เป็นนางปาดที่ไม่พลิกโผ ตามการคาดการณ์ของแฟนนางงามที่ติดตามชม การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ในปีนี้ สำหรับ “ณิชา พูลโภคะ” เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 น้องเล็กสุดในแก๊งท็อป 5 ซึ่งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับ FEED ถึงจุดเริ่มต้นในเส้นทางนางงามของเธอเกิดขึ้นเพราะคำบูลลี่ และเลือกที่จะนำคำบูลลี่เหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันและแรงบันดาลใจ พิสูจน์ศักยภาพในตัวของเธอให้คนอื่นได้เห็น
และในวันนี้เธอทำได้สำเร็จแล้ว และยังเป็นความสำเร็จครั้งแรกในชีวิตของเธอในเส้นทางนางงาม
สวัสดีค่ะ ณิชา ณิชา พูลโภคะ รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ค่ะ แฮปปี้มาก แฮปปี้ตั้งแต่เขาประกาศเข้าที่ 5 แล้ว เข้าท็อป 5 ประกาศเป็นชื่อสุดท้ายก็ลุ้นมากๆ ว่าจะเข้าไหม คือถ้าไม่ได้ก็คงเสียใจมากแต่ก็ต้องเผื่อใจ เพราะว่าคนที่เขายืนอยู่ข้างๆ เราผู้หญิงอีก 7-8 คนสวยมากๆ แล้วยังเหลืออีกตั้งหลายคนที่เขามีโอกาสที่จะเข้าท็อป 5 เหมือนกัน ณิชาก็เลยพูดกับตัวเองว่า โอเค ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่พอเราได้เราก็เลยโอเค ดีใจมาก (ยิ้ม) เพราะมันคือสิ่งที่เราอยากได้มาตั้งแต่แรกค่ะ
ความรู้สึก ณ วินาทีที่ได้เข้ารอบท็อป 5
ณิชา : มันแบลงค์เลยค่ะ ไม่รู้สึกอะไรเลย คือมันดีใจแหละแล้วพยายามบอกตัวเองอย่าร้องไห้นะ เพราะเมคอัพมันจะพัง (หัวเราะ) แต่สรุปพอโอเคเรามายืนอยู่หน้าเวที เราขอบคุณกรรมการเสร็จ เราหันไปหาพี่ๆ ทั้งสี่คน พี่เขาก็ยิ้มแล้วก็อ้าแขนต้อนรับเรา เหมือนเราได้เข้าบ้านไปกับพี่เขา มันเลยน้ำตาแตกน้ำตาไหลเอง หนูแฮปปี้มากที่ได้อยู่ตรงนี้ หนูไม่สนใจแล้วว่าจะได้ที่ไหนในท็อป 5
มันก็มีสองเสียงนะคะว่าโอเค ยูมาได้ยังไง ยูเป็นใคร แล้วก็จะมีคนที่เขาแฮปปี้ยินดีกับเรา เราก็ทำดีที่สุด เพราะเรารู้ว่าคะแนนหลังบ้านสำคัญมากนะ เพราะเขาดูว่าท็อป 5 จะสามารถทำงานกับใครได้บ้าง คะแนนหลังบ้านเขาเก็บทุกเม็ด เก็บทุกอย่าง เพราะฉะนั้นณิชาจึงทำทุกวันให้ดีที่สุด
ชอบผลงานของตัวเองในรอบไหนมากที่สุด
ณิชา : หนูชอบพรีลิมมินารี รอบชุดว่ายน้ำค่ะ เป็นเบสเพอร์ฟอร์แมนซ์ เป็นโชว์ที่ดีที่สุดเท่าที่ณิชาเคยทำมาในการประกวดครั้งนี้ค่ะ (ยิ้ม)
นาทีตอบคำถาม
ณิชา : คือพอหลังจากได้ท็อป 5 หนูร้องไห้ หนูแบลงค์ หนูคิดอะไรไม่ออกแล้ว ณ ตอนนั้น อย่างที่บอกว่าโอเค หนูพอใจแล้วกับสิ่งที่หนูได้ แล้วพอไปปุ๊ปเราปรับอีโมชั่นไม่ทัน เรากำลังร้องไห้อยู่แล้วอยู่ดีๆ ก็ต้องไปยืนตอบคำถาม โอเคคำถามพี่ๆ ผ่านไปแล้ว ต่อไปมันคือตาหนู หนูไม่มีสิทธิ์เลือกคำถามเพราะหนูเป็นคนสุดท้าย ขึ้นไปปุ๊บโอเคคำถามมันคง meant to be แล้วเขาประกาศคำถาม หนูก็ช็อคแล้วก็คิดในใจ หน้าแบบนี้เลยนะคะ ตายแล้ว คงได้ที่ 5 เลย คือทุกครั้งที่ผ่านมาที่หลายๆ คนอาจจะเห็นว่าโอเค ตอบได้ หรือหลายคนยกให้ณิชาเป็นนางงามสายสปีช มันเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่เขาอ่านคำถาม ครึ่งคำถามณิชาสามารถคิดคำตอบได้เลยว่าเราอยากจะตอบอะไร
แต่วันนั้นเป็นวันเดียวที่ณิชาตื่นเต้นมาก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย คือทั้งรอบชุดว่ายน้ำทั้งรอบชุดราตรี ขึ้นไปบนนั้นณิชาไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป ลงมายังคุยกับพี่แอนอยู่เลยว่า หนูไม่รู้หนูทำอะไรลงไป (หัวเราะ) พอขึ้นไปบนนั้นมันเลยไม่มีสติมันก็เลยแบลงค์ แม้เขาอ่านคำถามภาษาไทยภาษาอังกฤษจบแล้วสองรอบ หนูยังไม่รู้เลยหนูจะตอบอะไร ถึงทุกวันนี้หนูยังไม่รู้เลยหนูจะตอบอะไร แต่มันก็มันคือสิ่งที่ก็เป็นตามนั้นไป เราก็ยอมรับผิดว่าโอเค เราไม่มีสตินะจุดนั้น (ยิ้ม)
เรียนรู้อะไรจากการประกวดครั้งนี้
ณิชา : รู้สึกว่าเราโตขึ้น เราโตขึ้นในทุกๆ วัน การเข้ากองประกวดหนึ่งเลยคือเขาฝึกความอดทนของเรา อย่างที่บอกว่าเขาอยากรู้ว่าเราสามารถทำงานกับคนอื่นได้ไหม ซึ่งณิชาว่าการทำงานกับคนมันยากมาก เพราะว่าร้อยพ่อพันแม่ เราไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง แต่ด้วยความที่ณิชามีใจรักในวงการนี้อยู่แล้วในจุดนี้อยู่แล้ว มันเลยแฮปปี้ที่จะทำในทุกๆ วัน ก็เลยมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ในนี้ค่ะ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ทั้ง 4 คน
ณิชา : ด้วยที่ประสบการณ์เขามาก เขาจะรู้ว่าโอเคเขาจะต้องวางตัวยังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าใคร เขาจะต้องจัดการเวลายังไง ทำนู่นทำนี่ยังไง ซึ่งพี่ๆ ทั้ง 4 เป็นมืออาชีพมาก เวลาณิชาอยู่ในกอง ณิชาก็จะขอคำปรึกษาจากพี่แอน ขอคำปรึกษาจากพี่นลินว่าหนูต้องทำยังไง หนูต้องเดินยังไง แล้วเราก็คุยกันในกองเป็นปกติอยู่แล้วตั้งแต่ตอนนั้น ก็ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง พี่ๆ ก็สอนหลายๆ อย่าง สอนให้มีความอดทน มันเหนื่อยมากเลยนะคะตอนที่เข้ากอง ซึ่งพี่ๆ เขาไม่ได้แสดงสีหน้าเหนื่อยหรือว่าความกังวลออกมาเลย เพราะฉะนั้นอันนั้นณิชาสามารถหยิบแล้วก็นำมาใช้กับตัวเองได้ในอนาคต
มีวันนี้เพราะทีม CD ที่เล็งเห็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ข้างใน
ณิชา : ถ้าไม่มีพี่กุ๊กไก่ (สุภาพร เอ็ลเดรจ) ก็ต้องบอกว่าไม่มีณิชาวันนี้ เพราะว่าหลายๆ คนบอกว่า โอเคยูจะเอาน้องหน้าจืดอย่างนี้มาหรอ จะสู้บนเวทีนางงามได้หรอ แต่ว่าพอณิชาไปสัมภาษณ์กับพี่ไก่ แล้วได้มีสัมภาษณ์กับพี่นิว โอเค พี่เขาเห็นถึงศักยภาพในตัวณิชา เขาเห็นว่าณิชาอีกคนที่อยู่ในนี้ที่เรายังไม่ได้แสดงยังไม่ได้ไชน์ออกมา แต่ว่าพอได้ขึ้นไปออนสเตจ ได้เข้าไปอยู่ในกองแล้วก็ปลดล็อคตัวเองใน 42 วัน
“ตั้งแต่วันแรกที่หลายๆ คนไม่ได้เห็น อาจจะมองข้าม เพราะด้วยเราไม่ได้เป็นไทป์ของนางงาม เราไม่ได้หน้าละติน เราไม่ได้มีหุ่นแบบเป๊ะ แต่พอเรื่อยๆ มาเรียงๆ ก็ได้ทำกิจกรรมเรื่อยๆ คนหันมาให้กำลังใจเรามากขึ้น คนเห็นศักยภาพของเรามากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ด้อมณิชา ณิชาต้องขอบคุณด้อมณิชาด้วย ขอบคุณด้อมจากพี่ๆ หลายคนด้วย ไม่ว่าจะเป็นของพี่แจ๊สซี่ พี่วีณา แล้วก็พี่แอนโทเนีย คือด้อมพี่ๆ เขาให้กำลังใจณิชาเยอะมาก ทุกครั้งที่ด้อมพี่ๆ ไปรับที่โรงแรม เขาก็จะณิชาสู้ๆ นะ วันนี้เก่งมากเลย แล้วเวลาอยู่ในฮอลล์เขาก็จะกรี๊ดให้ ก็ดีใจมากๆ ที่ มีแฟนคลับแล้วเขาเห็นศักยภาพของเราจริงๆ ค่ะ”
สิ่งที่อยากบอกกับตัวเองในวันนี้
ณิชา : เธอคิดถูกที่เธอไม่ท้อ เธอคิดถูกที่เธอคิดทบทวนอีกรอบหนึ่งว่าเราได้ทำตามความฝันของเราจริงๆ หรือยัง พอเธอคิดแบบนี้ มันทำให้เราได้มีวันนี้ด้วยกัน ได้แฮปปี้ไปด้วยกัน แล้วก็ในอนาคตคาดว่าเราจะได้สิทธิ์ทำในสิ่งที่เรารักแล้วก็ชอบ ก็แฮปปี้กับตัวเอง เธอคิดถูกแล้ว (ยิ้ม)