กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับเรื่องราวของ “หนุ่ม กะลา” หรือ “ณพสิน แสงสุวรรณ” อดีตนักร้องนักร้องนำวง KALA ที่ปัจจุบันได้แยกตัวออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว หลังออกมายืดอกยอมรับเรื่องราวที่เป็นประเด็นข่าวลือควงเมียน้อยไปเที่ยวญี่ปุ่น ระหว่างยังถือทะเบียนสมรสอยู่กับ “จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว” ภรรยาสาวนอกวงการ ที่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนมัธยม ก่อนที่หนุ่มจะเข้ามาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ภายใต้ภาพครอบครัวแสนอบอุ่นของ 3 พ่อแม่ลูก ใครจะรู้ว่าวันหนึ่ง หนุ่มจะตกเป็นเป้าในประเด็นข่าวลือ “นักร้องดังควงเมียน้อยไปเที่ยวญี่ปุ่นตามรอยเมียหลวง” แม้จะยังไม่เห็นภาพของหญิงสาวปริศนาที่ถูกระบุว่าเป็นเมียน้อย แต่ก็ทำให้เกิดแฮชแท็ก #หนุ่มกะลา ติดเทรนด์ขึ้นในทวิตเตอร์ทันที
และนำไปสู่การขุดภาพของหญิงปริศนาคนดังกล่าวขึ้นมาเปิดเผยในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะคลิปเซอร์ไพรส์ของหญิงสาวคนดังกล่าวในงานคอนเสิร์ตของหนุ่ม กะลา ในคอนเสิร์ต MY NAME IS NUM KALA ‘FIRST IMPACT CONCERT’ #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า เมื่อ 18 กันยายน 2565 เล่นใหญ่ด้วยซีนมอบพวงมาลัยพวงยักษ์ให้ทางนักร้องหนุ่มถึงหน้าเวที จนเป็นที่มาขอประโยค รักแท้แพ้พวงมาลัย ที่ชาวเน็ตพูดกัน รวมไปถึงโพสต์บางโพสต์ในเฟซบุ๊กของฝ่ายหญิงในเชิงอยากเปิดตัว
ถูกนำมาสู่การตั้งคำถามหลายอย่างต่อตัวหนุ่มกะลา ทันที
ก่อนที่ในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน หนุ่มได้ออกมาไลฟ์สดเป็นระยะเวลาสั้นๆ พูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยมีการระบุว่ามีการคุยเรื่องหย่ากับภรรยา พร้อมขอโทษไปถึงค่าย แฟนคลับ และครอบครัวตนเอง
“จากสิ่งที่เกิดขึ้นผมขอน้อมรับผิดทั้งหมด ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าอยากใช้พื้นที่เล็กๆ เพื่ออธิบายบางอย่างในส่วนของผม ที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลายกระแสมาก กระแสหนึ่งคือเรื่องสถานะที่เกิดขึ้น สถานะของผมกับครอบครัวตอนนี้ ที่ผ่านมาผมแยกบ้านมาแล้วกับคุณจูนสองปี ได้ย้ายมาอยู่บ้านกับคุณแม่ แล้วก็มีการพูดคุยเรื่องหย่ามาโดยตลอด
ล่าสุดเมื่อสองวันที่แล้วก็ได้คุยเรื่องหย่ากันว่า ตกลงกันว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะพยายามเคลียร์ทุกอย่างให้จบ แต่ผมขอไม่พูดเรื่องของการหย่าหรือรายละเอียดของครอบครัว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอาจจะต้องมีการคุยกันและตกลงกันอีก
กระแสที่สองคือผมสร้างภาพ ผมไม่ดูแลลูก ผมเอาเงินไปเปย์ผู้หญิง ต้องบอกว่าตั้งแต่ผมแยกบ้านออกมาสองปีที่ผ่านมาเงินทุกบาททุกสตางค์จากการเล่นคอนเสิร์ตและงานทั้งหมดที่เห็นในวงการบันเทิง เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยผ่านมือผม เงินที่แกรมมี่จ่ายจะจ่ายทางจูน เข้าบ้านทั้งหมด ซึ่งผมจะไม่ได้จับเงินนั้นแม้แต่บาทเดียว 100% ของรายได้ทั้งหมด
ส่วนเรื่องลูกที่ผมไม่มีเวลาดูแล ผมจะอธิบายว่าด้วยคิวงานที่เยอะ จริงๆ แล้วทุกวันที่เป็นคิวงานวันที่ว่างของผม จะเอาเวลาไปดูแลลูกตลอด ถ้าใครตามเฟซบุ๊กส่วนตัวของผมจะเห็นว่าทุกวันที่เป็นวันว่างผมแทบจะอยู่กับลูกตลอด และไม่ว่าสถานการณ์จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นผมก็ยังดูแลน้องมิลล์ต่อไปให้ดีที่สุด
ท้ายที่สุดนี้ผมขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง (ยกมือไหว้) ขอโทษจากใจ ขอโทษที่ทำสิ่งไม่ดีในครั้งนี้ (ยกมือไหว้) ขอบคุณทุกคนมากๆ”
ย้อนเส้นทางรักของหนุ่มและจูน จากเพื่อนสู่คู่ชีวิต
ในงานแต่งงานของหนุ่มและจูนในปี 2553 หนุ่มเล่าว่า “รู้จักกันมา 14 ปี รู้จักกันโดยพี่สาวของฝ่ายหญิง บังเอิญว่าเขาไปดูผมซ้อมดนตรีวงโยธวาทิตเมื่อ 14 ปีที่แล้วได้เจอเขา ตอนนั้นไปจีบเขาแล้วผมก็ทำเดโมส่งค่ายเพลงต่างๆ ซึ่งเขายังหาว่าทำไมผู้ชายคนนี้ขี้โม้ในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“จากวันนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ ผมไม่แน่ใจเวลานักนะครับ แต่ว่าสักพักหนึ่งก็เริ่มชวนเข้าบ้าน เริ่มจริงจัง ผมไปบ้านเขาตั้งแต่แรกๆ ผมจะชวนเขามาบ้านเพราะว่าถ้าเขารับได้ในสภาพที่บ้านผมค่อนข้างจะแย่ ค่อนข้างจะมีฐานะยากจน ถ้าเขามาแล้วเขารับได้กับสิ่งที่เราเป็น ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ถ้าได้เราคุยเรื่องอนาคตกันได้แล้ว ก็พาเข้าบ้าน เขาก็โอเคครับ”
“จริงๆ แล้วเราอยู่กันแบบเพื่อน ผมคบกับเขาตั้งแต่ก่อนจะเข้าวงการ ตั้งแต่ความฝันผมยังเป็นฝุ่นธุลีอยู่เลย จนบางทีเขาดูแลผมทุกอย่างในสิ่งที่ผมบอกว่าอดทน เขาไม่ได้อดทนเพราะว่าทนอยู่ จริงๆ เขาอดทนที่จะดูแลเรา ดูไปถึงครอบครัวเราผมไม่แน่ใจว่าคู่อื่นจะมีแนวคิดยังไง แต่ว่าตัวผมเองคิดอยู่อย่างเดียวว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์หรือนอกลู่นอกทางยังไง ผมเลือกเขาเท่านั้นเลย สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกมาตลอด 14 ปี ไม่ว่าจะเลี้ยวไปซ้ายหรือเลี้ยวไปขวา อย่างเดียวที่ผมยังยืนยันก็คือผมเลือกเขาตลอดเวลาครับ“
และเป็นที่มาของเพลง “หยุด..เพราะเธอ” เพลงพิเศษในค่ำคืนวันวิวาห์ที่หนุ่มตั้งใจแต่งให้กับจูน ทั้งคู่ครองรักกันมานานถึง 27 ปี พร้อมกับมีทายาทเป็นลูกสาววัยกำลังน่ารักน่าชังคนหนึ่งเป็นพยานรัก และภาพครอบครัวที่สุดแสนจะอบอุ่นเปิดเผยให้ได้เห็นมาโดยตลอด จนกระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ดราม่าของหนุ่ม กะลา ในครั้งนี้ ทำให้หลายคนย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของ “ป๊อป ปองกูล สืบซึ้ง” นักร้องหนุ่มเสียงดีเจ้าของตำนานโลก 2 ใบ รักสามเส้าที่กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในปี 2562 ระหว่างแฟนสาวที่แอบคบและแฟนปัจจุบันที่ประกาศจะแต่งงานด้วย จนเจ้าตัวต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวทั้งน้ำตา ขอโทษฝ่ายหญิงทั้งสองคน
“ผมรังเกียจตัวเองมาก ผมหลับไปกับมัน และผมตื่นมากับมัน คือความรู้สึกนั้นมันอยู่กับผมมาตลอด ความขี้ขลาดของมึง มันสร้างปัญหาให้เกิดกับคนอื่นมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ โบว์ ไม่ใช่แค่ปลา แต่เป็นคนรอบข้าง ครอบครัว และคนทุกคน” คำตอบของป็อป ปองกูล ในวันนั้น ก่อนจะเคลียร์ทุกอย่างให้จบสิ้น เพื่อไม่ให้มีใครถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ โดยเลือกจะมีคนรักเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นคือ “ปลา” ส่วน “โบว์” จบลงในฐานะเพื่อนและหุ้นส่วนธุรกิจ
และทิ้งท้ายว่า “ขอสังคมอย่าต่อว่าผู้หญิงทั้งคู่ เพราะความผิดทั้งหมดอยู่ที่เขาเอง ที่เป็นคนสร้างโลก 2 ใบขึ้นมา และโกหกเรื่องทั้งหมดผมเป็นคนโกหกทุกอย่าง อันไหนที่ผมโกหกแล้วไม่สำเร็จ ผมจะทำให้มันสำเร็จทุกครั้ง เพราะฉะนั้น ในฝั่งของผู้หญิงสองคน เขาไม่เคยทำผิดพลาดเกี่ยวกับความรักเลย”
บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของป๊อป ปองกูล ที่ยังคงถูกนำมาพูดถึงทุกครั้ง ที่มีกรณีคนดังในวงการบันเทิงเกิดประเด็น “คบซ้อน”
และกับกรณีหนุ่ม กะลา เองก็เช่นกัน ถูกถามถึงความผิดชอบชั่วดีจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวลานี้ พร้อมการประกาศเลิกสนับสนุนจากแฟนคลับบางส่วน และประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ ที่รับไม่ได้กับเรื่องการผิดศีลธรรมของคนในวงการบันเทิง
ด้าน “จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว” หลังจากที่ทางหนุ่มออกมาไลฟ์ชี้แจง เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าตัวก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้
“ขอบคุณทุกๆ คนที่ส่งกำลังใจมานะคะ ตอบไม่หมดจริงๆ แต่ความจริงก็คือความจริงค่ะ ต่อให้คนอื่นไม่รู้ เรานี่แหละรู้อยู่แก่ใจ อะไรผิดอะไรถูก ก็ให้ไปว่ากันตามกฎหมาย เพราะถ้าคิดจะออกมาพูดคงพูดไปตั้งนานแล้ว ไม่รอจนถึงวันนี้หรอกค่ะ ต่อจากนี้ก็ Move on หมดเวลาอ่อนแอจริงๆ แล้วค่ะ ขอใช้ชีวิตแบบมีความสุขอยู่กับลูกนะคะ #ทีมเมียหลวง”