ซีรีส์สัญชาติเกาหลีชื่อสั้นๆ Moving ถูกปล่อยฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Desney+ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา และกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางถึงความสนุก ชวนติดตาม คาดหมายว่าจะเป็นอีก 1 คอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จ สร้างเรตติ้งทั้งในเกาหลี ในเมืองไทย และทั่วโลก
ไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือ ช่วงเวลา 1 คืน ดูมันรวดเดียว 7 EP (ซีรีส์มีทั้งหมด 20 EP ปล่อยออมาล็อตแรก 7 จากนั้นปล่อยสัปดาห์ละ 2 ตอนไปจนจบ) ถูกอกถูกใจว่าจะเป็นสายดูเอามัน กับแอ็คชัน บู๊ โหดสะใจ, ดูเอาซึ้ง ว่าด้วยสายสัมพันธ์ พ่อลูก, แม่ลูก หรือ ดูฟินๆ เพราะแค่ได้ดู ตัวละครหลัก จางฮีซู (รับบทโดย โกยุนจอง) ซึ่งนางยังคงสวยตะโกน สวยสว่างไสว แค่นั้นก็คุ้มกับเวลาที่ละลายไปแล้ว
Moving เป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ ด้วยขนาดการลงทุนมหาศาล ระดมนักแสดงยอดฝีมือมาร่วมงานแน่นจอ ใช้ผู้กำกับฝีมือดีนั่นคือ พัคอินเจ (ผู้กำกับซีรีส์ Kingdom Season 2) ตัวเรื่องสร้างจากเว็บตูนที่ได้รับความนิยมถล่มทลายอยู่แล้ว จึงแทบไม่ต้องห่วงในเรื่องความสมบูรณ์แบบของ โปรดักชั่น – CG โดยเฉพาะซีนแอ็คชัน บู๊ล้างผลาญ มีให้ชมกันจุใจ
แกนเรื่องหลักว่าด้วยชีวิตของบรรดามนุษย์ผู้มีพลังพิเศษในตัวเอง เช่น แข็งแกร่ง, เคลื่อนที่ได้เร็ว, ลอยได้-บินได้, มีพลังไฟฟ้าในตัว, ทนต่อการถูกทุบตีทำร้าย (แผลหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว) ฯลฯ ที่เมื่อพ้นช่วงสงครามเย็น และโครงการทดลองใช้มนุษย์พลังพิเศษเหล่านี้ถูกเลิกไปแล้ว พวกเขาต้องพยายามแทรกตัวเองเข้ามาอยู่ร่วมในสังคมปกติ และพยายามปิดบังมิให้คนทั่วไป หรือองค์กรลับบางองค์กรรู้ว่า เขา (รวมถึงลูกๆ ของพวกเขา) มีพลังพิเศษ
ขณะเดียวกันก็มี “ใบสั่ง” ให้ตามเก็บกวาด เช็คบิลคนกลุ่มนี้ให้หมดไป (คล้ายๆ การกำจัดพวก มิวแทน ใน X-Men)
ชอบในแนวทางการนำเสนอช่วงต้นที่คล้ายๆ กับการเอา X-Men และ Watchmen มาขยำรวมกันแล้วเล่าถึงความยากลำบากในการเป็นผู้มี “พลังพิเศษ” แม้จะไม่ดาร์ค หรือมืดหม่นเท่าหนังแอนตี้ฮีโร่แบบ Watchmen ก็ตาม
โดยเฉพาะเมื่อมันถูกเล่าผ่านชีวิตเด็กในวัยมัธยม ที่ด้านหนึ่งต้องรับมือกับการปรับตัวให้อยู่ร่วม-อยู่รอดให้ได้ในโรงเรียนและสังคมวัยรุ่น แต่ด้วยความ “แปลก” หรือไกลไปถึงขั้นเป็นกึ่ง “ตัวประหลาด” นั่นทำให้พวกเขาก็ต้องเผชิญความยากลำบากกับ “พลังพิเศษ” ที่มีในตัวพวกเขา (ซึ่งยังใช้หรือควบคุมไม่ได้เหมือน ฮีโร่ ที่เราเห็นๆ กัน)
เส้นบางๆ ที่พวกเขาปลอบใจกันเองว่า พวกเขาไม่ได้แปลก แค่ “แตกต่าง” หรือ “พิเศษ” ถูกท้าทายและทดสอบในหลายๆ รูปแบบ เช่นเดียวกับการประคับประคองความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่าง 2 คู่หลัก นั่นคือ เด็กหนุ่ม คิมบงซอก (รับบทโดย อีจองฮา) ที่อาศัยอยู่กับกับแม่เลี้ยงเดี่ยว อีมีฮยอน (รับบทโดย ฮันฮโยจู) กับคู่ของเด็กสาว จางฮีซู (รับบทโดย โกยุนจอง) ผู้มีพ่อเลี้ยงเดี่ยวคือ จางจูวอน (รับบทโดย รยูซึงรยง)
แค่ครอบครัวที่มีลูกวัยรุ่นกำลังเติบโต ต้องดิ้นรนในโรงเรียน ( ซีรีส์เข้าไปแตะปัญหาความรุนแรง, การบูลลี่ในโรงเรียนด้วย) ต้องทำมาหากิน ต้องปกปิดอดีต และสถานะของตัวเอง ก็ยากพออยู่แล้ว นี่ยังต้องรับมือกับ วัยรุ่นที่กำลังต้องการทางออกบางเรื่องบางอย่าง รวมถึงความลับ บาดแผลใจในอดีต ซึ่งถึงที่สุดแล้วก็ไม่อาจเก็บ-กดทับมันไว้ได้ตลอดไป
7 EP หรือ 1 ใน 3 ของซีรีส์ควบคุมความสนุกและผสามผสานได้อย่างลงตัวทั้ง แอ็กชัน-ไซไฟ-ระทึกขวัญ-ดราม่า-แฟนตาซี แต่โดยส่วนตัวแล้ว ชอบพาร์ทดราม่าที่ปูฐานความเข้าใจต่อเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างหนักแน่น แน่นอนว่านับจากนี้ความทรมานจะมาเยือนที่ต้องรอคอยชมสัปดาห์ละ 2 ตอนต่อไปเรื่อยๆ
ชื่นชมคนเขียนบทที่กระจายเรื่องไปยังตัวละครจำนวนมากทั้งที่อยู่ในพล็อตหลักและพล็อตย่อย ที่สำคัญทำให้เราได้ ใจฟูกับความน่ารักของ โกยุนจอง, แอบเอาใจช่วยคุณแม่ยังสาวที่ ฮันฮโยจู สวมบทบาทได้น่าเห็นใจ ขณะที่ รยูซึงรยง ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับบทบาท พ่อค้าไก่มือใหม่แต่เวลาเข้ม/โหด ก็ปล่อยของไม่ยั้ง
ที่สำคัญคือความฟินใจที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการได้เห็น ชาแทฮยอน มารับบทเป็น จอนกเยดู ผู้มีพลังพิเศษด้านไฟฟ้า แต่ตลกร้ายที่เขากลายเป็นแค่นักแสดงในรายการโชว์สำหรับเด็กที่ตกอับ จนต้องมาเป็นคนขับรถเมล์โดยสาร … ใช่ครับ ชาแทฮยอน หรือนายเจี๋ยมเจี้ยม จากเรื่อง My Sassy Girl พระ-นางคู่แรกที่ตกผมเข้าสู่โลกภาพยนตร-ซีรีส์เกาหลี เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
Moving ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่เปิดตัวได้อย่างเร้าใจ น่าจะสร้างฐานแฟนในไทยต่อเนื่องไปจนจบในช่วงปลายเดือน กันยายนนี้ ส่วนที่ว่าจะรักษาโมเมนตัมความสนุก และสร้างยอดเรตติ้งไปถึงไหน คงต้องร่วมพิสูจน์ไปด้วยกัน
ตารางออกอากาศ
ตอนที่ 1-7 วันที่ 9 สิงหาคม 2023
ตอนที่ 8-9 วันที่ 16 สิงหาคม 2023
ตอนที่ 10-11 วันที่ 23 สิงหาคม 2023
ตอนที่ 12-13 วันที่ 30 สิงหาคม 2023
ตอนที่ 14-15 วันที่ 6 กันยายน 2023
ตอนที่ 16-17 วันที่ 13 กันยายน 2023
ตอนที่ 18-20 วันที่ 20 กันยายน 2023