ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคอนเสิร์ตศิลปิน ไอดอลเกาหลีหลายวงทยอยมามอบความสุขให้กับแฟนคลับชาวไทย หลังจากที่ห่างหายไปจากสถานการณ์โควิด-19 มานานนับ 3 ปี หนึ่งวงไอดอลที่กลับมาทำให้หัวใจแฟนคลับอิ่มฟูไปด้วยความคิดถึง นั่นก็คือ “SEVENTEEN” (เซเว่นทีน) ที่ประกอบด้วย 13 หนุ่ม “เอสคุปส์, จองฮัน, โจชัว, จุน, โฮชิ , วอนอู, อูจี, ดิเอท, มินกยู, โดคยอม, ซึงกวาน, เวอร์น่อน และดีโน่” วงบอยกรุ๊ปที่ขึ้นชื่อในการโปรดิวซ์ผลงานเพลงและคอนเทนต์ต่างๆ ด้วยตัวเอง จนทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นวงไอดอลกรุ๊ปชื่อดังอันดับต้นๆ ของวงการ K-POP กับการกลับมาตามคำเรียกร้องในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต “SEVENTEEN WORLD TOUR [BE THE SUN] – LIVE IN BANGKOK” เมื่อวันเสาร์ที่ 1 และอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี จัดโดย ไลฟ์ เนชั่น เทโร
BE THE SUN เป็นเวิลด์ทัวร์แรกในรอบ 3 ปี ของ 13 หนุ่มเซเว่นทีน หลังจากที่เคยมาจัดคอนเสิร์ตครั้งล่าสุด “SEVENTEEN WORLD TOUR ODE TO YOU IN BANGKOK” ในปี 2019 และต้องหยุดไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การกลับมาในครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาด้วยพลังความรักและความคิดถึงอย่างแท้จริง ทันทีที่การแสดงได้เริ่มขึ้น 13 หนุ่ม ออกมาปรากฎตัวต่อหน้ากะรัตไทย (กะรัต-ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับวง SEVENTEEN) ในเพลง “HOT” เพลงไตเติ้ลจากอัลบั้มที่ 4 “Face the Sun” ที่เต็มไปด้วยคาริสม่าความเท่และร้อนแรงสมชื่อเพลง รันยาวๆ ต่อด้วย “March” และ “Hit” จนกะรัตไทยแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
มาถึงช่วงแนะนำตัว ทั้ง 13 หนุ่มต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคิดถึงกะรัตชาวไทยและดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาทำการแสดงที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง พร้อมกับขอให้ทุกคนสนุกกันอย่างเต็มที่กับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่เพลง “Rock with You” ที่รีมิกซ์ดนตรีขึ้นมาใหม่ และ “2 Minus 1” จากคู่ดูโอ้เมกันบอย “โจชัวและเวอร์น่อน”
ต่อด้วยช่วงที่กะรัตรอคอยกับการแสดงในแต่ละยูนิต เริ่มจากยูนิตเพอร์ฟอร์แมนซ์ ของ 4 หนุ่ม “โฮชิ, จุน, ดิเอท และ ดีโน่” ในเพลง “Moonwalker” และ “Wave” โชว์การร้องการเต้นอันพลิ้วไหวและทรงพลังสมชื่อยูนิต ต่อเลยไม่มีพักกับยูนิตโวคอล “อูจี, จองฮัน, โจชัว, โดคยอม และ ซึงกวาน” ที่ออกมาโชว์เสียงร้องสุดไพเราะจับใจผ่านเพลง “Come to me” และ “Imperfect Love” โดยเฉพาะเพลงสุดท้ายที่ทั้ง 5 หนุ่ม ได้ชวนกะรัตมาร้องไปด้วยกัน และปิดท้ายกับยูนิตฮิปฮอป “เอสคุปส์,วอนอู, มินกยู และ เวอร์น่อน” ที่นำเอา “GAM3 BO1” และ “Back it up” ออกมาร้องและแร็ปให้เหล่ากะรัตไทยได้โยกจนสุดตัวไปตามๆ กัน
พักหายใจหายคอกันให้หายเหนื่อยจากความมันส์ในเพลงก่อนหน้า ทั้ง 13 หนุ่มก็กลับออกมาอีกครั้งด้วยเพลง “Mansae” เพลงไตเติ้ลจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 BOYS BE ต่อกันยาวๆ ด้วย “Left & Right”, “Very Nice”, “Shadow” , “Crush” จนมาถึง “World” เพลงไตเติ้ลจากอัลบั้มล่าสุด ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับภายในฮอลล์ได้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นครั้งแรกที่กะรัตไทยได้ชมการแสดงเพลงนี้ด้วยตาและหูตัวเอง
13 หนุ่มเซเว่นทีนยังไม่หยุดเสิร์ฟความสุขให้กะรัตไทย หลังพักไปเพียงไม่กี่นาทีหนุ่มๆ ออกมาอีกครั้งพร้อมกับเพลง “Darl+ing” เพลงภาษาอังกฤษเต็มเพลงเพลงแรกของเซเว่นทีน แถมยังเป็นเพลงที่ทั้ง 13 หนุ่มสร้างสรรค์ขึ้นจากเซสชั่นรีมิกซ์เพลง GarageBand ร่วมกับ Creative ของ Apple ให้ความรู้สึกฟีลกู๊ด ชวนให้ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การแสดงดำเนินมาจนถึงช่วงท้าย และเป็นช่วงที่ 13 หนุ่มเซเว่นทีน ได้เผยความในใจถึงกะรัตไทย และการกลับมาในครั้งนี้กันทีละคน
มินกยู: สวัสดีครับ มะม่วงครับ* วันนี้มีความสุขมากเลยครับเลยครับ หลังจากที่ไม่ได้กลับมาที่นี่นานมาก มีความทรงจำดีๆ เยอะมากเลยครับที่กรุงเทพ คิดถึงมากๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากๆ เลยนะครับ หวังว่าเจอกันครั้งหน้าเราจะได้เจอกันอย่างสุขภาพแข็งแรงดีนะครับ รักนะครับ (พูดไทย)
*มะม่วง ชื่อตัวละครในซิตคอมเรื่อง หลวงตามหาชน ที่มินกยูเคยร่วมแสดง
จองฮัน: สนุกมากเลยครับ ขอบคุณกะรัตทุกคนที่มาวันนี้มากๆ เลยนะครับ รู้สึกว่าได้ทำได้ดีมากเลยกับการได้มาเจอกะรัต แล้วก็มาที่กรุงเทพวันนี้ครับ ดีจังเลยครับ อยากมาอีกครับครั้งหน้า สนุกมากๆ เลย เจอกันใหม่นะครับ (พูดไทย) ขอบคุณครับ
โจชัว: วันนี้ทุกคนสนุกกับคอนเสิร์ตกันไหมครับ วันนี้ผมอยากให้ทุกคนลืมความทุกข์ที่เคยผ่านมา หลังจากดูคอนเสิร์ตวันนี้แล้ว พวกเราคิดถึงทุกคนมากเลยครับ วันนี้ผมรู้สึกว่าผมนึกออกแล้วว่าทำไมผมคิดถึงทุกคนมากเลย เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาแน่นอนครับ หวังว่าทุกคนจะรออีกนิดนึงนะครับ
วอนอู: วันนี้ก็ขอบคุณมากเลยนะครับที่มาอยู่ด้วยกันครับ รู้สึกสนุกมากเลยครับ แล้วก็วันนี้อยากให้ทุกคนคลายเครียด หายเครียดกลับไปเลยครับ GOOD (ยกนิ้วโป้งให้กะรัต) ครั้งหน้ามาใหม่ เราจะได้เจอกันในคอนเสิร์ตฮอลล์ที่มันใหญ่กว่านี้นะครับ ทุกคนครับมีสุขภาพที่ดีนะครับ แล้วก็อยากให้ทุกคนมีความสุขกันด้วยครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ
เอสคุปส์: สองวันที่ผ่านมาสนุกมากครับ ผมจะรู้สึกดีกว่าเดิมอีกครับถ้าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสำหรับกะรัตทุกคนเหมือนกันครับ อย่าบาดเจ็บ อย่าเป็นอะไรก่อนที่พวกเราจะได้เจอกันอีกครั้งนึงนะครับ พวกเราจะกลับไปเกาหลีและทำกิจกรรมแล้วจะคิดถึงทุกคนตลอดเหมือนกันครับ ถึงแม้ว่าพวกเราจะอยู่ห่างไกลกัน แต่ว่าอยากให้พวกเราเป็นกำลังใจให้กันและกันได้ครับ ขอบคุณครับ รักนะครับ (พูดไทย)
ดิเอท: วันนี้ทุกคนสนุกกันไหมครับ รู้สึกดีเลยครับถ้าได้ยินแบบนี้แล้ว ต่อไปยังมีอีกหลายครั้งเลยครับที่พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันครับ คิดถึงกันเสมอเลยนะครับ อยากให้พวกเรารักษาสุขภาพกันให้ดี แล้วก็สนุกกับทุกวันก่อนที่เราจะได้เจอกันอีกครั้งนึงนะครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ
โดคยอม: สนุกไหมครับ จริงหรอครับ ขอบคุณค้าบ (พูดไทย) รู้สึกมีความสุขมากเลยครับเพราะว่าสองวันที่ผ่านมาได้ใช้ช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขไปกับกะรัตทุกคนในกรุงเทพครับ รู้สึกว่าพวกเราได้ทำได้ดีมากเลยครับ ถึงแม้พวกเราจะอยู่ห่างไกลกันมากนะครับ แต่ก็ได้รับความรักถึงกันเสมอๆ ทำให้เราอยู่ได้กันมาจนถึงวันนี้เลยครับ พวกเราจะกลับมาอีกครั้งเพราะฉะนั้นจนกว่าจะถึงวันนั้นรักษาสุขภาพกันให้ดีนะครับ กินข้าวเยอะๆ นะครับ ประทับใจมากครับ (พูดไทย)
เวอร์น่อน: (ร้องเพลง Bangkok City) ขอบคุณนะครับที่ทุกคนสนุกไปด้วยกันครับ รู้สึกว่าได้รับพลังจากทุกคนไปเยอะมากเลยครับวันนี้ ขอบคุณนะครับที่ทำให้พวกเรามีความสุขครับ หวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพที่ดีจนกว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกครั้งนึงนะครับ ขอบคุณครับ รักนะครับ (พูดไทย)
จุน: รู้สึกว่าตอนที่เล่นคอนเสิร์ตแล้วมองดูทุกคน นึกถึงข้าวเหนียวมะม่วงอีกแล้วครับ เพราะว่าทุกคนที่ไทยได้กินขนมหวานๆ แบบนี้ทุกวัน ก็เลยหวานกันแบบนี้หรือเปล่าครับ ขอบคุณกะรัตทุกคนที่มากันวันนี้นะครับ หวังว่าครั้งหน้าที่มาจะได้เจอกับทุกคน ได้กินอาหารอร่อยๆ แล้วก็มีเวทีที่สนุกกับทุกคนแบบนี้ครับ ไว้เจอกันครั้งหน้านะครับ
ซึงกวาน: ผมอาจจะเมนต์หวานๆ เหมือนพี่จุนไม่ได้นะครับ สำหรับผม รักนะจุ๊บๆ นะครับ (พูดไทย) เราได้มีคอนเสิร์ตสองวันที่กรุงเทพหลังจากที่ไม่ได้มากันนานเลยนะครับ ขอบคุณมากเลยนะครับที่สร้างความทรงจำที่มีค่ามากๆ ให้กับพวกเราครับ ทุกคนน่ารักแล้วก็มีเอนเนอจี้ดีมากเลยครับ รู้สึกว่ารู้สึกดีมากเลยครับระหว่างที่ทำคอนเสิร์ตวันนี้ ครั้งหน้าเรามาสนุกกันยิ่งกว่าเดิมอีกนะครับ เจอกันใหม่นะครับ (พูดไทย)
อูจี: (พูดไทย) ขอบคุณครับ, รักนะครับ, คิดถึงกันไหมครับ, เจอกันใหม่นะครับ, ประทับใจมากครับ, อูรักครับ
ดีโน่: ขอบคุณมากเลยนะครับ เพราะว่าทุกคนสนุกกันเต็มที่ด้วยกันมากเลย รักนะครับ กะรัตทุกคนที่ให้ความรักกับพวกเราที่อยู่ที่นี่ ทุกคนยังยินดีต้อนรับพวกเราเสมอไม่ว่าจะผ่านไปหนึ่งปีหรือว่าสามปี ตอนที่เราไม่ได้มา รู้สึกขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ผมและพวกเราจะตอบแทนให้กับทุกคนด้วยการเต้นและร้องเพลงนะครับ มากกว่าคำพูดอีกครับ เจอกันใหม่นะครับ กะรัตที่พวกเรารู้สึกขอบคุณมากๆ เลยครับ เจอกันใหม่นะครับ (พูดไทย)
โฮชิ: โฮรักนะครับ (พูดไทย) ขอบคุณนะครับแม้ว่าพวกเราจะอยู่ไกลกันแต่ทุกคนก็ให้ความรักที่ร้อนแรงกับพวกผมมากเลย คิดถึงมากๆ จริงๆ ครับ หวังว่าต่อไปพวกเราจะได้เจอกันอีกบ่อยๆ เลยนะครับ ต่อไปก็ขอฝากด้วยนะครับ
ส่งท้ายปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย 3 เพลงฮอต “Our dawn is hotter than day”, “Snap Shoot” และ “Very Nice” กันอีกรอบแบบนอนสต็อป แถมงานนี้หนุ่มๆ ยังลงจากเวทีมาชวนกะรัตเต้นและร้องเพลงไปด้วยกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
การกลับมาของ 13 หนุ่มเซเว่นทีนในครั้งนี้ กะรัตชาวไทยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น 3 ชั่วโมงเต็มที่ “คุ้มค่า” สมการรอคอยในทุกวินาที ทั้งการโชว์ การร้องและเต้น ที่ 13 หนุ่มทุ่มสุดตัวเพื่อกะรัตชาวไทย ถือเป็นสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกัน รวมถึงได้รับพลังงานดีๆ กลับไปทั้งตัวศิลปินและแฟนคลับอย่างแท้จริง !
สำหรับ SEVENTEEN เป็นบอยกรุ๊ปไอดอลมากความสามารถ จากค่าย Pledis Entertainment เดบิวต์เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2015 ได้ชื่อว่าเป็นวงที่ Self-Producing Groups หรือวงที่ผลิตผลงานด้วยตัวเอง โดยมี “อูจี” ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของวง และสมาชิกในวงร่วมด้วยช่วยกันทำเพลง เขียนเนื้อแร๊ป ตลอดจนมีส่วนในการออกแบบท่าเต้นด้วยตัวเอง
เซเว่นทีนมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 13 คน แบ่งเป็น 3 ยูนิต นั่นก็คือ ฮิปฮอป (เอสคุปส์, วอนอู, มินกยู และ เวอร์น่อน) โวคอล (อูจี, จองฮัน, โจชัว, โดคยอม และ ซึงกวาน) และยูนิตสุดท้าย เพอร์ฟอร์แมนซ์ (โฮชิ, จุน, ดิเอท และดีโน่) ถือเป็นวงไอดอลที่ทำยอดขายได้มากกว่า 2 ล้านชุดในสัปดาห์เดียว จากอัลบั้มที่ 4 “Face the Sun” ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นับเป็นศิลปินกลุ่มที่สองในประวัติศาสตร์ K-POP ที่มียอดขายสัปดาห์แรกมากกว่า 2 ล้านชุด รองจาก “BTS” และยังเป็นวงไอดอลชายในระดับแถวหน้าของวงการ K-POP ในตอนนี้อีกด้วย