครับ กองทัพ พีค นะครับผม จากละครเรื่องดุจอัปสรครับ
ช่วงนี้เป็นไงบ้างงานเยอะไหม ?
พีค: ช่วงนี้ก็พอสมควรครับ หนักมากพอสมควรเหมือนกัน แล้วก็ไม่ใช่แค่ตัวพีคเองหรอก ก็พี่ๆ น้องๆ ในเรื่องดุจอัปสรด้วยเหมือนกันครับ เวลาพักส่วนตัว ถามว่ามีไหมมันไม่ค่อยมีขนาดนั้นครับ แต่ก็หาเวลาช่วงที่มันเอ็นจอยได้ อย่างเช่น ช่วงกินข้าวอะไรอย่างนี้ครับ หรือว่าช่วงที่กำลังจะกลับบ้านก็อ่านนู่นนี่นั่นดูวิว ฟังเพลง อันนั้นก็ถือเป็นช่วงพักผ่อนแล้ว
การจัดการเวลายากไหม ?
พีค: ถามว่ายากไหมชินแล้วล่ะครับ คือพีคอยู่ใช้ชีวิตอย่างนี้มาตั้งแต่พีคถ่ายละคร ก็เอาจริงๆ ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ แล้วก็กลับมาจากเกาหลีก็ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้หยุดเลย มันก็เหมือนถามว่ายากไหมก็เคยอธิบายตารางของตัวเอง ชีวิตตัวเองไปแล้วให้กับเพื่อนๆ ฟัง ทุกคนก็บอกใช้ชีวิตได้ไงแบบนั้น แทบไม่มีชีวิตของตัวเองเลย พีคบอกว่าหรอ แต่แบบเราก็คงชินแล้ว
เคยคิดไหมว่าทำไมเพื่อนถึงถามแบบนั้น ?
พีค: ก็เคยถามครับ คุยกับเพื่อนที่อังกฤษ เพื่อนเขาก็เคยบินมาที่เมืองไทย แล้วพีคก็เลยยูไหนๆ ก็มาแล้ว มาถ่ายละครกับไอเลย แล้วเขาก็บอกว่านี่คือชีวิตยูในแต่ละวันหรอ ที่ตื่นเช้ามาตี 5 ไปนู่นนี่นั่นแล้วกว่าจะเสร็จ 4 ทุ่ม เขาก็เซอร์ไพรส์มาก ถามว่าเคยคิดไหม ก็เคยมานั่งคิดครับ คือไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่คิดว่าถ้าเราไม่ได้มาทำงานตรงนี้ schedule ในแต่ละวันของเราจะเป็นยังไงแค่นั้นแหละครับ
สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ตอบโจทย์กับชีวิตจริงๆ ไหม ?
พีค: เคยถามครับเคยถาม แล้วก็ได้คำตอบมาตลอดว่ามันเป็นสิ่งที่พีครัก แล้วก็เป็นสิ่งที่พีคพยายาม แล้วก็เป็นสิ่งที่มันเป็นความฝันของพีค มันถามว่าเหนื่อยไหม ทุกอาชีพมันเหนื่อยหมดแหละ แต่มันก็ตอบโจทย์สำหรับพีคเองเหมือนกันครับ พีครู้ว่าพีคชอบอะไรมาตั้งแต่เด็ก แล้วการใช้ชีวิตในแต่ละวันพีคมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก จนมันไม่ได้รู้สึกว่ามันถูกบังคับที่จะมาทำงาน มาทำงานเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่พีคชอบจริงๆ
ชีวิตวัยรุ่นหายไปไหม ?
พีค: หายครับหาย หายเลย ถ้าง่ายๆ ก็คือเพื่อนบางคน เพื่อนพีคที่อังกฤษจะมีช่วงที่ไปมีเวลาไปเที่ยว ไปกับเพื่อน ไปปาร์ตี้อะไรอย่างนี้ ซึ่งตัดภาพมาที่พีคคือทำงานอย่างเดียวเลย ก็ไม่ได้มีชีวิตวัยรุ่นขนาดนั้น แต่ถามว่ารู้สึกขาดไหม พีคเป็นโทรเวิร์ตครับ พีคไม่ได้ต้องการที่จะไปไหนอะไรขนาดนั้นคือถ้าอยู่กับครอบครัว ได้อยู่กับครอบครัว ได้อยู่ในพื้นที่หรือว่าได้ทำงานที่เรารักพีคว่าพีคแฮปปี้ละ
ไลฟ์สไตล์ของพีคอินโทรเวิร์ตขนาดไหน ?
พีค: คือคนที่ทำงานรอบๆ พีค จะรู้ว่าถ้ามันเป็นมุมที่พีคอยู่อินโทรเวิร์ตคนเดียวจริงๆ พีคจะล็อกตัวอยู่ในห้องคนเดียวเลย เพราะว่าอย่างเช่นที่ทำเพลงไม่มีใครสามารถยุ่งกับพีคได้เวลาที่พีคทำเพลง คือไม่มีใครอยู่ในสตูดิโอได้เลย ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวนิดนึงครับ ก็ต้องบางทีก่อนจะทำงานก็ต้องไปเข้าห้องน้ำก่อน ไปนั่งตั้งสติก่อนอะไรอย่างนี้ครับ แล้วก็ต้องไปนั่งจูนคลื่นความถี่ต่างๆ ในการทำงาน อย่างเช่นมาเจอทุกคนวันนี้ พีคก็ต้องนั่งทำใจก่อนว่าโอเควันนี้เราเจอคนเยอะนะอะไรอย่างนี้ครับผม มันเหมือนต้องมานั่งจูนตัวเองก่อน จูนพลังตัวเองก่อน ปรับตัวก่อนอะไรแบบนั้นครับ
ความสุขในวัย 23 ปี คืออะไร ?
พีค: ความสุข ณ ตอนนี้ใช่ไหมครับ การได้สร้างสรรค์ผลงานให้ผู้คนได้ดูครับ คือฟีดแบ็กที่ได้กลับมาจากดุจอัปสร ณ ตอนนี้ที่เราถ่ายกันอยู่ถ่ายไป 5 ตอน ละครออนไป 5 ตอน สิ่งที่เราได้รับกลับมามันแฮปปี้มาก คือครอบครัวย่างแรกเลย ครอบครัวเป็นความสุขของพีคจริงๆ คุณย่าพีค คุณยายพีค ที่เขาดูละครแล้วเขาบอกดีใจที่ได้เจอหลานทุกอาทิตย์เลย สำหรับพีคพีคแฮปปี้แล้ว มีความสุขแล้ว การได้ทำเพลง ได้อยู่ในห้องทำเพลง แล้วก็การที่ปล่อยเพลงออกมาให้คนได้ดู ได้รับฟัง พีคแฮปปี้แล้วมีความสุขแล้ว การได้เจอแฟนๆ ที่เขารอคอยมานานก็แฮปปี้แล้ว ณ ตอนนี้มีน้องหมาอีกหนึ่งคน ก็แฮปปี้แล้วครับ ก็ถามว่าเป็นอะไรที่เราต้องรับผิดชอบไหม ก็เป็นอย่างหนึ่งที่เราเลี้ยงเขามาเราก็ต้องให้ความรักกับเขาได้มากที่สุดครับผม การที่พีคได้เห็นคนอื่นมีความสุข พีคก็มีความสุขเหมือนกัน
จากหลายๆ อย่างที่ได้ทำมาเจอสิ่งที่ใช่หรือยัง ?
พีค: สำหรับตอนนี้ใช่ไหมครับ คือมันเป็นสิ่งที่ใช่อยู่แล้วครับเพราะว่ามันมีพลังในการทำงาน แล้วทำเพื่อมอบความสุขให้กับคนอื่น ให้กับทุกคนที่ได้ดูผลงานเรา ณ ตอนนี้ในชีวิตของพีคก็รู้สึกดีใจที่ได้มาทำงานตรงนี้ มันก็ตอบโจทย์แหละ แล้วพีคก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วบางคนอาจจะไม่รู้ แต่ว่าพีคเป็นอย่างนี้ของพีคมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ
เคยมีช่วงที่ยากไหม ?
พีค: คือมันมีช่วงที่ยากตลอดครับ ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตแต่ละวันคือพีคอ่านหนังสือมาได้เจอคำนึงมันดีมากเลยว่าในแต่ละวันเราต้องเจอปัญหาเล็กน้อยมากเท่าไหร่เราต้องมีปัญหา แต่ว่าอยู่ที่ว่าพอเราโตขึ้นมาเราจะจัดการปัญหานั้นยังไง เราไม่โฟสกัสที่ปัญหาแต่เราโฟกัสวิธีการแก้ปัญหามากกว่านั่นแหละครับ ก็เลยรู้สึกว่าถึงมันจะมีช่วงที่ยากมาก แต่ว่าถ้าเรามองในอีกมุมนึงก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรที่แบบคนเราไม่สามารถทำได้
การมีครอบครัวพ่อที่เป็นนักแสดง มีส่วนที่หล่อหลอมเราไหม ?
พีค: ถามว่ามีส่วนไหม ก็ขอบคุณครอบครัวพีคด้วย ก็มีส่วนครับมีส่วน พีคโตมากับคุณพ่อที่อยู่ในทีวี พีคไม่เคยอยากจะเป็นนักแสดงเลย เพราะว่าพีคเห็นคุณพ่อเหนื่อย แล้วพีคอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก ความคิดในการเป็นนักแสดงถามว่ามีไหม คือมีแต่ว่ารู้สึกว่าทางของเพลงมันเป็นทางของพีคมากกว่าแล้วพอโตมาก็ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มีโอกาสมาเป็นนักแสดง ได้มาเป็นนักแสดงนำในละครหลายๆ เรื่อง ก็ทำให้เข้าใจคุณพ่อมากขึ้นครับ สมัยก่อนรู้ว่าเขาเหนื่อยขนาดไหน ที่เขาต้องออกจากบ้านไปทำงาน อาทิตย์ละ 6 วันอย่างนี้ครับ ตอนนั้นเขาถ่ายรายการหนักๆ เลย 6 วัน แล้วไปต่างจังหวัด แล้วสมัยก่อนก็ไม่ได้มีโซเชียลมีเดียอะไรขนาดนั้น ก็จะได้แค่โทรศัพท์ ก็เข้าใจว่าเขาคงต้องใช้ความอดทนสูงมาก คือคิดถึงครอบครัวแต่ว่าไม่ได้เห็นหน้าครอบครัว ได้แต่โทร ได้ยินเสียง โตขึ้นมาก็เข้าใจมากขึ้น เพราะก็มีอยู่ช่วงนึงที่พีคก็แทบไม่ได้เจอครอบครัวเหมือนกันในการทำงาน
ช่วงคุณพ่อทำงานหนักมีโมเมนต์คิดถึงมากไหม ?
พีค: คิดถึงครับ คิดถึงคุณพ่อเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตอนนั้น คือพีคจะเล่นกับคุณพ่อแบบเพื่อน พอป๊าไม่อยู่ก็จะเหมือนเพื่อนไม่อยู่ แต่ก็มีคุณแม่คอยซัพพอร์ต ครอบครัวของพีคคอยซัพพอร์ต แล้วพีคก็เป็นน้องเล็ก ตอนนั้นเป็นหลานเล็กที่สุดในตระกูล พี่ ป้า น้า อา ก็วนเวียนมาหาครับ คุณพ่อก็ไม่อยากให้เรารู้สึกขาดความรัก ถามว่าเหงาไหมด้วยความเป็นลูกคนเดียวมันเหงาอยู่แล้วแหละ แต่ก็มันไม่ได้เหงาถึงขั้น คนอาจจะเข้าใจว่าการเป็นลูกคนเดียวมันเหงามาก มันไม่ได้เหงาขนาดนั้น บางทีพีคก็เล่นคนเดียวได้ มีการ์ตูน มาสค์ไรเดอร์สมัยก่อนก็สามารถเอามาเล่นเป็นตัวตุ๊กตุ่นเล่นคนเดียวได้
ครอบครัวคาดหวังอะไรในตัวเราไหม ?
พีค: ไม่เคยถามครับ เพราะว่าเขาไม่เคยคาดหวังอะไรในตัวพีค หมายถึงเขาไม่ได้กดดันในสิ่งที่พีคอยากจะเป็น คือลูกอยากจะทำอะไรตั้งแต่เด็กเขาก็ซัพพอร์ตเต็มที่ อย่างเช่นพีคจะไปเรียนอังกฤษพีคเป็นคนตัดสินใจไปเอง เขาก็เป็นคนบอกว่าเขาจะซัพพอร์ตเต็มที่เหมือนกัน ไม่ได้คาดหวังว่าเขาอยากให้เราเป็นแบบนี้นะ ให้เราเป็นแบบนี้ ให้เราเข้าวงการบันเทิง แต่เอาสิ่งที่ลูกรักเป็นหลักมากกว่า
เคยคิดไหมว่าชีวิตเราโตมาก็เพอร์เฟคเลย ?
พีค: ไม่เพอร์เฟคหรอกครับ พีคว่าคนเราไม่มีคำว่าเพอร์เฟคหรอก แต่อยู่ที่ว่าสิ่งที่พีคเป็น ณ ตอนนี้มันก็ต้องขอบคุณครอบครัวด้วย ครอบครัวเป็นสิ่งที่พีคสบายใจมากๆ แล้วก็มีอะไรก็พูดได้ทุกเรื่อง แล้วทุกคนก็คอยซัพพอร์ตพีคเสมอมันก็ถึงเวลาแล้วที่พีคจะต้องตอบแทนครอบครัวคนที่ดูแลพีคมาตั้งแต่เกิด
โอกาสที่เข้ามาเคยมีตัดสินใจพลาดไหม ?
พีค: คือทุกการตัดสินใจมันมีทั้งพลาดและไม่พลาด แต่อยู่ที่ว่าไม่เคยคิดเสียใจเลยกับสิ่งที่ตัดสินใจในทุกๆ การตัดสินใจในชีวิต เพราะว่าถ้าไม่ได้ตัดสินใจตอนนั้นมันก็จะไม่ใช่พีคในตอนนี้ เพราะฉะนั้นทุกการตัดสินใจมันเป็นผลทำให้พีคเป็นวันนี้ เป็นพีคในวันนี้หมดเลย ถามว่าบั่นทอนไปแล้วมันจะได้อะไร ก็ต้องลุกขึ้นมาอยู่ดี เวลามันไม่ได้รอใครครับ ก็ต้องเดินไปเรื่อยๆ ให้เวลาตัวเองได้ เสียใจได้ ท้อได้ แต่ว่าอย่างเดียวคืออย่าถอย เอาภาพง่ายๆ เลย ถ้าคนล้มลงไปอาจจะหน้าทิ่มลงไปก็ได้ นอนอยู่ตรงพื้นอาจจะมีความรู้สึกที่มันเหนื่อยมากเลย ไม่อยากลุกแล้ว จะทำยังไง สิ่งที่คุณทำได้คือใจตัวเองแค่นั้นเลย ถ้าใจมันได้ Put ตัวเองขึ้นมาแค่นั้นแหละ มีมุมที่แข็งแกร่ง แล้วก็มีมุมที่ไม่แข็งแกร่งบ้างครับ พีคไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแต่ก็อยากบอกคนดูทุกคนเหมือนกันว่าคือทุกคนไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่ง คือในชีวิตนี้มันอ่อนแอบ้างก็ได้ไม่เป็นไร แต่แข็งแกร่งบ้างก็ดี อ่อนแอบ้างก็ไม่เป็นไร ก็ให้อภัยตัวเองเยอะๆ แค่นั้นแหละครับผม
ปัญหาที่เจอเราสามารถหาทางออกได้เสมอ ?
พีค: มีคนที่ซัพพอร์ตพีคเยอะด้วยแหละครับ หมายถึงรอบๆ ตัวพีคมีทีมงานอะไรอย่างนี้ บางสิ่งบางอย่างพีคอาจจะแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ ทุกคนก็คอยช่วยกันในสิ่งที่พีคไม่ต้องเอาพลังงานไปแก้ไขตรงนั้น แต่ว่ามุ่งหน้าไปแก้ไขในสิ่งที่มีปัญหาข้างหน้ามากกว่า ปล่อยวางครับบางที ก็พีครู้สึกว่าในสิ่งที่มันไม่สามารถควบคุมได้ครับ เขาอาจจะปล่อยให้เราปล่อยวางก็ได้ อันนี้คือที่พีคได้เรียนรู้ในขณะที่โตมาบางสิ่งบางอย่างพีคอาจจะย้อนกลับไปแล้วแบบทำไมได้แบบนี้ ทำไมไม่ได้แบบนี้ แต่ถามว่าคิดแบบนั้นแล้วมันได้อะไรไม่ได้อะไรเลย ก็ปล่อยวาง แล้วทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเช่นผลงานต่อไปเพลงที่พีคจะทำ โฟกัสตรงนี้เลย แทนที่จะไปโฟกัสในอดีตครับผม
เหมือนชีวิตเราไม่เคยมองลบเลย ?
พีค: ก็มองบวกให้มากที่สุดล่ะครับ มองบวกให้มากที่สุด ถามว่ามันมีลบไหมมันพลังลบรอบตัวมันเยอะอยู่แล้ว มันอาจจะมีเข้ามา ไม่ใช่หมายถึงรอบตัวแถวๆ นี้นะ คือมันจะมีพลังลบเข้ามาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราทำได้คือแก้ที่ตัวเราเอง เราก็ต้องบวกกลับไปเลยอะไรอย่างนี้ครับ
เคยเสียน้ำตากับบางเหตุการณ์ไหม ?
พีค: ทุกคนอาจจะไม่รู้หรอกแต่ว่าทุกการเดินทางมันมีน้ำตาให้เสียอยู่แล้วแหละ แต่อยู่ที่ว่าพอโตขึ้นมาแล้วน้ำตาเหล่านั้นมันจะเป็นแรงได้มากขนาดไหน มันไม่ใช่น้ำตาที่ออกมาแล้วมันเป็นลบอย่างเดียว มันอาจจะเป็นน้ำตาความดีใจก็ได้ใครจะไปรู้ใช่ไหมครับ แล้วก็สร้างพลังบวกให้ตัวเองได้มากที่สุดแค่นั้นแหละครับผม
เชื่อเรื่องจังหวะชีวิตไหม ?
พีค: เชื่อครับ เชื่อมาก พีครู้สึกว่าในแต่ละคนมีจังหวะชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าใครตอนที่เขาประสบความสำเร็จ ณ ตอนนี้ ณ ปัจจุบันตอนนี้ เราไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาเขาเจออะไรมาบ้าง ก็ใครที่ประสบความสำเร็จก็ยินดีกับเขา ปรบมือให้กับเขา ในขณะเดียวกัน ณ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จแต่ในวันนึงจังหวะชีวิตที่มันถูกแล้ว เราก็ประสบความสำเร็จอาจจะไม่ได้มากถึงที่สุดแต่ว่าประสบความสำเร็จในที่ว่าเราพอใจ ณ ตอนนี้ ก็คืออันนั้นถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับพีคแล้ว
ทุกวันนี้ยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความหรือยัง ?
พีค: สำหรับตอนนี้พีคคิดว่าพีคเลยฝันมาเยอะมากแล้วครับ ตอนเด็กพีคฝันแค่อยากเป็นนักร้อง ไม่ได้ฝันอยากจะเป็นนักแสดง ไม่ได้ฝันอยากจะเป็นไอดอลที่คนสามารถ คนที่ฟังผลงานเพลงพีคมากอะไรอย่างนี้ครับ ณ ตอนนี้มันเลยฝันพีคมามากพอแล้ว ถามว่าประสบความสำเร็จไหม พีคพูดเสมอว่าคำว่าประสบความสำเร็จในแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เราไม่มีสเกลในการวัดความประสบความสำเร็จของแต่ละคน เพราะฉะนั้น ณ ตอนนี้ พีคประสบความสำเร็จสำหรับตัวพีคเองแล้ว พีคพอใจแล้ว อยู่ที่ว่าในอนาคตจังหวะแล้วก็ดวงด้วยแหละ แล้วก็คนจะเอ็นดูพีคมากขนาดไหน มันจะนำพาพีคไปสูงขนาดไหนแค่นั้นแหละครับ
ทุกวันนี้อยู่ในจุดที่โอกาสเข้ามาเรามีสิทธิ์เลือกหรือยัง ?
พีค: คือจริงๆ มันมีสิทธิ์เลือกทุกคนแหละครับตั้งแต่เด็กแล้ว อยู่ที่ว่าภาระหน้าที่ของแต่ละคนเป็นยังไง บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะว่าชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกันพื้นฐานในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่คราวนี้สำหรับตัวพีคเองมีสิทธิ์เลือกไหม คือก็มีสิทธิ์เลือกเองตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่เพราะว่าอะไรนะ เพราะว่าพื้นฐาน หรือว่าฐานะ หรือว่าอะไร แต่เป็นที่ว่าพีคมาแบบนี้ที่ว่าพีคเลือกแบบนี้ แล้วพีคต้องรับผิดชอบสิ่งที่พีคเลือกด้วยตัวเองอันนี้คือพีคเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก
เหมือนใช้ชีวิตที่ไม่มีกรอบเลย ?
พีค: ก็ไม่มีกรอบครับ ก็อาจจะมีกรอบบ้างแต่ว่าพีคก็ คือถ้าอยู่ในกรอบ พีคก็อยากไปเจอในสิ่งที่มันไม่อยู่ในกรอบบ้าง อย่างน้อยมันจะได้จั๊มไปได้สองอย่าง เราจะได้เลือกว่าในชีวิตไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีนะครับ แต่ว่าออกนอกกรอบในทางที่ดีนะ ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วก็ไม่ได้เบียดเบียนใคร ในขณะเดียวกันจะสามารถเลือกได้ว่ากรอบนี้ถูกแล้ว กับที่อยู่นอดกรอบมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ก็ขยายกรอบของเราแค่นั้น
ความคาดหวังจากผลกำไรที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ?
พีค: เพลงครับเพราะว่า 3 ปี ที่ผ่านมา พีคถ่ายละครไป 4 เรื่อง 7 วัน เกือบตลอดเลย ทีมงานก็เหนื่อยกันมากที่อยู่ข้างๆ พีค ก็ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสได้ทำในอีกรูปแบบนึง คือเพลงที่ทีมงานทุกคนอาจจะเหนื่อยน้อยลงกว่าเดิมไหม อาจจะเหนื่อยน้อยลงกว่าเดิมที่ไม่ต้องออกไป สมมุติบางทีละครถ่ายทะเล ถ่ายป่า ก็ได้มาอยู่ที่ที่คนสบายละ สบายมากขึ้น อยู่ในสตูดิโอสามารถควบคุมบรรยากาศได้ ก็สำหรับพีคก็อยากจะตอนนี้มุ่งหน้าทำเพลงอย่างเดียวเลย คือพีคจะปล่อยตั้งแต่ปีแรกแล้วครับ แต่ว่ามันมีด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง โควิดด้วยตอนนั้น พีคทำเสร็จ 2019 พอปี 2019 ทำเสร็จแล้วกำลังจะปล่อยดันมีโควิดเข้ามา ไม่สามารถปล่อยได้ พอปี 2020 กำลังจะปล่อยมีปัญหาทำให้ปล่อยไม่ได้ พีคต้องบินไปที่จีนไปเตรียมตัวเทรน พอกลับมากำลังจะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเรียบร้อยแล้วมีปัญหา อีกปีนึงกำลังจะปล่อยคิดว่าจะปล่อยแล้วมีปัญหา พอมาอีกปีนึงปีสุดท้ายกำลังจะปล่อยติดละครอีก 2 เรื่อง ไม่มีเวลาโปรโมทเพลงครับ ก็เลยถ้าไม่ปล่อยปีนี้ก็ไม่รู้จะปล่อยตอนไหนแล้ว ถ้าไม่ปล่อยตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ปล่อย
ธีมเพลงยังเข้ากับปัจจุบันไหม ?
พีค: เข้าครับ เป็นเพลงที่เต้นเป็ฯ KPOP เลยครับ แต่ถามว่าเต้นโหดไหม หลังจากเพลงออกไปขอให้ทุกคนมาแกะท่ากันเยอะๆ นะครับ แล้วก็มาบอกพีคละกัน เพราะขนาดต้นฉบับพีคเต้นเองคัทปุ้ปพีคทรุดลงไปข้างล่างเลย เพราะมันเหนื่อยมาก
กระแส TPOP กำลังมา เป็นจังหวะของเราด้วยไหม ?
พีค: สาธุ ก็ขอให้ทุกคนเอ็นดูพีคเยอะๆ ละกันครับ ก็อยากให้ทุกคนได้ฟังเพลงกัน คือเพลงนี้ออกมาก็อยากให้ทุกคน พีคอยากจะปล่อยเพลงนี้ออกมาจะได้ในอนาคตจะได้ย้อนกลับมาว่าพีคได้ทำเต็มที่แล้วสำหรับเพลงนี้ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พีคยังมีอีกหลายเพลง ไม่รู้อีกกี่หลายเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อย แต่ก็อยากปล่อยในสิ่งที่มันเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ให้ทุกคนได้ดูกันก่อน ก็อยากให้ทุกคนได้มีความสุขกับผลงานพีคแล้วครับผม
สไตล์ยังคงแร็ปไหม ?
พีค: ของพีคคือมันเป็น KPOP ก็มีทั้งโวคอลด้วย แล้วก็ทั้งแร็ปด้วยเหมือนกันครับ ก็พีคเพิ่งปล่อยแร็ปอินโทรไป อันนั้นจริงๆ เป็นเพลงที่พีคเขียนไว้ แล้วก็แต่งไว้ แล้วก็ทำเองทั้งหมดเลย เพื่อที่จะไปรายการที่จีน แต่ว่าไม่มีโอกาสได้โชว์เพลงนี้ พีคก็เลยเอาเพลงนี้ชื่อเพลงว่า Intro ครับ เป็น Intro PEAK แนะนำตัวอะไรอย่างนี้ครับ พีคก็เลยเอามารวมในซีเควน VIP เหมือนกันอยากจะให้อันนี้แนะนำตัวก่อน แล้วก็พอ Intro เสร็จแล้ว มันก็จะไปต่อในเพลง VIP ต่อ เป็นคอนเซ็ปต์เดียวกัน
จะมีโอกาสได้ฟังฝั่ง TPOP บ้างไหม ?
พีค: TPOP ใช่ไหมครับ มีโอกาสแน่นอน มีโอกาสได้ฟังแน่นอนคือตอนนี้คนก็ฟังพีคจากเพลงประกอบละครเยอะ เพลงเรื่องดุจอัปสรชื่อเพลงว่าฟ้า แล้วก็อยากให้ทุกคนได้เห็นอีกมุมนึงของพีคเหมือนกันคือพาร์ทของไอดอล ก็จะเป็นพาร์ทนี้แหละ ถามว่า TPOP มีโอกาสไหมในอนาคตรอดูแล้วกันครับผม ณ ปัจจุบัน พีคคิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เราสามารถทำอะไรได้หมด ทำคู่ไป เราอยู่ที่แบ่งเวลาเลยแค่นั้นแหละ แต่ถามว่ามันจะประสบความสำเร็จฝั่งไหน อันนี้คือตอบไม่ได้จริงๆ ก็อยู่ที่แบบว่าคนดูทุกคนจะเอ็ดดู หรือคนฟังจะเอ็นดูหรือเปล่าแค่นั้นเลย
3 ปีก่อน เคยให้สัมภาษณ์กับ FEED ไว้เกี่ยวกับเรื่องความรักอัปเดตหน่อย ?
พีค: ก็ตอนนี้ก็ทำงานก่อนครับ เหมือนเดิมก็เอาที่คือสิ่งที่เราทำมามันเป็นผลงานที่คนรอคอยก็ ณ ตอนนี้มันสบายใจแบบไหน พีคก็สบายใจแบบนี้แหละ ก็ได้เจอทุกคนก็มี ได้เจอเพื่อนร่วมงานหลายคนมาก แล้วก็ได้เจอการทำงานที่มันสบายใจ ณ ตอนนี้พีคก็แฮปปี้แล้ว สำหรับพีคตอนนี้ใช่ไหมครับ ก็สบายใจนะครับสำหรับพีค ถ้าจะมีคนคนนึงจริงๆ ก็เป็นคนที่พีคอยู่ด้วยแล้วสบายใจคือนั่นคือสิ่งเบสิคสำหรับพื้นฐานแบบความสัมพันธ์เลย ก็อยากสบายใจที่สุด แล้วก็ซัพพอร์ตกันมากกว่า
ตั้งแต่ตอนนั้น 3 ปีที่ผ่านมา มีใครเข้ามาบ้างไหม ?
พีค: ก็ถามว่ามีใครบ้าง พีคถ่ายละครอย่างเดียวเลยครับ คือก็เลยไม่ได้มีเวลาอะไรขนาดนั้น นอกจากถ่ายละครหนักเลยจริงๆ ก็หลังจากตอนนั้นที่เราสัมภาษณ์กันใช่ไหมครับ ก็เปิดกล้องดุจอัปสร แล้วก็เปิดกล้องแม่เลี้ยง แล้วก็เปิดกล้องแสนรัก แล้วก็รักมันปักใจ จนมาถึงตอนนี้ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดโอกาสเรื่องความรัก ถ้ามันมีอะไรใครที่สบายใจ หรือว่าอะไรยังไงพีคก็เต็มที่อยู่แล้ว ก็ไม่ได้ปิดใจ แต่ว่าเอาจริงๆ ก็ขอโฟกัสเรื่องงานก่อน เพราะว่าก็มีคนที่รอคอยผลงานพีคมากพอสมควร
สเปคฉบับ กองทัพ พีค เป็นแบบไหน ?
พีค: สเปคของพีคใช่ไหม คือไม่มีสเปคครับ เอาจริงๆ ไม่มีสเปค ก็เหมือนที่เคยพูดตลอดว่าไม่ได้มีสเป็ค แต่เป็นคนที่พีคอยู่ด้วยแล้วสบายใจจริงๆ แล้วก็เอาจริงๆ เป็นคนที่รักครอบครัว เป็นคนที่พีคอยู่ด้วยแล้วสบายใจอันนี้พีคย้ำเสมอครับ แล้วก็เป็นคนที่เหมือนคุณแม่ อันนี้ก็ยังเหมือนเดิมว่าเป็นคนที่มีความคล้ายคุณแม่ของพีคคือเป็นคนที่ยิ้มเก่ง เป็นคนตลก
เรายังเป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิสต์อยู่ไหม ?
พีค: ยังเป็นเหมือนเดิมครับ ยังเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย แต่ก็มีปล่อยวางบ้างครับ ก็คือเพอร์เฟคชั่นนิสต์ได้ ก็คือเป็นตัวพีคอย่างนี้อยู่แล้วแหละ แต่ก็ปล่อยวางในบางเรื่องที่มันควบยคุมไม่ได้มากกว่า แต่ว่าเพอร์เฟคชั่นนิสต์ด้านไหน พีคว่าเรื่องงานมากกว่า แบบดีเทลอะไรเล็กๆ น้อยๆ อะไรอย่างนี้ พีคเป็นคนแทบไม่ปล่อยผ่าน
3 ปีกับผลงานด้านการแสดงเป็นยังไงบ้าง ?
พีค: ในฐานะตัวละคร ตอนนั้นเล่นเป็นเด็ก ตอนนี้เล่นเป็นพี่ชายคนโต แล้วก็ตอนนั้นพีคอายุ 18 ตอนนี้พีคจะ 23 ย่าง 24 แล้ว ต่างกันเยอะพอสมควรครับ พีคก็โตขึ้นด้วยแหละตามวัยของพีคแล้วก็พีคก็ได้เรียนรู้ผ่านตัวละครเยอะมากพอสมควรเหมือนกัน
ดวงใจเทวพรหม โปรเจ็กต์ใหญ่ของช่อง สร้างความกดดันไหม ?
พีค: อยากให้มันออกมาดีที่สุดมากกว่าครับในฐานะตัวละคร เพราะว่าพีคเองก็เป็นแฟนนิยายเหมือนกันแล้วพีคอ่านนิยายหมดเลยทุกเรื่องเลย แล้วรู้สึกว่าดุจอัปสรพีคมีทุกคนที่อ่านนิยายจะมีภาพในหัวหมด พีคก็อยากจะเป็นอศิรที่มันสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ให้คนดูหรือคนที่อ่านนิยายผิดหวังแค่นั้นเลย ถามว่าจะประสบความสำเร็จหรือมากขนาดไหน พีคทำเต็มที่นะในฐานะนักแสดงแล้วล่ะครับ ก็อยากให้มันออกมาดีที่สุดแหละ ก็อยากจะให้เรตติ้งดีๆ แล้วก็คนเอ็นดูแต่ว่าจะประสบความสำเร็จมากขนาดไหนอันนี้ตอบไม่ได้เลย
ความรู้สึกหลังได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 สิงห์ ?
พีค: ตอนนั้นออดิชันครับ คือไทม์ไลน์เป็นแบบนี้คือตอนนั้นพีคถ่ายเรื่องให้รักพิพากษาใช่ไหมครับ ก่อนที่หน้าเราจะสัมภาษณ์กัน ตอนนั้นพีคีโอกาสได้มาตรงนี้เลย คือมาอยู่ตรงนี้ยืนอยู่ตรงนี้ข้างๆ แล้วก็แคสครับ คือแคสตอนนั้นแคสนักแสดงทั่วช่องเลย ประมาณ 200 กว่าชีวิตได้มั้ง แล้วพีคโอเคกลับไป แล้วทุกอย่างก็เงียบไปเลยเพราะว่าโควิดตอนนั้น แล้วก็ทางเรื่องดวงใจเทวพรหมก็เงียบหายไปเลย พีคก็เลยคิดแล้วว่าพีคคงไม่มีโอกาสได้เล่นหรอก ก็เลยตัดสินใจบอกทีมงานผู้ใหญ่ทุกคนว่าพีคจะไปจีนนะ แล้วก็จะไปจีนครับ แล้วก็อะไรมีรู้ที่ดลบันดาลให้ 4 วันก่อนที่พีคจะถ่ายรายการ ที่เซียงไฮ้ชัตดาวน์ แล้วก็ปิดรายการ ปิดตัวเมืองด้วย แล้วก็มีหนังสือทางรัฐบาลว่าไม่อนุญาติให้ถ่ายรายการที่รวมกลุ่มคนหมู่มาก พีคก็เลยต้องบินกลับมาไทย แล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้เลยว่าชีวิตตัวเองจะเป็นยังไง แล้ววันดีคืนดีทางช่องก็ติดต่อมาอีกครั้งให้มาแคสตัวละครนึงที่เขาคิดว่าน่าจะเหมาะนะ คืออศิร จุฑาเทพ คือพี่ชายคนโตของ 5 สิงห์ รุ่น 2 ก็ลองมาแคสดู แล้วก็คิดเหมือนเดิมว่าลองไปแคสเราทำเต็มที่แล้ว แล้วเขาก็บอกว่าตัวนี้เหมาะกับพีคสุดแล้ว เพราะฉะนั้นพีคจะมารับบทนี้นะ พีคก็ห้ะ คือไปแคสโดยไม่คาดหวังอะไรเลย แล้วก็กลับมาที่พีคลงเรื่องดุจอัปสร แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่านางเอกเป็นใคร จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะขึ้น ก่อนที่จะเปิดตัวไอคอนสยาม เพิ่งรู้ว่าเป็นมิ้นต์ ก็ไม่รู้เลยจริงๆ คือพยายามถามพี่จ๋า นางเอกพีคใคร พี่จ๋าบอกว่ายังแคสไม่ได้เลยลูก คือบทฟดุจอัปสรยากมากจริงๆ พีคก็โอเคปล่อยไป สักพักนึงเพิ่งมารู้ว่าเป็นมิ้นต์ตอนสุดท้ายอย่างนี้ครับ
ตอนรู้ว่าเป็นมิ้นท์เป็นยังไงบ้าง ?
พีค: ตอนแรกเห็นข่าวแว๊บๆ ใน TIKTOK ที่เขาจับคู่นักแสดง พีคไม่รู้ว่านางเอกเป็นใคร เขาก็จับชื่อ เขาจับคู่คนอื่นก่อนสักพักพอมาดูตัวเองมิ้นต์หรอ แล้วแบบทำไมพี่จ๋าไม่เห็นบอกอะไรเลย สักพักสุดท้ายแล้วแว๊บแรกที่เห็น คนนี้ดุจอัปสรจริงๆ ครับ แล้วก็พอมีวันนึงไปตัดผมกับพี่จ๋าก่อนที่จะขึ้นไปไอคอนสยาม พี่จ๋าก็บอกว่าพีคได้เจอน้องมิ้นต์ยังลูกที่จะเป็นนางเอกอ่ะ พีคบอกว่าสรุปมิ้นต์หรอครับ แล้วก็ตอนนั้นรู้สึกว่าพอมาดูแล้ว คนนี้เหมาะที่จะเป็นดุจอัปสรสุดแล้ว
การที่แฟนคลับจับคู่เรา แสดงว่าเขาเห็นเคมีอะไรบางอย่าง ?
พีค: ไม่รู้เหมือนกันครับผม พีคไม่รู้อะไรเลยตอนนั้น คือรู้แค่ว่าตอนนั้นเขาไม่ได้จิ้นหรอก แต่ว่าเขาแค่บอกแคสนักแสดงเฉยๆ จะมีเป็นเฟสเลยว่าในยุคนนี้คือยุคของการจับนักแสดงว่าคนนี้จะเล่นเรื่องนี้ คนนี้จะเล่นเรื่องนี้อะไรอย่างนี้ครับ ซึ่งพีคมาดูพีคก็แอบขำอยู่เหมือนกันทุกคนก็เดากันเก่ง เพราะว่าขนาดพีคเองพีคยังไม่รู้เลยอะไรอย่างนี้ครับ
ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนไหม ?
พีค: ไม่รู้จักเลยครับ แต่ว่ามันตลกมาก เพราะว่าวันก่อนที่พีคจะมีอยู่ปีนึงครับ ที่พีคจะไปเกาหลีใช่ไหมครับ แล้วเป็นปีที่งานช่อง 3 จัดงานช่อง 3 ตอนนั้นน่าจะ 52 ปี ช่อง 3 มั้ง แล้วคราวนี้เหมือนเราเต้นข้างกันครับ เขายืนอยู่ตรงนี้แต่ว่าไม่รู้จักกัน ไม่ได้คุยกันครับ เพิ่งมาดูย้อนหลังแล้วเห็นว่าเขาอยู่ตรงนี้แต่ว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อนเลย มาเจอกันครั้งแรกก็เรื่องดุจอัปสร
ถือเป็น Destiny ไหม ?
พีค: พีคว่ามันก็ระดับนึงล่ะครับผม เพราะว่าขนาดแบบพีคไปจีนแล้ว พีคก็ต้องบินกลับมาคือตัวบทเอง ทั้งอศิร แล้วก็ดุจอัปสร น่าจะเลือกเราทั้งคู่ให้มารับบทนี้
พอได้มาทำงานกับมิ้นท์แล้วเป็นไงบ้าง ?
พีค: สนุกครับ สนุกมากเลย แล้วก็เราเวิร์คช็อปด้วยกันเยอะมาก แล้วมันเหมือนเป็นการละลายพฤติกรรมกันไปเรื่อยๆ ก็พยายามแล้วก็คุยกันแล้วว่าขอให้เป็นอศิร แล้วก็ดุจอัปสรเอาให้เขามีชีวิต แล้วก็เอาให้ตัวละครออกมาเป็นตัวละครให้ดีที่สุด ตอนแรกเขาเป็นคนนิ่งๆ ครับ เป็นคนแบบเรียบร้อย เงียบๆ ยิ้มเก่ง พอมาเจอตัวจริงมีความโก๊ะสูงมาก แล้วก็ชวนพีคเล่นในสิ่งที่บางทีพีคก็ไม่คิดว่าเขาจะเล่นกับพีคอย่างนี้ครับ ก็ดีใจ อย่างเช่นเอาสาหร่ายติดฟัน แล้วก็ถ่ายลงสตอรี่อะไรแบบนี้ครับ ก็สนุกดีครับ
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับละครเรื่องนี้ ?
พีค: สิ่งที่ยากที่สุดคือคอนเซปต์ของดุจอัปสร โอเคที่ไม่โอเคครับ เราบอกว่าโอเคแต่ข้างในเราไม่โอเคเลยคือสามารถใช้ได้สำหรับดุจอัปสรด้วย แล้วก็อศิรด้วยอันนี้คือสิ่งที่ยากที่สุดในกองเหมือนกัน สื่อสารออกมายังไงให้มันตรงข้ามกับสิ่งที่เรารู้สึกอันนี้ยากมากจริงๆ แล้วฮึบยังไงให้มันออกมาแล้วบาลานซ์ออกมาให้ดีที่สุด ทุกคนอาจจะเห็นว่าคุณเพรชในนิยาย กับคุณเพชรในละครจะมีความแตกต่างกันนิดนึง แต่ว่ายังเป็นคุณเพชรเหมือนเดิมแต่ว่าเราจะต้องบาลานซ์ออกมายังไงให้พูดไดอะล็อก พูดไดอะล็อกเหมือนกันเด๊ะเลยแต่ทำยังไงให้ออกมาไม่ให้มันดู ไม่ให้มันดูมากเกินไป หรือว่าน้อยเกินไปอันนั้นแหละที่พีคว่ายากสำหรับพีค ที่ต้องมานั่งคุยกับพี่วุ้นผู้กำกับ กับพี่จ๋า ผู้จัดอะไรอย่างนี้บ่อยมากครับ
ใช้เวลาในการค้นหาตัวครนี้เยอะไหม ?
พีค: ถามว่าเยอะมากไหมมันหาตลอดครับ มันหาตลอด หาตลอดครับ แต่ถามว่าเจอไหม จริงๆ มันเจอตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แต่หาตลอดของพีคหมายถึงไม่ใช่แค่ตัวละครนะครับ แต่หาเวในการพัฒนาตัวละครแค่นั้นแหละ เพราะว่าคนเราตัวละครเขาก็เหมือนเรานี่แหละ เขาก็ต้องมีการพัฒนาไป สมัยก่อนเขาอาจจะเป็นแบบนี้ แต่จุดเทิร์นนิ่งพ้อยของเขาคืออะไร อย่างเช่นคุณเพชรเป็นทหาร เป็นพี่ชายคนโตที่แบบโตมากเลย จะต้องแบกรับทุกอย่างของจุฑาเทพ เขาเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตของเขาไม่รู้กี่ปี แต่ว่าเขาสามาถยอมที่จะเปลี่ยนตัวเอง ยอมที่จะลดทิฐิของตัวเองลงมาเพื่อนที่จะปรับตัวเข้ากับตัวดุจอัปสรให้ได้ อันนี้ก็อยากให้ทุกคนได้ดูดีเทลตรงนี้กันด้วยครับผม
รู้สึกยังไงทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเป็นพี่ชายคนโตจริงๆ
พีค: เวอร์คช็อปเยอะมากครับ ก็เวิร์คช็อปกับมิ้นท์เยอะด้วย เวิร์คช็อปกับเพื่อนๆ เพื่อนสนิทเยอะด้วย แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เจอน้องๆ น้องๆ ในเรื่องก่อนที่จะแบบก่อนที่จะถ่ายละครจริงๆ อะไรอย่างนี้ครับ จนมาอยู่วันนึงที่เราไปเดบิวต์ในกันที่ไอคอนสยาม บนเรือครับ แล้วก็เป็นโมเมนต์นั้นแหละที่หันไปบอกกับทุกคนว่าต่อจากนี้ไปเรามีกันอยู่แค่ 5 คนนะ ขอให้ต่อจากนี้เราไปมีอะไรคุยกัน แล้วเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ ก็นับตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงวันนี้ก็รู้สึกแบบนั้น ไม่ว่าคือแบบเจอใครหรือว่าในกองที่เป็นอยู่กัน ก็จะรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ
พีคได้เรียนรู้อะไรจากละครเรื่องนี้บ้าง ?
พีค: อศิรเป็นคนที่เสียสละครับ เป็นพี่ชายคนโตที่เสียสละแล้วพีครู้สึกว่าการเสียลสละมันคือเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ก็ได้เรียนรู้เหมือนกันว่าไม่ต้องเสียสละทุกเรื่องก็ได้ เรื่องความรักอย่างนี้ไม่ต้องเสียสละ แต่เรื่องที่ควรจะเสียสละคือโอเค อาจจะมีอย่างเช่นความสุขเพื่อความสุขของครอบครัว ปกป้องครอบครัวอะไรอยางนี้พีค ได้เรียนรู้จากเขาเยอะมากพอสมควร แล้วก็ได้รู้ว่าความรักที่มั่นคงจากอศิรเป็นยังไงบ้างด้วยเหมือนกัน ซึ่งทุกคนได้เห็นก็อาจจะได้เห็นด้วยเหมือนกันว่าเขาก็ยอมที่จะเปลี่ยนตัวเองในเรื่องตรงนี้ที่เขายอมเปลี่ยนได้เพื่อผู้หญิงคนนึงอย่างนี้ครับ
ฝากผลงาน
พีค: ครับยังไงพีคก็ฝากเรื่องดวงใจเทวพรหม ตอน ดุจอัปสร ด้วยนะครับ ทุกคนก็สามารถรับชมสดได้นะครับ ทุกศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะครับ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 กด 33 นะครับ แล้วก็สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง Netflix แล้วก็ 3Plus นะครับผม ส่วนผลงานเพลงของพีคก็จะมีเพลง VIP ครับผม ที่ปล่อยไปแล้ว แล้วก็จะมี Intro เหมือนกัน ซึ่งเป็นซีเควนเดียวกันก็คือ Intro บวก VIP นะครับผม สามารถรับชมได้ทาง You Tube Channel KONGTHAP PEAK ครับ แล้วก็ผลงานละครนอกจากดุจอัปสร พีคก็จะมีเรื่องแม่เลี้ยงนะครับ แล้วก็เรื่องแสนรัก สุดท้ายเรื่องก็รักมันปักใจครับ อีก 3 เรื่อง ยังไงก็ฝากทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ