เป็นซิงเกิ้ลมัมที่แกร่งจนหลายคนประทับใจ สำหรับ “แอนนี่ บรู๊ค” อดีตนักแสดงหญิงลูกครึ่งไทย-สวิสเซอร์แลนด์ ที่เคยมีผลงานเด่นในการรับบท เชอรี่แอน ดันแคน จากภาพยนตร์ เชอรี่ แอน
แม้ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงจะไม่ได้โด่งดัง จนส่งเธอไปถึงจุดที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ได้เหมือนคนอื่นๆ แต่ในปี พ.ศ. 2553 ชื่อของ แอนนี่ บรู๊ค กลับโด่งดังทุกหน้าแผงหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเว็บข่าว จากประเด็นข่าวที่เธอประกาศตั้งท้อง และดราม่าหนักเมื่อถูกตั้งข้อสงสัยว่าใครคือพ่อของลูก เพราะในตอนนั้นมีทั้งซุปตาร์ชื่อดัง นักแสดง และพิธีกร ที่ถูกกล่าวชื่อพัวพันเรื่องราวของ แอนนี่ บรู๊ค และมีหลายฝ่ายทำการสืบสาวราวเรื่องกันอยู่พักใหญ่
และท้ายที่สุดเรื่องราวและข้อเท็จจริง ก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับไว้อย่างนั้น
ประเด็นท้องก่อนแต่งของ แอนนี่ บรู๊ค ไม่เคยเลือนหายไปจากสังคมบางกลุ่ม และยาวนานมาจนถึงวันนี้ แม้ว่าเธอจะเดินหน้าใช้ชีวิตพร้อมกับลูกชาย “น้องฑีฆายุ” ที่เติบโตมาตามวัยและเป็นแก้วตาดวงใจที่ แอนนี่ บรู๊ค เฝ้าคอยทะนุถนอม
ล่าสุด แอนนี่ บรู๊ค ลุกขึ้นมาปกป้องลูกชายของเธอเป็นครั้งแรก เพราะทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นลูกชายถูกล้อเลียนเสียดสี จากต้นเหตุเรื่องราวของเธอในอดีตที่ผ่านมานานถึง 10 ปีแล้ว
แอนนี่ โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมของเธอ ระบุว่าเธอจะเดินทางไปขึ้นศาลอาญา รัชดา เป็นครั้งแรก สืบเนื่องจากมีเพจและคอมเมนท์ ขึ้นรูปน้องลูกชายของเธอและพูดพาดพิงถึงลูกชายในแง่ไม่ดี ซึ่งน้องยังเป็นเยาวชน ทำให้เกิดความเสียหายทั้งชื่อเสียงและจิตใจ
โดยเธอยืนยันว่า จะเดินหน้าฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พร้อมย้ำชัด ไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเพจหรือคอมเมนท์
แอนนี่ บรู๊ค คอนเมนต์ใต้โพสต์ของเธอเพิ่มเติม ระบุว่า ที่ผ่านมาใครจะทำอะไรก็ปล่อยไม่สนใจใช้ชีวิตและโฟกัสการเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด แต่ก็มักจะมีคนใจร้าย ซึ่งบางคนก็เป็นแม่ที่มีครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้าด้วยซ้ำที่ไม่เลิก และเพจที่น่ารังเกียจชอบซ้ำเติมแถมไม่พอขึ้นหน้าเด็กใส่ข้อความร้ายๆ ต่อเยาวชน ก็คงถึงเวลาแล้วจริงๆ ในโลกที่ไม่แยกแยะ และอยากเห็นคนอื่นทุกข์เพราะเสพติดความดราม่าในแบบผิดๆ
ล่าสุด แอนนี่ บรู๊ค เปิดใจครั้งแรกหลังฟ้องหมิ่นประมาทเพจและเกรียนคีย์บอร์ด พาดพิงลูกชายของเธอ ในรายการ “คุยแซ่บ Show” ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
“ว่าแอน แอนไม่เคยว่า ไม่เคยไปตอบโต้ ไม่เคยฟ้องใครเลย แต่มันพีคตรงที่มาว่าลูกเรา ลูกใครใครก็รัก มันเลยเป็นจุดที่ว่าถึงเวลาแล้วไหมที่เราต้องปกป้องลูกบ้าง ล้านๆ ข้อความที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจเลย แต่พอมาอันนี้เรารู้สึกว่าเราปล่อยปะละเลยจนเขารู้สึกสนุกมากเกินไป เราไม่ได้สนุกด้วยนะ บางทีเขาพูดถึงเรา เราไม่ได้ว่า แต่เขาโยงทุกอย่างเหมือนรู้ลูกเราไปซะหมดเลย ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใส่ชื่อลูกเรา แต่อ่านแล้วก็หมายถึงลูกเราทั้งหมด แล้วพอรวบรวมข้อความทั้งหมดที่คอมเมนต์ เหมือนลูกเราเป็นบางอย่างที่ไม่ดี คือแย่ที่เกิดมาเป็นลูกของเรา” แอนนี่ เปิดใจถึงสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจลุกขึ้นมาทำเพื่อลูกชายของเธอ
โดยเธอเล่าว่า ก่อนตัดสินใจฟ้อง ได้ปรึกษาลูกก่อนคนแรก “คนแรกคือลูก วันนั้นแอนไปรับลูกที่โรงเรียน ก็เปิดดูไปเรื่อย ๆ ก็เห็นคลิป ดารา 6 คนที่โกหกที่สุดในประเทศไทย แล้วมันมีเรา 1 ในนั้น แล้วก็มีรูปลูกของเราขึ้นมา มีถ้อยคำวาจาที่ไม่สุภาพ ไม่น่ารัก ไม่เป็นความจริง แล้วลูกก็ขึ้นรถมาพอดี เขาถามแม่ดูอะไรอยู่เราจะปิดเลยไม่ได้ เพราะเขาจะยิ่งอยากรู้ พอน้องดูเขาบอกว่า เขายังว่าแม่อยู่อีกหรอครับ เราก็รู้สึกข้างในนิดนึง”
สักพักหนึ่งเขาเห็นรูปตัวเอง เขาบอกว่าว่าแม่แล้วว่าผมด้วยหรอครับ แอนก็อึ้งนิดหนึ่ง เราก็บอกแม่ปิดแล้วนะ เขาก็หันมาถามว่าแม่โอเคไหม แม่เลยบอกว่าต้องถามว่าลูกโอเคหรือเปล่า เลยคุยกันว่ามันเกินไปอันนี้ แม่อาจจำเป็นต้องฟ้องเขานะ เพื่อให้เขาได้เป็นบทเรียน ถ้าแม้ฟ้องมันอาจจะมีข่าวเกิดขึ้นระหว่างทาง แต่ให้เชื่อเถอะว่าครั้งนี้แม่ทำเพื่อลูกนะ ใครว่าแม่ว่าได้นะแต่ใครว่าลูกแม่แม่ไม่ยอม เขาก็ครับ ๆ ผมเข้าใจ ผมเป็นกำลังใจให้แม่นะ เลยตัดสินใจเป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ด้วย
เรานอนไม่หลับมาเป็นอาทิตย์ วันก่อนขึ้นศาลก็ทบทวนว่าเราทำถูกต้องแล้ว เราส่งเขาขึ้นนอนแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมาอีก เขาถามเราว่า ยังไม่นอนอีกหรอแม่ ผมรู้นะว่าแม่กำลังทำอะไรอยู่ แม่ทำเพื่อผมอยู่ ที่ผ่านมาผมเห็นหมดว่าแม่ทำอะไรให้ผมบ้าง คืนนี้ผมไม่รู้ว่าผมจะนอนหลับไหม แม่รีบขึ้นมานอนนะครับ เขาเป็นห่วงเรามาก และรู้ด้วยว่าการกระทำครั้งนี้เราทำเพื่อเขา
แอนนี่กล่าวว่า จริงๆ แล้วเธอไม่อยากทำด้วยซ้ำ อยากให้เหมือนที่ผ่านมาเงียบไปซะ แต่พอครั้งหน้าเขาจะทำอีก เพราะดูเราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างอ่อนแอรังแกง่าย สิ่งที่อยากเก็บให้ลูกมากที่สุดคือเขาจะรู้ว่าวันหนึ่งแม่ไม่ได้ปล่อยผ่าน เราอยากทำบางสิ่งบางอย่างและลุกขึ้นสู้เพื่อเขาบ้าง
การลุกขึ้นมาสู้ของแอนนี่ บรู๊ค ในครั้งนี้ เธอยืนหยัดชัดเจนว่าลุกขึ้นมาในฐานะแม่ที่อยากปกป้องลูกให้ถึงที่สุด ท่ามกลางคนในสังคมที่ร่วมส่งกำลังใจและสนับสนุนให้เธอลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเธอเอง และลูกชายของเธออย่างถึงที่สุดจากเรื่องราวในครั้งนี้