เปิดตัวกับการเป็นคู่จิ้นที่มีเคมีไม่แพ้คู่ใด สำหรับ 2 นักแสดงหนุ่มฮอต ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง และ บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล ในซีรีส์แนวรักใสๆ ” ใครคืออองชองเต ” มาปีนี้ ทั้งคู่กลับมาอีกครั้งพร้อม เสิร์ฟความฟินขั้นสุดลงซีรีส์เรื่องใหม่ ชอกะเชร์ คู่กันต์ A Boss and a Babe ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ กับความสัมพันธ์ลับๆ ของ BOSS ที่อยากขยับไปเป็น BABE งานนี้ทีมงาน FEED ไม่พลาดที่จะไปกระเทาะเปลือกหัวใจ ของทั้งคู่ให้ได้รับรู้กันอีกครั้ง

สวัสดีครับ ฟอส จิรัชพงศ์ รับบทเป็นกันต์ครับ
สวัสดีครับ บุ๊คครับ ในเรื่องรับบทเป็นเชร์ครับ

ความรู้สึกต่อตัวเองใน วินาทีนี้

ฟอส ก็ดีนะครับ รู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตดี มีความสุขดี มีงานทำทุกวันก็ชิวอยู่แล้ว พวกผมยังเด็กอยู่ ยังไฟแรง สบายครับ
บุ๊ค ก็เหมือนกันครับ ก็ดีครับ มีงานทำ และมีเวลาว่างให้กับตัวเองด้วย ก็ยังสมดุลชีวิตตัวเองได้ดีอยู่ครับ

ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง 
 บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล
ฟอส จิรัชพงศ์ – บุ๊ค กษิดิ์เดช

ชีวิตกำลังมีความสุขกับอะไร

ฟอส ก็มีความสุขกับซีรีย์ที่เราตั้งใจแสดง กำลังจะออน์แล้ว พวกผมก็รอมานานเหมือนกัน ตั้งแต่วันที่ประกาศรายอัพขึ้นเวทีจนมาวันนี้ก็ดีใจมากๆ ที่ซีรีส์กำลังจะได้ออน์แล้ว
บุ๊ค ก็เหมือนกันครับ จริงๆถ้านับตั้งแต่ที่เราแคสบทเชร์กับกันต์มา ผมไปนั่งนับมาเมื่อวันก่อนเกือบ 10 เดือนแล้วครับ เกือบปีแล้วเหมือนกันครับ ที่ผมได้รับบทเชร์มา ฟอสได้รับบทกันต์มา ตอนนั้นเรานั่งคุยกันว่า เราจะทำมันได้ไหม เราจะเข้าคาแรคเตอร์ตัวละครเป็นยังไง ตอนแรกเขาจะกังวลนิดนึง เพราะว่าด้วยความที่ตัวละครก็มีสิ่งที่คล้ายเขา แล้วก็ไม่เหมือน เขาก็เลยกลัว ว่าจะทำมันได้รึป่าว ผมกับพี่นิวก็เลยต้องสร้างความมั่นใจให้กับเขา โดยการบอกว่ามึงทำได้เพื่อน อย่าไปเครียด แค่สนุกไปกับมันก็พอ
บุ๊ค พอมาถึงวันนี้แล้วซีรีย์จะออน์ ก็เลยรู้สึกว่ามันใกล้แล้วนะ รู้สึกดีใจ ภูมิใจ ตื่นเต้น แล้วก็ลุ้นด้วยทุกอย่างเลยครับ

จากวันแรกในวงการบันเทิง จนถึงวันนี้เราได้อะไรมาบ้าง

ฟอส จริงๆ ได้อะไรจากวงการบันเทิงมาเยอะมากเลยครับ ก็หลายๆอย่าง เอาจริงพวกผมยังใหม่อยู่ ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วก็มีรุ่นพี่หลายๆคน ที่เขาให้คำแนะนำว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่ควรทำอะไรบ้าง คือเหมือนทำอะไรก็ต้องคิดให้เยอะครับ เพราะว่าก่อนที่เราจะเข้าวงการเราจะทำอะไร จะคิดอะไร หรือจะแสดงออกยังไงมันก็เป็นเราชะส่วนใหญ่ บางอย่างที่เป็นตัวเองมากเกินไป ถ้าสื่อสารออกไปไม่ดี เด็กก็อาจจะเอาไปทำตามได้ เราก็คงต้องกรองวิธีคิดเยอะขึ้น

บุ๊ค เอาจริงก็คล้ายๆกันนะครับ ถ้าสมมุติในพาร์ทของการทำงานในด้านการพูดออกสื่อ ก็รู้สึกว่าได้จากพี่ๆ เพื่อนๆ หรือคนที่เขาอยู่มาก่อนเรา เขาก็ค่อยแนะนำ ส่วนถ้าเป็นเรื่องของการแสดงเราก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเรา ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดมาเลยครับว่าจะมาเป็นด้านนี้ หรือว่าสิ่งที่เราเรียนมาเลยครับ

เคยวาดฝันว่าจะมาอยู่จุดนี้ไหม

บุ๊ค ถ้าให้พูดจริงๆ ก็ไม่เคยคิดเลยครับ ตั้งแต่เด็กแล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้มาอยู่จุดนี้ แต่เหมือนโชคชะตามันนำพามา ก็เลยได้มาอยู่จุดนี้

ฟอส ผมตอนแรกก็ไม่ได้ชอบงานในวงการนะครับถ้าพูดตรงๆ เหมือนพอเราได้มาทำ ได้มาทำเรื่อยๆ ก็เริ่มรักมัน จากตอนแรกเฉยๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นชอบ เพราะว่าพอเราได้ทำไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าสนุกดี การได้เจอคน การได้เล่น การได้แสดง ผมก็มีความสุขกับมัน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดเหมือนกันครับ ความฝันเด็กๆคืออยากเป็นนักบินอวกาศ อยากไปอยู่บนท้องฟ้า อยากไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ พอโตมากลายเป็นนักแสดงเฉยเลย แต่ก็เอาจริงผมก็เป็นเด็กกล้าแสดงออก มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่าพอได้มาทำ ผมก็มีความสุขกับมันครับ รู้สึกชอบ สนุกดี แล้วพวกผมก็ยังใหม่ ยังต้องเก็บประสบการณ์ไปอีก เพราะว่ามันก็ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างให้พวกเราได้เรียนรู้

ชีวิตทามกลางสปอร์ตไลท์ยากไหม

ฟอส มันก็ต้องมีมุมเหมือนที่เราจะทำอะไรก็จะเป็นจุดสนใจบ้าง ยอมรับว่าบางอย่างเราก็ต้องปรับตัวเรียนรู้กับมัน พาร์ทก่อนที่เราจะเป็นนักแสดงเราค่อนข้างชิว เราจะแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอเหมือนแบบมีแสงมาส่องที่เรา ด้วยความที่แสงส่องมาก็จะมีแฟนคลับที่เป็นเด็กเขาดูเราด้วย เป็นแฟนคลับเราด้วย เราก็คงต้องแคร์ต้องนั้นให้มากๆ ว่าการกระทำของเรามันคงมีผลออกไป ถ้าสมมุติเราทำอะไรไม่ดี มันอาจทำให้เด็กทำตามได้ ต้องกรองตรงนั้นให้มันดีหน่อย

บุ๊ค เอาจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกแบบว่า คือเอาจริงๆบุ๊คเป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ทามกลางสปอร์ตไลท์ขนาดนั้นอะครับ เป็นคนที่รู้สึกอย่างนั้นอะครับ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนธรรมดา เราก็ใช้ชีวิตธรรมดาของเรา แต่ว่าเราก็รู้ตัวนะว่ามีคนรู้จักเรา มีคนให้ความสนใจเรา เราก็ดีใจ สำหรับตัวบุ๊คเอง บุ๊คก็ใช้ชีวิตธรรมดา กินข้าวธรรมดา กินข้าวแกงธรรมดา อยู่กับที่บ้านธรรมดา ไม่ได้รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนไปขนาดนั้น

บุ๊ค คำพูด หรือการกระทำบางอย่างที่มันดูไม่ดี ที่เด็กๆทำแล้วมันอาจจะดูไม่ดี อาจจะแสดงออกมากไม่ได้

ฟอส อาจจะเป็นการกระทำที่เราไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าคนมองเข้ามาอาจจะไม่เข้าใจเพราะว่าเขาไม่รู้จักบุ๊คมาก่อน

พอใจไหมกับจุดที่ตัวเองยืนอยู่ ณ ตอนนี

ฟอส เอาจริงก็มีความสุขนะครับ สมดุลชีวิตก็โอเค ได้ยืนอยู่ตรงนี้ ผมรู้สึกโชคดีกว่าใครหลายๆคนมากๆ ขอบคุณผู้ใหญ่มากๆที่มองเห็นโอกาส และก็เห็นอะไรในตัวผม มันก็ยากเหมือนกัน ที่จะหาคนมายืนจุดนี้ มีไม่เยอะ และก็อยากบอกน้องๆทุกคนที่อยากเข้าวงการนะครับ ให้มั่นใจเข้าไว้และก็แสดงออกมาครับ ทำอะไรก็มั่นใจเข้าไว้

บุ๊ค จริงๆก็รู้สึกว่าตัวเองเดินมาไกลแล้วเหมือนกันครับ จากกษิดิ์เดช ปลูกผล ณ วันที่เรียนจบแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปในด้านไหน เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ตามหาชีวิตอยู่ครับ เราก็โยนหินถามทางไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งเราก็รู้แล้วว่าทางที่เราเลือกเดินคือทางนี้ เราก็มาไกลจากตรงนั้น ไกลมากๆแล้ว ตอนนี้เราก็ภูมิใจที่มีคนรัก คนชอบ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ

ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง 
 บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล
ฟอส จิรัชพงศ์ – บุ๊ค กษิดิ์เดช

กว่าจะมีวันนี้เส้นทางนี้มันยากเย็นแค่ไหนสำหรับเรา

ฟอส สำหรับผมมันก็ยากมากเหมือนกันครับ ถ้าพูดตรงๆก่อนที่ผมจะได้งาน ได้ซีรีย์ เมื่อก่อนผมเป็นเด็กอยู่ที่ทาวน์อินทาวน์ ผมแคสงานวันละ 5 งาน ถ้าเอาปี 2018 ผมแคสงานน่าจะมี 60- 70 งาน ผมได้งานแค่ 2 ตัวเอง ซึ่งเอาจริงมันยากมากเหมือนกัน มันเหนื่อยมากกับการที่เราแข่งกับคนอื่น กับเด็กเป็น100คน อย่างซีรีย์เรื่องนี้ ตอนนั้นก็อองชองเตคนก็เป็น 1000 ผมว่ามันยากมากๆ เอาจริงมันยากมาก ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ถ้าเด็กจะเข้ามาในวงการนี้ คือเราจะเอาทางนี้ทางเดียวมาเป็นสิ่งนำพาชีวิตเราก็ไม่ได้ ควรทำอย่างอื่นเสริมตรงนี้ไปด้วย ไม่งั้นมันจะอยู่ค่อนข้างยาก ถ้าสมมุติว่าเรามีแค่ทางนี้ทางเดียวคือเราต้องประคองชีวิตของเราไปด้วยเพื่อให้เราทำตามความฝันไปได้ ก่อนที่จะได้เข้า Gmm tv ผมก็ล้มลุกคุกขานมาบางเหมือนกัน ค่อนข้างเยอะ มันก็มีท้อไปบ้างครับ ช่วงปีสุดท้ายแล้วผมอยู่ตรงนี้มา2-3ปี ผมก็เคยคุยกับที่บ้านว่าทางนี้มันเหนื่ออยจังเลยอะมี้ คือเราทำไปไม่รู้ว่ามีใครเห็นรึป่าว แต่ผมก็โชคดีด้วยที่ผู้ใหญ่เขาเห็นโอกาส และก็มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวผม ก็ขอบคุณมากๆครับ มันยากจริงๆ


คือผมก็ตอนนั้นเหมือนเป็นปีสุดท้ายแล้ว ผมให้เวลากับตัวเองเลย ถ้าสมมุติปีนี้ไม่ได้ ไม่เอาแล้ว ผมต้องไปทำอย่างอื่นแล้วเพราะว่าตอนนั้นผมก็เรียนจบแล้ว ช่วงเรียนจบผมก็แคสงานบ้าเลย แคสเท่าไรก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง สมมุติว่าแคสไป 10 งาน เราเข้ารอบเหลือ 3 คน 5 คนทุกงาน จนเหลือ 2 คน เขาก็เลือกอีกคนหนึ่ง ผมก็ท้อเหมือนกันครับ อย่างช่วงโควิดทำให้ชีวิตเราหยุดนิ่งไปสักพักนึง มันยากมาก ผมยังคิดเลยว่าผมผ่านมันมาได้ยังไง

บุ๊ค จริงๆมันก็คงคล้ายๆกับฟอสอะครับ มันก็คงเป็นความฝันของเรา จริงๆผมไม่ปฎิเสธนะว่าผมก็อยากประสบความสำเร็จในด้านวงการบันเทิง อยากมีคนติดตาม อยากมีคนรักเยอะๆ อยากมีแฟนมีต อยากมีคอนเสริท์ อยากทำนู้นนี่นั่น ที่เขาทำกัน ซึ่งความฝันนั้นมันก็ไม่ได้มาง่ายๆ โดยส่วนตัวผมไม่ได้เป็นคนกล้าเสดงออกขนาดนั้น

ฟอส เขาเป็นเด็กขี้อาย

บุ๊ค ผมก็พยายามดันตัวเองให้ตัวเองสู้ขึ้นในทุกๆวัน ซึ่งมันก็ดีครับ พยายามออกมาจากพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง


 บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล
บุ๊ค กษิดิ์เดช

ได้กำลังใจมาจากไหน

ฟอส ส่วนหนึ่งก็คนรอบข้างด้วย แม่เขาก็ให้กำลังใจ พูดตรงๆตอนนั้นเงินก็น้อยแต่สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าผ่านมันมาได้ยังไง แต่มันผ่านมาได้ครับ เหมือนเราอยู่สถานีรถไฟ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไร แต่ผมโชคดีที่รถไฟมันมา แต่ถ้าถามผมว่าผ่านมันมาได้ยังไง ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

บุ๊ค ผมเคยคุยเรื่องนี้กับฟอสจนผมร้องไห้เหมือนกัน

กระแสคู่จิ้นสำหรับเรา 2 คน

ฟอส ก็แปลกใหม่มากครับ มันเหมือนเรายืมอยู่ริมหาดทรายแล้วสึนามิมันพัดเข้ามาตูม เราก็แบบตกใจ เพราะเราไม่เคยเจอมาก่อน ตอนแรกก็รับมือไม่ค่อยถูกเหมือนกันครับ ตอนนั้นก็ยังจัดการกับบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ เพราะพวกผมก็ยังใหม่ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดว่าจะมีคนรักมากมายขนาดนั้น ก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่เอ็นดูเราด้วยนะครับ

บุ๊ค ก็ดีใจมากๆครับ มันมีครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่บุ๊คกับฟอสไปทำงานมา แล้ววันนั้นเป็นวันที่บุ๊คเหนื่อย มันไม่ได้เหนื่อยงานอะครับ มันเหนื่อยใจ เหมือนเราหมดแพชชั่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เรากลับมาจากการทำงาน เรากลับมาที่ตึก Gmm นั่งรถตู้มา แล้วมีแฟนคลับเอาขนมมาให้กล่องหนึ่ง แล้วเขาเขียนจดหมายมาว่า รอติดตามรายการอยู่นะ เป็นกำลังใจให้นะ เรารู้สึกประทับใจมาก ในสิ่งที่เราทำอะ มีคนรอดูอยู่ มันไม่ใช่ไม่มีคนรอ ผมรู้สึกว่าดีจัง ที่มีคนที่เขารักเราจริงๆ มันมีค่ามากๆในวันที่เราท้อมากๆ อยากจะบอกแฟนคลับทุกคนนะครับว่าทุกกำลังใจผมได้รับจริงๆ ขอบคุณมากๆ และผมก็อยากเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนเหมือนกัน

ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนเป็นอย่างไร

ฟอส ก็รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาลครับ เราเรียนอนุบาลที่เดียวกัน พอไปเรียนประถมเราก็เรียนที่เดียวกัน พอย้ายไปมัธยมเราก็เรียนที่เดียวกัน ซึ่งตอนที่เรียนประถมบ้านเราอยู่ใกล้กัน แล้วก็นั่งรถตู้คันเดียวกันกลับบ้าน เพราะบ้านเราใกล้กัน และช่วงมัธยมเราก็เห็นกันมาตลอด มาแยกกันจริงๆก็ตอนมหาลัย เพราะว่าบุ๊คก็ไปเข้ามหาลัยรัฐบาล ส่วนผมก็ไปเข้าเอกชน ซึ่งช่วงนั้นเราก็จะไม่ได้เจอกันเลย 4 ปี ไม่เจอกันเลย มาเจอกันอีกทีตอนที่รู้ว่าได้เล่นอองชองเตคู่กัน

บุ๊ค เอาจริงป่ะ พวกผมยังจำได้อยู่เลยโมเมนต์นั้น

ฟอส ตกใจครับ ก็เปิดประตู่เข้ามา บุ๊คก็เอ้าไอ้ฟอส ผมก็เอ้าเฮ้ยไอ้บุ๊ค นี่มึงเล่นเรื่องเดียวกับกูหรอ ผมก็บอกใช่กูเล่นเรื่องเดียวกับมึง อ่าใช่ แล้วพี่ผกก.เขาก็ถาม เอ้านี่พวกมึงรู้จักกันหรอ โอเคกูสบายใจแล้ว ประมาณนั้นครับ

ฟอส - จิรัชพงศ์ ศรีแสง
ฟอส จิรัชพงศ์

ไลฟ์สไตล์ของเราสองคนเป็นยังไง

ฟอส เอาจริงค่อนข้าง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และความชอบ พวกเรานี่คนละขั่วเลยครับ


บุ๊ค ต่างครับ แบบคนละขั่วกันเลย


ฟอส บุ๊คเขาจะมีมุมที่ค่อนข้างลึกลับ เขาชอบเข้าถ่ำ ชอบอยู่ในพื้นที่ของเขา ช่วงนั้นเขาค่อนข้างเหมือนจำศีล หายๆไปหน่อย ส่วนผมออกแนวเป็นหนุ่มลั้นลา ออกไปเจอเพื่อนคนนู้น คนนี้ ใครชวนไปไหนก็ไป แต่สุดท้ายเราก็หาตรงกลางได้ ยอมรับว่าช่วงแรกๆก็เหนื่อยเหมือนกันช่วงนั้น ที่ยังจูนกันไม่ได้ ถ้าพูดตรงๆนะ เวลาชวนบุ๊คไปที่ไหน บุ๊คก็จะไม่ไป ไว้วันหลังแล้วกัน แต่ตอนนี้มีความสุขแล้ว หาตรงกลางให้กันได้แล้ว

บุ๊ค เอาจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเราคุยกัน เราคุยกันมากขึ้นแล้วเหมือนเขาก็กลายมาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา เราคุยกันไปเรื่อยๆจนเราเริ่มคุยปรึกษาเรื่องนู้น เรื่องนี้กัน มีเรื่องเครียดเราก็ปรึกษากัน แบบเอ้ยมึงเป็นไรมั้ย ตอนที่เราเครียด จนเรารู้สึกว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่เราไว้ใจเขาได้มากๆคนหนึ่ง จนเขามาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา เราก็เลยรู้สึกว่าเวลาเราไปไหนกับเขา ก็สบายใจดี

เคยโดนเรียกเข้าห้องเย็นไหม

ฟอส มีสิครับ

บุ๊ค มีครับ เป็นเรื่องปกติ

ฟอส เป็นเรื่องปกติครับ แต่ว่าถ้าพูดตรงๆ พี่ถา (สถาพร พานิชรักษาพงศ์ )เขาเป็นผู้ใหญ่ครับ เขาไม่เคยดุเลยนะครับ เขาไม่เคยดุ แรกๆก็กังวล เขาจะดุเรารึป่าว เอาจริงเขาไม่เคยดุเลยครับ เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาเยอะแล้ว เขาทำงานกับคน เขาก็เจอเด็กมาหลายแบบ เขาเข้าใจธรรมชาติของเด็ก เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีข้อแนะนำตลอดซึ่งก็ขอบคุณพี่ฐามากๆนะครับที่ค่อยชี้ทาง ชี้แนะ ให้พวกเราเสมอ แต่ที่เรียกไปเพราะเขาอยากให้มันดีขึ้น ไม่ได้เรียกไปด่า หรือว่าอะไรเลย ไม่เคยโดนพี่ถาด่านะครับ พูดจริงๆ ไม่เคยเลย

บุ๊ค เหมือนเรียกไปแนะนำมากกว่าครับ แนะนำให้เราพัฒนาขึ้นมากกว่า ไม่ได้ตักเตือนอะไร

ฟอส บางทีที่แบบว่ามีอะไร ต่อให้เราจะคุยกันทุกเรื่อง แต่มันก็มีบางอย่างที่ปากเราบอกว่าไม่มีอะไร แต่พี่ฐาเขาเก่ง เขาดูออก เราก็รู้สึกปกติ แต่พี่ฐาเขาว่ามันไม่ปกติอะ ไหนลองมาคุยกันหน่อย ตอนนั้นผมก็งงเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้มีอะไร ไม่ได้เป็นอะไร ผมสบายดี แต่พี่ถาบอกมามันมี เขาบอกว่าตรงนี้เหมือนเป็นพื้นที่ของเรา ไม่มีใครตัดสินใครพี่แค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราลองคุยกันไหม บอกมุมมองของกันและกัน ด้วยความที่พวกผมอายุเท่ากัน บุ๊คก็เป็นไฟ ผมก็เป็นไฟ บางอย่างด้วยความที่มันอายุเท่ากัน มันจะมีความไม่ยอมกัน บุ๊คไม่ยอม ผมก็ไม่เคยยอม มันก็เลยจะเหมือนสู้กันตลอดเวลา แต่พี่ถาเขาเป็นผู้ใหญ่ไงครับ เราคิดเหมือนเขาไม่ได้ ด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่เขาจะมีคำพูด และมุมมองที่เขาโตกว่าเรา ผมก็โอเคพี่ชี้แนะผมได้จริงๆ แต่เราคุยกันเองไม่เข้าใจ เขาใส่ใจเด็กทุกคน

บุ๊ค เหมือนเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ ในตอนที่เรามีปัญหากัน บางทีมันเป็นปัญหาที่เราไม่กล้าพูดกับเขาตรงๆ บางทีฟอสก็ไม่กล้าพูดกับบุ๊คตรงๆ เราถามกันนะว่ามีอะไรรึป่าว เราก็ไม่กล้าพูดกัน เหมือนมันไม่ไว้ในใจกัน

ฟอส บางอย่างเราก็ช่างแม่ง ไม่สนแล้ว ปล่อยไป เราเข้าใจกันแล้ว แต่พี่ถาจะแบบไม่ได้ เขาก็อยากให้เด็กเข้าใจกัน รักกัน แล้วก็อยากให้จับมือไปด้วยกันครับ

ตอนนี้เปิดใจให้กันขนาดไหน

ฟอส ทุกเรื่องครับ บางทีบางเหตุการณ์ผมก็จะบอกบุ๊คตรงๆว่าแบบนี้ไม่ใช่แล้ววะ ถ้าผมรู้สึกไม่โอเคผมจะพูดเลย แต่ผมจะเก็บก่อน แล้วระเบิดทีเดียว บุ๊คก็จะคล้ายๆผม จะมีบางครั้งที่บุ๊คเข้ามาถามว่าฟอสมีอะไรไม่พอใจรึป่าว ผมก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่ด้วยความที่คนมันทำงานด้วยกัน ความสนิท ก็ต้องมีกระทบกันบ้างในเรื่องของการทำงาน เพราะเราสองคนก็เติมโตกันมาคนละแบบ มุมมองเราก็มีไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นมันก็มีบางครับ ด้วยความสนิท คนที่มันสนิทกันมากๆ ยังไงมันก็ต้องมีทะเลาะกันบาง คือถ้าไม่สนิทกันก็จบ ไม่มีอะไร

บุ๊ค ตั้งแต่เราเข้าไปเคลียร์กันในห้องเย็น ตั้งแต่วันนั้นเราก็เหมือนปลดล็อคอะไรสักอย่างหนึ่ง ของกันและกัน จนสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องมากขึ้น เอาจริงๆ ก็ยังไม่มีอะไรที่มันตรงกันขนาดนั้นนะครับ แต่ว่ามันก็เข้ากันได้แบบงงๆ

ฟอส เราคุยภาษาเดียวกันมากขึ้น เหมือนเขาเข้าใจผมแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ ผมทำไปเพื่ออะไร แล้วผมก็เข้าใจเขาแล้วว่าเราสามารถเข้ากันได้ มันไม่มีอะไรที่มันเหมือนเดิมตลอดไป เราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ในทุกวัน ซึ่งผมก็มีความสุข ถ้าพูดตรงๆ บุ๊คจะเป็นคนเอื่อยๆ เชื่อยๆ แต่ผมจะเปิดอยู่ตลอดเวลา ผมชอบคนตื่นตัว แต่บุ๊คค่อนข้างชิว สบายๆ ตรงนี้ก็เลยทำให้มีปัญหากันนิดนึง

เป็นความต่างที่มาเติมเต็มให้กันและกัน

ฟอส ใช่ครับ


บุ๊ค มันเป็นความต่างที่แปลกดีเหมือนกันนะ เหมือนเราเที่ยวที่เดียวกันมากขึ้น เราคุยกันง่ายขึ้น เหมือนใจเราตรงกันมากขึ้น มองมุมเดียวกันมากขึ้น


ฟอส มองเห็นภาพเดียวกัน อย่างตอนแรกอาจจะมองไม่เห็นภาพเดียวกัน ยังไม่เข้าใจกัน ตอนนี้ก็เริ่มมองภาพไปในทิศทางเดียวกันแล้ว เราสามารถเห็นภาพใหญ่ร่วมกันได้ ซึ่งตอนแรกไม่เห็นเลย ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ขอบคุณพี่ถานะครับ

ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง 
 บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล
ฟอส จิรัชพงศ์ – บุ๊ค กษิดิ์เดช

เป้าหมายต่อไปของเราคืออะไร

ฟอส เอาจริงก็ ถ้าพูดตรงๆพวกผมก็อยากบียอน เหมือนทะลุเพดานขึ้นไปเรื่อยๆ อยากทำให้มันดีขึ้น อยากเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นมากกว่าเราเป็นแค่นักแสดงซีรีย์วาย อยากให้คนที่รัก ชอบเรา ดูผลงานเราแล้วชมว่า พวกน้องแม่งสุดยอด อยากจะดีขึ้นในทุกๆวันเหมือนกัน นั่นคือความฝันของผมเลย

บุ๊ค เหมือนกันครับ อยากให้มีคนชมผลงานเรา อยากให้เขาเรียกเราที่เป็นตัวละครนั้นอะครับ ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เพราะเขาอินกับตัวละครนั้นมากๆ รู้สึกว่าเขารักตัวละครเหมือนที่เรารัก แค่นี้ก็รู้สึกดีมากๆแล้ว

ผลงานซีรีส์ชอกะเชร์ คู่กันต์ A Boss and a Babe

ฟอส ผมตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นบุ๊คที่ค่อนข้างเครียดเหมือนกับที่ได้รับบทมา ผมก็คอยบอกว่าอย่าไปเครียด ตัวละครเชร์มันสนุกมากเลยนะ อย่าเครียดว่าจะทำไม่ได้ ด้วยความตัวละครเชร์กับบุ๊คก็มีความที่เหมือนกันอยู่แล้ว เหมือนสิงกัน แต่ตอนนี้แค่เครียดไปหน่อยจนทำให้มันไม่ค่อยไหลลื่น พอละลายพฤติกรรมแล้วมันก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ก็มีบางพาร์ทที่ยากเหมือนกัน แต่ก็มีส่วนที่ง่ายของตัวกันต์ที่มันเชื่อมโยงกับผมเหมือนกัน ในส่วนที่ยากมันก็มีครับ

บุ๊ค จริงๆแล้วบุ๊คเป็น Introvert เป็นคนที่ไม่ได้แสดงอารมณ์มากมายครับ กับคนที่เรารู้จักหรือคุ้นชิน ซึ่งตัวเชร์เขาเป็นคนที่ Extrovert เป็นคนร่าเริงมากๆ เราเลยรู้สึกกังวลมากๆกับบทที่เราจะได้รับ ว่าเราสามารถจะเป็นเขาได้จริงๆรึป่าว ซึ่งพอเรามานั่งหาตัวละคร เราก็ถามฟอส ถามพี่นิวผกก. และไปนั่งเวิร์กชอปด้วยกัน อย่างฟอสก็บอกบุ๊คว่า เชร์ก็คือบุ๊คในตอนเด็ก ตอนที่ชีวิตยังไม่ได้เจอโลกมากมายขนาดนั้น ยังไม่มีสิ่งที่ต้องให้เครียดหรือภาระที่ต้องแบกรับ แล้วผมก็มานึกว่าตอนที่ผมอยู่กับคนใกล้ชิด อยู่กับพ่อแม่ อยู่กับพี่ อยู่กับเพื่อนตอนมัธยม เชร์มันคือผม ผมก็เลยดึงพาร์ทนั้นของตัวเองมาเป็นเชร์ ผมรู้สึกผูกพันธ์กับเชร์มากเหมือนผมได้ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่มัธยม

เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้เป็นยังไง

ฟอส ก็ในเรื่องผมรับบทเป็นกันต์นะครับ เป็นเจ้าของบริษัทเกมที่ไม่รู้เรื่องเกมส์เลย เซร์เป็นเด็กฝึกงานและเป็นเกมเมอร์ และมีทำช่องเกมส์ที่เป็น ASMR ที่ปิดหน้า ไม่เห็นหน้า ทีเด็ดก็คือบอสเป็นโรคนอนไม่หลับ แย่จังเลยทำไงดี

บุ๊ค แต่จะนอนหลับได้เขาต้องฟัง ASMR ช่องผม

ฟอส ซึ่งปิดหน้า จนวันหนึ่งเซร์ได้เข้ามาฝึกงานที่กรุงเทพฯ แล้วเข้ามาที่บริษัทซึ่งทำอะไรไม่รู้ แต่ดันไปเข้าตาบอส ต้องรอดูนะครับ บอสก็เลยเรียกเข้ามาพบ พอได้เจอคุณ พอได้ยินเสียงคุณ ผมจำเสียงคุณได้ หลังจากนั้นก็เลย ด้วยความที่เป็นเจ้านาย ก็สั่งว่าคุณต้องโทรมาคุยกับผมทุกคืน เพื่อทำให้ผมนอนหลับ ผมจะนอนไม่หลับถ้าผมไม่ได้ยินเสียงคุณ อันนี้คือเรื่องย่อ

บุ๊ค หลังจากนั้นก็เลยเกิดเป็นคนสัมพันธ์ภายในบริษัท หลังจากนี้ก็ต้องไปติดตามกันเองนะครับ

ฟอส รักต้องห้ามนะครับ เจ้านายกับเด็กฝึกงาน รักต้องแอบ รักต้องเปิดด้วยป่ะ

บุ๊ค ไม่ได้ ยังไม่ได้

บรรยายกาศการทำงานในกองเป็นอย่างไรบ้าง

ฟอส สนุกครับ สนุกมาก เหมือนไปเล่นแต่เราก็จริงจังกับงานด้วย บรรยายกาศกองมันดีมากๆ ด้วยความที่ ซีรีย์เป็นโรแมนติก คอมดี้ ก็เลยค่อนข้างดีมากๆ รู้สึกไปกองนี้สนุกจังเลย โอเคตื่นเช้าก็มีง่วงบ้าง แต่ไม่เป็นไรครับ มันสนุกครับ มันดี

บุ๊ค พี่นิว “นิว ศิวัจน์” ผู้กำกับ จริงหรอเขาตลกนะ พี่นิวขี้เล่นมากเลยนะเอาจริงๆ

ฟอส เขาชอบแย่ ชอบแกล้ง

บุ๊ค สนุก บุ๊คก็ชอบแกล้งกับพี่นิวตลอด ทีมงานเขาตลกทุกคน

ฟอส ผมจะค่อยสังเกตุการณ์ พี่นิวก็บอกเนี่ยฟอสมึงดูนะ เดี๋ยวกูจะแกล้งไอ้บุ๊ค บุ๊คเล่นๆอยู่พี่นิวก็ ว่าบุ๊คเล่นไรของมึงเนี่ย จริงๆคือผ่านแล้ว แต่แกล้งเล่น เล่นอะไรของมึงเนี่ย ไม่ได้ๆ ว้ายๆ แต่จริงๆคือผ่านแล้ว บุ๊คก็ตกใจว่าผ่านแล้วอ้อ เมื่อกี้พี่แกล้งผมอ้อ พี่นิวให้คำแนะนำดีมาก เป็นผู้กำกับที่ใจดีครับ ขอบคุณมากๆที่ค่อยปั้นพวกผม แนะนำหลายๆอย่าง ขอบคุณมากครับพี่นิว

ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง 
 บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล
ฟอส จิรัชพงศ์ – บุ๊ค กษิดิ์เดช

ความอยากง่ายของบท

ฟอส มันก็มีพาร์ทที่ยากนะครับ ยอมรับเลยว่าคิวแรกๆก็ใช้เวลาเหมือนกัน สำหรับผมก็ไม่นานเท่าไร พอได้ลองคุยมันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผมต้องเก็บลายละเอียดเยอะขึ้น คิดให้ละเอียดขึ้น เพราะผมก็ยังใหม่ แต่ในตอนนั้นผมทำสุดความสามารถผมแล้ว ก็ต้องมาดูผลงานตัวเองอีกทีและพัฒนาตัวเองต่อไป เพราะเราก็ต้องหาข้อที่มันสามารถนำมาปรับปรุงให้มันดีขึ้นกว่านี้ได้ ยากครับ ยากเหมือนกัน คือพี่นิวจะบอกเสมอว่า เหมือนผมตั้งแต่เวิร์กชอปแล้ว ว่าผมจะมีพาร์ทที่เหมือนกันต์อยู่แล้ว แต่ก็มีบางครั้งที่ผมเผลอใส่ตัวเองมาก แต่ก็ใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่ก็ยังไม่ได้ชะทีเดียวกลางๆ ครับคนที่มองเข้ามาก็จะเป็นยังงั้น แต่เพื่อนจะบอกว่ามันจะมีความเจ้ากีเจ้าการอยู่แล้ว บุ๊คก็จะบอกตลอด ว่าฟอสมึงเจ้ากีเจ้าการอยู่แล้ว เอ้าหรอวะ ก็คงมีแหละ ถ้าไม่มีเพื่อนก็คงไม่เห็น

บุ๊ค ตอนแรกยากครับ ยังที่บอกไปตอนแรกว่าบุ๊คเครียดมากว่าเราจะเป็นเชร์ได้ไหม หลังจากที่เราปลดล็อคตัวเอง ผมก็รู้สึกว่าเชร์ก็คือเรา ผมใช้คำนี้เลยตอนที่ผมจะบิ้วตัวเอง ผมจะเรียกตัวเองตลอดว่าเชร์ จนผมเชื่อว่าผมคือเชร์จริงๆครับ แล้วผมก็จะบอกกับทุกๆคนครับว่าผมคือเชร์ แล้วเชร์ก็คือผม เหมือนตอนนี้มันเข้าเส้นไปแล้ว หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าเชร์ก็คือเราเนี่ยแหละ หลังจากนั้นก็ง่ายแล้วครับ เหมือนเราจะเล่นอะไรก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ เหมือนไม่ต้องคีพคาแรคเตอร์อะไรเลยครับ

พูดถึงซีนโรแมนติกและฉาก NC

บุ๊ค จริงๆมันก็เป็นโรแมนติกปนคอมดี้ จะบอกว่าเป็นโรเมนติกก็ไม่ได้ เพราะว่ามันก็คงไม่ได้มีฉากถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนั้น ที่มีเพลงบรรเลงขึ้นมา

ฟอส มันมีความหวานชวนฟินอยู่ เพราะนี่คือซอกะเชร์คู่กันต์ A boss and a Babe รู้แค่ชื่อเรื่องยังไงก็ต้องฟินหมอนแตกอยู่แล้วครับ

บุ๊ค ต้องรอไปดูครับ ต้องรอดู มันจะมีจังหวะฉาบตีชั่ง พอนึกออกไหมครับ หวานๆอยู่แล้วก็ตีขึ้นมา

ฟอส ในตัวอย่างอาจจะดูรู้สึกเหมือนว่าเยอะใช่ไหมครับ ผมว่า 10% ได้ครับ คือในเรื่องจริงๆนี่มีอีกเยอะ

ต้องเล่นเบอร์ไหน

ฟอส มันตามฟิวเลยครับ รู้สึกอะไรก็เล่นไปอย่างนั้น จะไม่มีการคิดว่ามันน้อยไปหรือมากไป เพราะว่าเราอยู่กันแค่ความต้องการ และก็อยู่กับแค่เขาตรงหน้า

บุ๊ค จูบจริงครับ

ฟอส จูบจริง จูบจริงทุกเรื่องครับ ไม่มีปลอม ไม่มีสแตนอิน

บุ๊ค ขนาดกล้องไม่ได้รับหน้ายังจูบจริงเลย

ฟอส โนCG

บุ๊ค พี่นิวก็บอก ไอ้บุ๊คไม่ได้จูบจริง เอ้าแล้วไม่บอกละพี่

ฟอส เห็นแบบนี้เขาชอบลุกนะ ผมก็..อะเข้ามาบุ๊ค เข้ามา

บู๊ค พี่ผกก.ก็บอกไม่ต้องจูบกันจริงนะ แต่ถ่ายเสร็จแล้วนะ ไม่รู้ว่าพี่นิวตั้งใจหรืออะไร

ฟอส หัวใจมันเรียกร้อง

เขิลกันไหม

ฟอส จั๊กจี้ครับ

บุ๊ค แรกๆเขิล

ฟอส เหมือนอารมณ์ตอนนั้นที่อยู่ในซีนมันไม่อะไรครับ เพราะเราอยู่กับความต้องการอยู่กับสิ่งตรงหน้า พอเรามานึกถึงตอนนั้น เวลาคัตมันจั๊กจี้ ก็เขิล เขิลตลอดอยู่แล้ว เพราะเราก็ไม่ได้จูบกันตลอดเวลา มีครับถึงแม้ร่างกายเราจะเชื่อมกันแล้ว มันก็มีครับ มันไม่มีไม่ได้ ยังไงก็ต้องเขิลกันอยู่ดี แต่ปล่อยตามธรรมชาติเลย


บุ๊ค ธรรมชาติเลยครับ


ฟอส แต่ว่าก็มีบางซีนที่ผกก.เขาอยากได้ภาพแบบนี้ ขอมาร์คหน่อย ต้องการแบบนี้นะ อารมณ์แล้วแต่เลย แต่ภาพขอแบบนี้นะ ประมาณนั้น เพื่อภาพ

ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการสื่อสารอะไรกับคนดู

ฟอส ต้องการสื่อสารความสนุก อยากให้ทุกคนได้ดูและคลายเครียด เป็นช่วงเวลาดีก่อนนอน เพราะเวลาเราดีครับ 20.30 ดูจบ ทำอะไรเสร็จ พร้อมนอน กลับไปนอนหลับฝันดี ฝันถึงพวกเราได้นะครับ

บุ๊ค อาบน้ำก่อนดูซีรีส์ด้วยนะครับ มันจะทำให้สบายตัว ดูซีรีย์เสร็จก็เข้านอนเลย
จริงๆไม่อยากสปอยนะ ทุกตัวละครมีปมของตัวเองอยู่แล้ว เพราะว่าการที่จะมาเป็นตัวละครสักตัวหนึ่งมันต้องมีปมในชีวิตสักอย่างอยู่แล้ว

ฟอส ในแต่ละ EP ก็จะมีข้อคิดให้กับผู้ชมทางบ้านอยู่แล้ว เพราะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเราก็นำเสนออกไป ได้ข้อคิดแน่นอนครับ ผมรับรองว่ามันต้องติดเทรน ผมหมั่นใจ พี่นิวใส่มาให้แล้ว จัดเต็มครับ จะเป็นข้อคิดและประโยชน์ให้คนหลายๆคนที่ดูด้วย แต่ผมไม่สปอยนะ แต่ว่าได้ข้อคิดแน่นอน

ความคาดหวัง

ฟอส จะบอกว่าไม่คาดหวังมันก็ดูหลอก จริงๆก็คาดหวังครับ ก็อยากให้คนรักตัวละครเยอะๆ แต่พวกผมก็คิดนะครับ พวกผมก็ทำกันดีที่สุดแล้ว เต็มที่แล้ว หวังว่าทุกคนจะเปิดใจให้กับทุก ตัวละคร ที่จะได้เข้าไปนั่งในใจของพี่ๆทุกคนนะครับคือพอเราได้งานมา เราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้โอกาสแบบนี้อีกไหม ผมจะบอกบุ๊คเสมอเลยว่าเวลาเราได้งานมาให้คิดว่านี่คืองานสุดท้ายของเรานะเพื่อน ถ้ามึงไม่ทำวันนี้ให้มันเต็มที่ มึงจะเสียใจนะ เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เต็มที่ทุกอย่าง เหมือนเป็นงานสุดท้าย เพราะว่าเราไม่อยากให้เกิดความรู้สึกที่มานั่งเสียดายที่หลัง มีอะไรก็ใส่มาให้หมด แค่นั้นเอง เราจะได้ไม่ต้องติดใจ เสียใจอะไรแล้ว ต่อให้อนาคตมันจะเป็นยังไง เวลามองย้อนกลับมา เราเต็มที่แล้ว

บุ๊ค แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของเราด้วย เราก็ได้เรียนรู้มาจากเรื่องแรก ว่าเราน่าจะทำตรงนี้ให้ดีกว่านี้นะ ไปทำการบ้านตรงนี้นะ ไปดูพื้นหลังให้มากกว่านี้ พอเราได้รับโอกาสตรงนี้เรื่องเป็นเรื่องที่ 2 เราก็เอาข้อผิดพลาดตรงนั้นมาแก้ไข

ให้ฝากผลงาน

ฟอส ครับผมก็ฝากซีรรส์เรื่องชอกะเชร์คู่กันต์ A boss and a Babe ด้วยนะครับ ทุกวันศุกร์เวลา 20.30 ทางช่อง Gmm25 นะครับ และดูย้อนหลังได้ที่แอปพลิเคชั่น VIU นะครับ เวลา 22.30 นะครับ ส่วนใครที่ดูแล้วสนุกอย่าลืมติด #abossandababe ด้วยนะครับ ส่วนใครที่อยากติดตามพวกเรา ติดตามได้ทางไอจี และทวิตเตอร์ของเพจซีรีส์ของเรานะครับ ซอกะเชร์คู่กันต์ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ จะมีรูปเบื้องหลังน่ารักๆ ให้ได้ดูในเพจทวิตเตอร์นะครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ

บุ๊ค ชอบอะไรก็แสดงความคิดเห็นกันมาได้นะครับ ผมไปอ่านแน่นอนครับในทวิตเตอร์ ยังไงก็ฝากติดตามซีรีย์ของพวกเราด้วยนะครับ ซอกะเชร์คู่กัน A boss and a Babe ครับ

เสาหลักนักข่าวบันเทิงไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก