หลายปีที่ผ่านมา ในยุคที่มาตรวัดความสำเร็จของวงการเพลงไทยโยกย้ายมาอยู่ตรงโซเชียลมีเดียและการออกแสดงสด

สองวงดนตรีของ “คนวัยเก๋า” ที่ประคับประคองความนิยมของพวกตนเอาไว้ได้อย่างยั่งยืนจนน่าทึ่ง ก็คือ “วงนั่งเล่น” และ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band”

“สายลม” หนึ่งในเพลงระดับมาสเตอร์พีซของ “วงนั่งเล่น”

แต่เชื่อว่ากระทั่งถึงบัดนี้ แฟนเพลงหลายคนก็ยังคงแยกความแตกต่างของ “วงนั่งเล่น” และ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” ไม่ออก

ส่วนหนึ่ง คงเป็นเพราะภาพติดตาที่ “พี่ตุ่น พนเทพ สุวรรณะบุณย์” โปรดิวเซอร์-นักแต่งเพลงมากประสบการณ์ นั้นนั่งเล่นดนตรี (หรือเป็นแกนหลักในทางดนตรี) ให้แก่ทั้งสองวง

“รักฉันนั้นเพื่อเธอ” เพลงของ “พิงค์แพนเตอร์” ซึ่งเขียนคำร้องโดย “ชรัส เฟื่องอารมย์” ในเวอร์ชั่นสนุกสนานเฮฮาของ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band”

ยิ่งกว่านั้น สมาชิกของ “วงนั่งเล่น” อีกถึงสี่ราย ได้แก่ “เศกสิทธิ์ ฟูเกียรติสุทธิ์” (คีย์บอร์ด) “เกริกศักดิ์ ยุวะหงษ์” (เพอร์คัสชั่น-ประสานเสียง) “พรเทพ สุวรรณะบุณย์” (กลอง) และ “ศราวุธ ฤทธิ์นันท์” (เบส) ก็ยังมาเล่นดนตรีสนับสนุนให้แก่ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” ด้วย

เส้นแบ่งระหว่าง “วงนั่งเล่น” กับ “ดึกดำบรรพ์ฯ” จึงยิ่งดูพร่าเลือนมากขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลาง “จุดร่วม” หลายอย่าง “วงนั่งเล่น” กับ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” กลับมีโจทย์ในการทำงานที่แตกต่างจากกันค่อนข้างชัดเจน

คนที่อธิบายเรื่องนี้ไว้ได้ดีที่สุด เห็นจะเป็น “พี่ตุ่น พนเทพ”

พนเทพทำงานที่แกรมมี่จนเกษียณอายุ แต่ก่อนจะเปิดหมวกอำลาอุตสาหกรรมดนตรี เขาก็ได้พบกับความสนุกครั้งใหม่โดยบังเอิญ

เมื่อโปรดิวเซอร์อาวุโสไปเจอกีตาร์สายไนล่อนไม่ทราบเจ้าของถูกวางทิ้งไว้ในห้องอัดเสียง เขาจึงลองหยิบมันขึ้นมาบรรเลง ด้วยความรู้สึกว่า

“มันจับได้เต็มมือดี เพราะว่ามันไม่ใช่สายเหล็ก แล้วมันไม่ต้องกลัวสายขาด แล้วสายเอ็นมันจะไม่ค่อยเพี้ยน”

ความบังเอิญครั้งนั้นทำให้พนเทพหันกลับมาฟื้นฟูทักษะการเล่นกีตาร์ของตนเอง หลังร้างลาจากเครื่องดนตรีชนิดนี้นานนับทศวรรษ ตั้งแต่เขาต้องเปลี่ยนตำแหน่งไปเป็นมือคีย์บอร์ดของวง “แฟลช” และต่อมา พอได้ทำงานเป็นคนเบื้องหลังเต็มตัว คีย์บอร์ดก็ยิ่งกลายเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการผลิตผลงานเพลงในสตูดิโอมากกว่า

“ทะเล” ผลงานคลาสสิกของ “แฟลช และ ชรัส เฟื่องอารมย์”

พนเทพฝึกปรือฝีมือกับกีตาร์สายไนล่อนจนคล่องแคล่วอยู่คนเดียวที่บ้าน ก่อนจะคิดได้ว่าควรมีเพื่อนฝูงที่กิน-เที่ยวด้วยกันมาร่วมสนุกในกิจกรรมนี้

นั่นจึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง “วงนั่งเล่น” ซึ่งประกอบด้วยมิตรสหายคนดนตรีมากมายหลายหลากชีวิต-ประสบการณ์-ความถนัดเชี่ยวชาญ ได้แก่

“กมลศักดิ์ สุนทานนท์” (ร้องนำ) อดีตนักเขียนคำร้องมือวางอันดับต้นๆ ของแกรมมี่ “ปิติ ลิ้มเจริญ” (ร้องนำ-กีตาร์อะคูสติก) อีกหนึ่งนักแต่งคำร้องและทำนองฝีมือดี “เศกสิทธิ์ ฟูเกียรติสุทธิ์” (คีย์บอร์ด) มือแต่งทำนอง-เรียบเรียงที่ทำงานใน “ทีมพนเทพ” มายาวนาน

“อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา” (คีย์บอร์ด-เมโลดิก้า) อดีตหัวหน้าวงพลอยและคนเบื้องหลังค่ายแกรมมี่ “ณัฏฐ์ (เทิดไทย) ทองนาค” (กีตาร์ไฟฟ้า) อดีตสมาชิกวงพรรณนาและนักแต่งเพลงที่เคยทำงานกับทั้งแกรมมี่-อาร์เอส “เกริกศักดิ์ ยุวะหงษ์” (เพอร์คัสชั่น) อดีตศิลปินค่าย “โอ! มาย ก็อด” และนักร้องนำวงแฟลช “พรเทพ สุวรรณะบุณย์” (กลอง) มือกลอง-ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ผู้เป็นน้องชายของพนเทพ และ “ศราวุธ ฤทธิ์นันท์” (เบส) ซาวด์เอ็นจิเนียร์คู่ใจของพนเทพในตลอดหลายปีหลัง

น่าเหลือเชื่อว่าเพลงแต่งใหม่ (ในช่วงทศวรรษกว่าๆ ที่ผ่านมา) ของ “วงนั่งเล่น” อาทิ สายลม, ขอคนใจ๋ดีเป็นเพื่อนปี้สักคน, ดอกไม้ในที่ลับตา, อกหักให้มันเท่ๆ หน่อย และ Something Good ฯลฯ ล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงหลายรุ่น พิสูจน์จากยอดชมคลิปการแสดงสดเพลงเหล่านั้นในโซเชียลมีเดีย ที่ทะลุหลักล้านวิวอย่างสบายๆ

สำหรับพนเทพ จุดประสงค์หลักของ “วงนั่งเล่น” (ที่สมาชิกหลายรายอายุเกิน 60-70 ปี) ไม่ใช่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่คือการได้มีความสุขกับคนที่อยากจะมีความสุขด้วย การสื่อสารบทเพลงที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับวัยของตัวเอง เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ ให้กำลังใจ และกระตุ้นให้คนฟังสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเขาอาจมองข้ามไปในชีวิตประจำวัน

หรือที่กมลศักดิ์นิยามว่าเป็น “เพลงเพ่งชีวิต”

ขณะเดียวกัน พนเทพยังก่อตั้งวง “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” ร่วมกับเพื่อนเก่าแก่อย่าง “แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์” และ “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว”

ในแง่การรวมกลุ่มเล่นดนตรี โปรเจ็กต์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งหมดไปร่วมร้อง-เล่นเพลง “รักนิรันดร์” ที่เขาใหญ่ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558

ในแง่ชื่อเสียงเรียงนาม การเรียกขาน “แต๋ม-ปั่น” ว่าพวก “ดึกดำบรรพ์” นั้นหลุดออกมาจากปากพนเทพเมื่อครั้งคอนเสิร์ต “รักนิรันดร์” ปลายปี 2558 ก่อนจะได้รับเสียงเชียร์จาก “ธีร์ ไชยเดช” ศิลปินรุ่นน้อง และความเห็นชอบของชรัสกับไพบูลย์เกียรติ

ถึงปัจจุบัน “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” มีคอนเสิร์ตใหญ่และโชว์ย่อยๆ มาแล้วมากมายหลายครั้ง รวมทั้งมีคลิปการแสดงสด (ที่พวกเขามักเรียกว่า “การซ้อม”) ซึ่งเรียกยอดวิวจากผู้ชมคนฟังในโลกออนไลน์ได้ไม่น้อย

พนเทพยอมรับว่ายังมีคนจำนวนมากที่อาจสับสนสงสัยว่า “วงนั่งเล่น” และ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” นั้นแตกต่างกันอย่างไร?

คำตอบที่เขามีต่อคำถามข้างต้น ก็คือ

“จริงๆ แล้วเนื้อในมันต่างกันโดยชัดเจน คือ นั่งเล่น (ร้อง-เล่น) เพลงใหม่ เป็นเพลงใหม่ที่เราแต่ง ส่วนดึกดำบรรพ์ฯ ถ้าไปเล่นที่ไหน ยังไงคนเห็นหน้าปั่น ก็ต้องขอรักนิรันดร์ รักล้นใจ อะไรพวกนี้ แต่แทนที่ว่าเราจะเล่นเพลงเก่าในรูปแบบเดิม มันเหมือนกับเราไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาเลย (ก็) ทำให้มันดีหน่อย ก็เอาเพลงเก่าๆ ของพวกเรานี่แหละ มา (เรียบเรียง) ให้มันดูรู้สึกว่ามีอะไรที่คนดูเขาร่วมได้…

“โดยตัวชรัสกับปั่น ปกติก็เป็นนักร้องที่รับงานทั่วไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคืออาชีพเขาเลย เวลามาทำดึกดำบรรพ์ฯ ไปไหนก็เหมือนกับปกติ ก็คือว่าเป็นงานจ้างศิลปิน ด้วยตัวศิลปินเอง ด้วยตัวเพลง ไปเล่นที่ไหนคนเขาก็รู้จักอยู่แล้วแหละ เขาโอเค แฮปปี้ แต่อย่างนั่งเล่นเป็นเพลงที่สื่อสารเรื่องคอนเทนต์ เพราะฉะนั้น ก็เลยคิดว่านั่งเล่นเนี่ยขอเถอะ ถ้าจะเล่นงานไหน ขอให้เป็นที่ที่เราอยากไป แล้วเรารู้ว่ามีคนอยากฟัง ได้เงินไม่ได้เงินอีกเรื่องหนึ่ง”

อย่างไรก็ดี “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” ยังมีเพลงแต่งใหม่ของตัวเองอยู่บ้างเหมือนกัน เช่น เพลง “ไม่เดียงสา” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักแบบอารมณ์ดี เจือด้วยสีสันดนตรีที่แพรวพราวในแนว “ซิตี้ป๊อป”

นี่คือรายละเอียด ที่มา และแนวคิดเบื้องหลัง ที่ส่งผลให้ “วงนั่งเล่น” กับ “ดึกดำบรรพ์ Boy Band” ไม่ใช่วงดนตรีกลุ่มเดียวกัน

ข้อมูลจาก

กว่าจะเป็น…วงนั่งเล่นและดึกดำบรรพ์บอยแบนด์ “ทุกอย่างมีที่มา”

ความสุขที่แท้จริงในวัยเกษียณ ของ “ตุ่น พนเทพ” ผู้ก่อตั้งวงนั่งเล่น-ดึกดำบรรพ์บอยแบนด์

ชีวิตดนตรีหลายทศวรรษของ “พี่ตุ่น พนเทพ” จากยุคก่อนค่ายเพลง ถึง “วงนั่งเล่น-ดึกดำบรรพ์ฯ”

อ่านเรื่องราวเกี่ยวข้อง

เปิดเบื้องหลัง ทำไม “นักดนตรีระดับโลก” มาบันทึกเสียงให้ “มาลีวัลย์และชรัส”

“พี่ชายที่แสนดี” แรงบันดาลใจจาก “บาร์บรา สไตรแซนด์” และเนื้อร้องที่เกือบถูกปัดตก!

“หลับตา” เพลงรักโรแมนติกยุค 80-90 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดเศร้า

“เพียงแค่ใจเรารักกัน” เพลงรักอมตะที่เขียนเนื้อโดย “คนไม่เคยแต่งเพลงมาก่อน”!

เรื่องบันเทิงก็ยากและละเอียดลออได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก