เป็นเจ้าแม่นางงามประจำยุคนี้ที่ถือลิขสิทธิ์เวทีการประกวดนางงามชื่อดังอย่าง “เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์” (Miss Universe Thailand) มาเป็นปีที่ 5 แล้ว สำหรับ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” หัวเรือใหญ่แห่ง TPN Global หรือ “แม่ปุ้ย” ของบรรดาสาวงาม ตลอดจนแฟนนางงามเกือบทั้งประเทศ
ล่าสุดในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่การประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้ทำตามนโยบายกองแม่ นั่นก็คือการจัดประกวดสาวงามระบบจังหวัดขึ้น โดยเปิดรับ CD หรือ City Director ประจำจังหวัด เพื่อร่วมส่งสาวงามเข้ามาประกวดเฟ้นหาสาวงามเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้รับตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประจำปี 2566 ท่ามกลางกระแสข่าวเมาท์ว่าเป็นการเลียนแบบรูปแบบการแข่งขันจากเวทีดังเวทีหนึ่ง
“มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่ การเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรของผู้คน เราไม่มีการย่ำอยู่กับที่ ความเปลี่ยนแปลงที่มันจะเกิดขึ้น ความแซ่บในกองประกวดของเรามีเพียงหนึ่งเดียว แต่ตอนนี้เข้าใจว่าความแซ่บมันจะทวีคูณขึ้นตามจังหวัด เราได้เห็นกันแล้ว เพจประจำจังหวัดต่างๆ เปิดกันขึ้นมา ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเราเลย ทุกจังหวัดทำได้ดี และที่ปลื้มใจมากก็คือทุกจังหวัดมีการนำเสนอเรื่องราวของจังหวัดตัวเองสอดแทรกด้วย เป็นอะไรที่น่ารัก สร้างสรรค์”
“ถ้าจะพูดถึงการเลียนแบบคงไม่ใช่ เพราะเนื้อหาของการประกวด คีย์แมสเสจของการประกวดไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ปุ้ยจะให้เครดิตเดียวที่เราทำเหมือนก็คือเวที MISS USA ที่เขาทำมาแล้วหลายสิบปี” ปุ้ย ปิยาภรณ์ อธิบายถึงการหันมาจัดรูปแบบการระบบจังหวัด ในงานแถลงข่าวเปิดม่าน มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ประจำปี 2566 เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด FEED ได้เจอกับ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ในงานพิธีแต่งตั้งตัวแทน MUT Nakhonratchasima 2023
ซึ่งเจ้าตัวได้บอกเล่าให้ฟังถึงความสำเร็จที่เกินคาดหมาย ในการจัดประกวด MUT ระบบจังหวัดขึ้นในปีนี้ ไปพร้อมๆ กับภารกิจเดินสายมอบมงกุฎประจำตำแหน่ง ให้กับตัวแทนสาวงามแต่ละจังหวัด
“ตอนนี้เดินสายไปทุกจังหวัดเลยค่ะ เท่าที่จะไปได้ บางจังหวัดที่มีการแจ้งชนกัน เราก็จะเลือกจังหวัดที่เรารับปากไว้ก่อนค่ะ ก็พยายามจะไปให้ครบ เพราะว่ารู้สึกว่าได้รับเกียรติมากจากทุกจังหวัดที่เขาจัดงานขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการประกวดหรือแต่งตั้งก็ตาม ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มากๆ เลยค่ะ”
“ แม่ปุ้ยก็อึ้งเหมือนกันนะ เพราะว่าคือตอนแรกมีแต่คนบอกว่า อย่าจัดแบบนี้เลย อย่าจัดจังหวัดเลย ไม่มีคนมาประกวดหรอก นู่นนี่นั่น อย่างที่เห็นนางซุก นางซ่อน นางปาด เต็มไปหมด แล้วแต่ละคนที่มามากันแบบสวยมาก โปรไฟล์ดีมาก มีแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิต แรงบันดาลใจในการที่จะส่งต่อให้ผู้คนได้มากเลย อันนี้ก็มีความสุขมาก ตอนนี้น่าจะ 50-60 จังหวัด แล้วล่ะค่ะ คิดว่านะคะ”
“เกินเป้ามาก ตอนแรกเลยเราตั้งไว้ว่าปีแรกได้ 50 จังหวัดก็เก่งแล้ว แต่ปรากฏว่าก็เป็นอย่างที่เห็นค่ะ ทะลุไปแล้ว ตอนนี้มันก็ยุ่งยากนิดนึงเพราะว่าการทำโชว์ของเรามันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ใหญ่ขึ้น สเกลทุกอย่างมันใหญ่ขึ้น ก็ต้องจัดไปตามนั้นค่ะ เพราะว่าคนเยอะขึ้นไง ก็ต้องมาดูว่าจะเป็นยังไง”
เปิด MUT Shop ประกวดนางงามพร้อมคืนกำไรสู่ชุมชน
หนึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการประกวด MUT2023 ในปีนี้ก็คือ การเปิด MUT Shop เพื่อให้สาวงามแต่ละคนนำผลิตภัณฑ์ของดีในจังหวัดตนเข้ามาร่วมจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนที่เป็นจุดกำเนิดของสินค้านั้นๆ
“แล้วที่สำคัญนะคะไม่เคยรู้เลยว่า ในบรรดาทุกจังหวัดของประเทศไทยเรา มีของดีที่เรามองข้ามเรา ไม่เคยรู้อยู่มากมาย วันนี้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็ได้นำออกมาป่าวประกาศให้รู้กันแล้วล่ะ แล้วไม่ใช่เฉพาะคนไทย ทั่วโลกเขาก็รับชมเราอยู่ แต่ละจังหวัดเขาก็คัดเลือกมา 2 ผลิตภัณฑ์ เราให้ 2 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น เพราะมันก็เยอะแล้วเป็นร้อย ก็จะคัดมาแล้วก็เอามาให้ทาง MUT Shop ได้กระจายสินค้าเพื่อนำเงินกลับคืนสู่จังหวัด สู่ชุมชน หรือสู่คนที่ทำในจังหวัดนั้นๆ นางงามเองก็จะมีรายได้จากการขายของด้วย ลดหลั่นกันไปตั้งแต่ 20% ลงมา เรียกว่านางงามเขาก็แฮปปี้ที่จะทำ แต่เราไม่ได้ไปเน้นการขายของมากไปกว่าเขาจะต้องเป็นนางงาม นั่นเป็นหัวใจหลักค่ะ”
คอนเฟิร์มการประกวดปีนี้จัดเต็มกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“หลังจากที่เข้ากองแล้วบอกเลยว่าจัดเต็ม มันจะหฤโหดมาก แต่แน่นอนค่ะมงกุฎอันล้ำค่าของ Mouawad มีเพียงมงเดียวเรือนเดียว เพราะฉะนั้นใครที่จะเป็นผู้ครอบครองแล้วไปสู่จักรวาล ต้องไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาจริงๆ ปีนี้ต้องสนุก สู้กันสนุกมาก รับรองว่าทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการชาเลนจ์หรือกิจกรรมอะไรก็ตาม จะสนุกมาก มันจะเป็นการขับเคี่ยวเพื่อชิงมงกุฎอย่างแท้จริง จะมีความสนุก มีความยุติธรรม ตัวคัดกรองที่ดีในแต่ละรอบเลยค่ะ”
ขวัญใจแฟนนางงาม และ LGBTQ ตั้งแต่รุ่นใหญ่ไปจนถึงรุ่นเด็ก
ในระหว่างพูดคุย มีกลุ่มแฟนคลับนางงามหลายคนเข้ามาทักทายและรอถ่ายรูปกับ ปุ้ย ปิยาภรณ์ เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือนักเรียนที่เป็นกลุ่ม LGBTQ ที่เข้ามาพร้อมกับเปล่งเสียงเรียก “แม่ปุ้ย” กันอย่างพร้อมเพรียง
“แม่ปุ้ยว่าตรงนี้มันเกิดจากความเข้าใจของเราที่มีต่อเขา คือเด็กวัยรุ่นพวกนี้เขาสื่อได้ ถ้าเราไม่ได้จริงใจกับเขา เขาก็สื่อได้นะ เพราะฉะนั้นไปที่ไหนแม่ปุ้ยก็จะมีลูกๆ ลูกสาว ชายจริงหญิงแท้ ชายไม่แท้หญิงไม่จริงเยอะมาก มาส่งกำลังใจให้กัน ก็น่าเอ็นดูนะไปทุกจังหวัดมีอย่างนี้ทุกจังหวัดเลย น่ารักดี”
“อยากสร้างเยาวชน เพราะเยาวชนพวกนี้ก็คงจะเติบโตไปเป็นนางงามด้วยเหมือนกัน เพราะนางงามกับเด็กเป็นของคู่กันนะ มันเกิดจากแรงบันดาลใจที่เวลาแม่ปุ้ยเห็น เด็กๆ เห็นนางงาม เข้ามาหา เข้ามาขอถ่ายรูป มานั่งตัก มันคงมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดกัน เรื่องของความอ่อนโยน ก็เลยคิดว่าเราควรจะปูพื้นฐานเด็กๆ เหล่านี้ให้เติบโตยังไง ถ้ามีเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ ที่แม่ปุ้ยจะทำได้ ก็จะทำค่ะ”