เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เจอกับข่าวคราวเกี่ยวกับความรักอย่างหนักหน่วงมาโดยตลอด สำหรับนางเอกสาว “แมท ภีรนีย์ คงไทย” โดยดราม่าครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่เจ้าตัวประกาศคบหาดูใจกับ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ที่เพิ่งเลิกรากับ “แอฟ ทักษอร” ตำแหน่งมือที่ 3 จึงถูกหยิบยื่นให้กับแมท ภีรนีย์ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แม้เจ้าตัวจะออกมายืนยันนั่งยืนนอนยันอย่างไร แต่กลายเป็นว่าภาพลักษณ์นี้ก็ติดตัวแมท ภีรนีย์ไปเสียแล้วจนมาถึงครั้งล่าสุด กับกรณีการเลิกราของ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” และ “ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา” ชื่อของแมท ถูกโยงเข้าไปประเด็นการเลิกราของอั้มและไฮโซพก หลังจากใบ้นางเอกสาว อักษรย่อ ม. คือผู้อยู่เบื้องหลังพร้อมคีย์เวิร์ด จับมือ ซึ่งปรากฏภาพแมทในงานปาร์ตี้เดียวกันกับไฮโซพก แต่ทว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็มีการเคลียร์กันลงตัวว่าเป็นความเข้าใจผิดกันไปเองของหลายๆ ฝ่าย
ล่าสุด แมท ภีรนีย์ ออกมาเปิดใจในรายการ “WOODY FM Special” ของ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ถึงชีวิตที่เคยโดนดราม่าอย่างหนัก เป็นถังขยะของคนทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำ จนสูญเสียความมั่นใจถึงขั้นเคยคิดอยากออกจากวงการบันเทิง บทเรียนในชีวิตครั้งสำคัญของเจ้าตัว
“มีช่วงหนึ่งอย่างที่พวกเราทราบกันดีว่าสูญเสียความมั่นใจ เหลือศูนย์เลยค่ะ มันยากจริงๆ แมทรู้ว่าเราค่อนข้างดีลกับวงการบันเทิงยากอยู่แล้วโดยส่วนตัว เพราะจะมีนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ คือไม่ได้เป็นคนหยิ่ง แต่ว่าเหมือนอาจจะถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ค่อยเข้าหาคนแปลกหน้า มันก็เลยจะยากกับการดีลกับวงการบันเทิง ด้วยพื้นฐานของเรา แล้วพอเจออะไรต่างๆ ที่ยิ่งยากเข้าไปอีก ก็เลยรู้สึกเหมือนช็อกน้ำ เราไม่เคยเจออะไรที่หนักหนาสาหัสเลยในชีวิต ชีวิตแมทราบเรียบมากเลยค่ะ เรียนแบบนี้ ทำงานแบบนี้ นอกจากเรียนก็คือไปทำงานชีวิตมีแค่นี้ อยากได้อะไรก็ โอเค คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้กดดัน หรือไม่ได้มีอะไรที่ต้องหนักใจหรือคิดมาก ในชีวิตไม่เคยมี นี่คือพายุ ระเบิดตู้มขึ้นมาทีเดียวแบบงงไปเลย”
ช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ วู้ดดี้ ถามว่าตอนนั้นรู้สึกเสียใจอะไรมากที่สุด ก่อนที่แมท ภีรนีย์จะตอบว่า “อย่างแรกคือเสียใจที่คนไม่ฟัง คนจะพูดหรือตัดสินไปแล้วว่าที่ๆ เราพูดมันไม่จริง ทั้งๆ ที่ตอนนี้มาพูดก็ไม่มีความหมาย แต่ ณ วันนี้ก็พูดได้ก็ยังสนุกอยู่ที่จะพูด เพราะกลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว ถ้าไม่มีถ้ามันไม่เกิดขึ้นก็จะไม่มีแมทใน Mindset นี้ ในวันนี้เลย”
แมท ภีรนีย์กล่าวถึงการถูกวิพาษ์วิจาณณ์ทั้งในสังคมและโลกออนไลน์ “การทำใจยอมรับ” เป็นสิ่งที่เธอได้ค้นพบและเรียนรู้กับมัน
“ได้เรียนรู้การทำใจมั้งคะ ถ้าจะแยกย่อยออกมามันได้เรียนรู้เยอะมาก พอแมทมาวิเคราะห์ แมทรู้และเข้าใจแล้วว่า พอไม่ได้เจอปัญหาหรืออุปสรรค ทุกอย่างได้มาโดยง่าย เราก็เลยไม่เห็นคุณค่าของมัน แมทไม่เห็นคุณค่าของการเป็นนางเอก ที่ทุกคนให้คำจำกัดความของเราว่านางเอก หลายๆ คนอยากมาอยู่ตรงนี้เยอะมากแต่ว่าเขาไม่มีโอกาส แต่เราได้โอกาสโดยที่ไม่ได้ออกไปไขว่คว้าหรือทำงานหนักเพื่อมัน แต่พอมันได้มาปุ๊บเราก็ ถามว่าเรารับผิดชอบไหม เรารับผิดชอบอย่างดีนะคะ แต่ว่าเราไม่ได้เห็นคุณค่าของมันมากพอ พอเราไม่เห็นคุณค่าของมันมากพอแล้ว เมื่อเวลาที่เดินมาเจอกับพายุลูกใหญ่เลยทำให้เราทิ้งมันไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้เดือดร้อน”
“พื้นฐานเราแมทเป็นคนค่อนข้างรักษากฎระเบียบ เราจะไม่ทำอะไรที่มันผิดอยู่แล้ว ทีนี้เราก็เลยเข้าใจว่าคนอื่นเขาจะไม่ทำ ถ้าคนอื่นทำเราจะแว้ดทันที สู้ทันที มาดิพร้อมชน ถ้าอันไหนแมทไม่ผิดนะ ฆ่าแมทให้ตายแมทก็ไม่ยอมรับ แต่ถ้าอันไหนแมทผิด บอกมาแล้วแมทเห็นว่าผิดจริง เราอยากเปลี่ยนนะ อยากปรับปรุง อยากพัฒนาให้มันดีขึ้น อันนี้คือเรื่องหลักๆ ที่แมทเรียนรู้จากเรื่องนี้”
เมื่อถามว่าเจอดราม่าหนักๆ ในชีวิต เคยคิดอยากออกจากวงการไหม แมทตอบว่าใช่ และยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เธอนั้นเคยคิด และยังทำให้ได้เห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วใครที่รักและยังอยู่ตรงนี้กับเธออย่างจริงใจ
“คิดทุกปีตั้งแต่ทำงานแล้วค่ะ เพราะอย่างที่บอกโดยส่วนตัวแมทดีลกับวงการบันเทิงยากมาก ถามว่าแมทอยู่กองละคร แมทสนุกนะ เล่นละครได้อย่างเดียวค่ะ เล่นได้แค่อยู่หน้ากล้องเป็นคนอื่น อ่านบทของตัวเองแล้วก็เป็นคนอื่น แต่ถ้าจะให้เราต้องมาแบบวางแผนที่จะออกงานอย่างงี้ มีข่าวอย่างนี้ ไม่มีเลยค่ะ”
“ส่วนหนึ่งที่ทำให้แมทอยู่รอดได้มาจนถึงทุกวันนี้ แฟนๆ ด้วย หมายถึงคนที่ยังรักและเข้าใจเราในฐานะคนดู แต่ที่มันประทับใจมาก กับคนใกล้ๆ ตัว ครอบครัวเพื่อน หรือกัลยาณมิตร รุ่นพี่หลายๆ ท่านหรือรุ่นน้องหลายๆ คนรอบข้างเราที่สนิทมากๆ อยู่แล้ว พอเราเจออะไรแบบนี้มา เพิ่งคิดได้ว่าเราจะไม่มีวันปล่อยพวกนี้ไปให้เขาลำบาก เขาจะต้องมีแมทอยู่ในชีวิตของพวกเขาในยามที่พวกเขาลำบากอยู่แน่ๆ จากนี้ต่อไป เพราะว่ามันเป็นน้ำหล่อเลี้ยงแมทมากๆ เลย และพี่ๆ ในวงการด้วยเยอะมากที่ส่งข้อความข้างหลังเข้ามา แค่นี้แมทก็ดีใจแล้วที่มีคนเข้าใจและเชื่อใจเราบ้าง มันก็เป็นการคัดคนออกเหมือนกัน ว่าใครยังอยู่และใครไม่ได้ไปต่อ ตั้งแต่เกิดมาแมทไม่เคยเลิกคบใครเลยค่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการเลิกคบ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเรารู้แล้วว่าใครที่เราสามารถจริงกับเขาได้มากน้อยแค่ไหน”