ในยุคทองของ เพลงไทย ในทศวรรษที่ 90 นั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดนตรีและวงการเพลงที่สำคัญมาก ซึ่งนำมาภาพลักษณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ได้แก่การเปลี่ยนทิศทางของเสียงเพลงไทยที่เริ่มหันไปในทิศทางของเพลงร็อกและแนวเพลงที่มีฉากเสียงที่หนักแน่น ทำให้มีการผสมผสานของดนตรีแบบต่าง ๆ ซึ่งสร้างเสียงที่สมบูรณ์แบบและน่าสนใจสำหรับฟัง. วันนี้ FEED ขอพาไปดูวงดนตรีในยุคทอง เพลงไทย นี้กันครับ
เริ่มกันที่ หินเหล็กไฟ ที่ถือเป็นวงดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในช่วงก่อนกระแสอัลเทอร์เนทีฟจะมา โดยหินเหล็กไฟนั้นเกิดจากสองสมาชิกวงดิ โอฬาร โปรเจ็คเก่าคือ โป่ง ปฐมพงศ์ และ รงค์ ณรงค์ (มือเบส) ฟอร์มวงใหม่ขึ้นมาและได้ โต นำพล กับ ป็อป จักรรินทร์ มาเล่นกีต้าร์ มือกลองเป็นน้าหมาน สมาน ยวนเพ็งหนึ่งในตำนานกลองเมืองไทย ออกอัลบั้มชุดแรกชื่อชุดเดียวกับวงเมื่อปี 1993 จุดกระแสเพลงร็อคขึ้นมาอีกครั้งดังแทบทุกเพลงในอัลบั้มไม่ว่าจะเป็น ยอม, เพื่อเธอ, นางแมว, พลังรัก และสู้ ก่อนจะต่อยอดอัลบั้มที่ 2 ชุดคนยุคเหล็กในปี 1995 แต่เปลี่ยนมือกลองเป็นเลสเตอร์ ชาวฟิลิปปินส์แทนเพราะน้าหมานไปรับหน้าที่มือกลองให้กับวงคาราวาน ก็มีเพลง หลงกล, มั่วนิ่ม และคิดไปเองติดชาร์ตเพลงอีกเช่นกัน เรียกได้ว่า 2 ปีนี้คือปีทองของวงหินเหล็กไฟวงร็อครุ่นบุกเบิกของช่วงปี 90 อย่างแท้จริง
ต่อจากนั้นคือ โมเดิร์นด็อก โดยหลังจากอัลบั้มชุดที่ 1 ของวงหินเหล็กไฟก็ได้มีวงที่จุดประกายเพลงร็อคขึ้นมาอีกครั้งในแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเบเกอรี่ มิวสิคด้วยเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครในเพลงบุษบาต่างจากเพลงทั่วไปที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องความรัก และฝีไม้ลายมือขั้นเทพแน่นปั๋งกับเครื่องดนตรีแต่ 3 ชิ้นคือ ป็อด ธนชัย (ร้อง), เมธี (กีต้าร์) บ็อบ สมอัตถ์ (เบส) และ โป้ง ปวิณ (กลอง) กลายเป็นตำนานของอัลเทอร์เนทีฟไทยไปตั้งแต่เพลงแรกและเป็นวงที่ทำให้ค่ายเบเกอรี่ มิวสิคมีชื่อคุ้นหูนักฟังเพลงอีกเช่นกัน ปี 1994 นั้นถือเป็นปีทองของโมเดิร์นด็อกอย่างมาก ทั้งเพลงบุษบา, ก่อน, มานี, กะลา และบางสิ่ง หรือแทบทั้งอัลบั้มวัยรุ่นยุคนั้นร้องกันได้หมด แค่อินโทรบุษบาขึ้นมาก็กระโดดตัวลอยแล้ว ดังนั้นช่วงเวลาปี 1994 คงไม่มีใครเกินวง โมเดิร์นด็อก วงดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคอัลเทอร์เนทีฟ
วงสุดท้ายกับ แบล็คเฮด วงร็อคหัวดำที่อดีตสมาชิกวงยูเรเนี่ยมในสมัยก่อนอย่าง ปู อานนท์ (กีต้าร์) และ ต๋อง สมทบ (เบส) ออกมาฟอร์มวงใหม่จึงได้ เอก อภิสิทธิ์ มือกีต้าร์จากวงบิ๊กกัน และ ยุ่น วิโรจน์มาตีกลอง ช่วงแรกนั้นยังเล่นดนตรีกลางคืนทั่วไปแต่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะเป็นอดีตนักดนตรีจึงเล่นร็อคผับ ผับชื่อดังที่สุดของชาวร็อค ก่อนที่ชั่วโมงนั้นกระแสเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเล็กกำลังมา พวกเขาจึงได้ร่วมงานกับค่ายดนตรีเอ็มสแควร์ออกมินิอัลบั้มที่มีแค่ 4 เพลงในปี 1995 แต่ก็สามารถแจ้งเกิดได้ทันทีกับเพลงยืนยัน ทำให้ชื่อวงแบล็คเฮดเข้าไปอยู่ในใจชาวร็อคหลายคนและต่อยอดด้วยอัลบั้มที่ 2 ซึ่งเอาเพลงของวงอินโนเซนต์อย่าง เพียงกระซิบ มาทำใหม่จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงบังคับที่ผับต้องเล่น จากนั้นจึงย้ายมาค่ายมอร์ มิวสิคในปี 1999 ทำอัลบั้ม Pure ส่งเพลง ยิ่งโต ยิ่งสวย และ อยู่ไป ไม่มีเธอ ดังเปรี้ยงจนขึ้นแท่นวงร็อคแถวหน้าของประเทศ