ได้ยินชื่อมานาน สำหรับ “วิทยาลัยดุสิตธานี” ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นทางด้านการอาหารและการโรงแรม
ไม่เฉพาะแต่นักเรียนนักศึกษา ที่เข้าเรียนอย่างเป็นระบบ ตามหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท แต่ที่วิทยาลัยแห่งนี้ยังมีหลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้สนใจทั่วไป ไม่ว่าจะเรียนเพื่อต้องการความรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน หรือมีพื้นฐานอยู่แล้วและต้องการต่อยอดให้โปรเฟสชันนอลขึ้นไปอีก รวมถึงเรียนเพื่อนำไปเป็นงานอดิเรก ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งทำงาน คนวัยทำงาน หรือคนวัยเกษียณเอง ก็ต้องการงานอดิเรกเก๋ๆ เรียนเพื่อนำไปใช้ชีวิตประจำวัน หรือเพื่อการเข้าสังคม
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เขียนเคยได้ยินคนที่ฝึกการทำขนมอบหรือเบเกอรี่ต่างๆ บอกว่า เป็นงานอดิเรกที่ดีมาก เป็นการฝึกจิต ฝึกสมาธิ คลายเครียด ลดอาการซึมเศร้าลงได้เลย
มาถึงตรงนี้ ยิ่งน่าสนใจ เพราะว่า “วิทยาลัยดุสิตธานี” ก็มีหลักสูตรระยะสั้นให้เลือกเรียนมากมาย ตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียนว่าจะนำไปปรับใช้อย่างไร
เรียนไปต่อยอดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ
เมื่อไม่นาน ผู้เขียนได้รับเชิญไปร่วมงาน เนื่องในโอกาสที่วิทยาลัยดุสิตธานี ครบรอบ 30 ปีในปีนี้ และบังเอิญได้พบกับนักศึกษาท่านหนึ่ง กำลังแกะสลักแคนตาลูป
เมื่อเข้าไปพูดคุย ได้ความว่า ชื่อคุณศุภกฤษ หมื่นชำนาญ อายุ 31 ปี
คุณศุภกฤษ เรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว 1 ใบทางด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และมาเรียนต่อในระดับปริญญาตรีอีก 1 ใบ ที่วิทยาลัยดุสิตธานีแห่งนี้ ในระดับปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปี ในสาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร ทั้งนี้เพื่อต้องการนำความรู้ไปต่อยอด ปรับใช้ที่ร้านอาหารของครอบครัว ที่ประเทศเยอรมนี
โดยความรู้ที่ได้จากที่นี่คือทั้งอาหารไทย การแกะสลัก รวมทั้งอาหารตะวันตก ฯลฯ โดยเจ้าตัวบอกว่า “ที่นี่สอนพื้นฐานทุกอย่างเลย จากนั้นค่อยเจาะจงเอาว่าจะเรียนเฉพาะด้านไปทางด้านใด”
และการที่คุณศุภกฤษ เรียนการแกะสลักไปนี้ก็มุ่งหวังว่าจะได้นำไปใช้ในร้านอาหารไทยที่ประเทศเยอรมนีอย่างแน่นอน
Mocktail & Cocktail งานอดิเรกหรือทำเป็นอาชีพ
อีกเซ็คชั่นหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้เข้าไปพูดคุยด้วยนั่นคือ อาจารย์ไม้ซุง หรืออาจารย์วรท พานิชวิทย์ พิณแพทย์ อาจารย์ประจำสาขาการจัดการโรงแรม วิทยาลัยดุสิตธานี ผู้สอน การทำเครื่องดื่ม Mocktail & Cocktail หรือการมุ่งไปสู่การเป็นบาร์เทนเดอร์นั่นเอง
อาจารย์ไม้ซุง บอกว่าเครื่องดื่มประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีรสชาติหวานดื่มง่าย แต่ก็เป็นดาบสองคม เพราะมันไม่ขม ดื่มไปได้เรื่อยๆ ผู้ดื่มก็ต้องระมัดระวัง รวมทั้งปริมาณน้ำตาลสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมเรื่องน้ำตาลด้วยและสำหรับการทำ เครื่องดื่ม Mocktail & Cocktail ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เรียนไปเพื่อเป็นงานอดิเรก
ส่วนระยะเวลาเรียน อาจารย์ไม้ซุง บอกว่าแค่สัปดาห์เดียวก็สามารถทำได้แล้ว แต่ถ้าให้อยู่ในระดับเชี่ยวชาญ อย่างน้อยก็ต้องสัก 1-2 เดือน เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้มีทั้งสูตรตายตัว และสูตรที่ผู้เรียนทำไปเรื่อยๆ แล้วควรสร้างสรรค์เมนูขึ้นเองด้วย เพื่อเป็นซิกเนเจอร์ของตัวเอง
การเรียนเริ่มต้นจะต้องเรียนรู้เรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ รู้จักประเภทของแอลกอฮอล์ โดยอาจารย์ไม้ซุง แบ่งแอลกอฮอล์เป็นกลุ่มหมัก หรือน้ำขุ่น เช่นเบียร์ ไวน์ และกลุ่มกลั่น คือน้ำใสๆ เช่นวิสกี้ ยิน เตกิล่า รัม เป็นต้น
สำหรับเครื่องดื่มคอกเทลตัวพื้นฐานที่ผู้เรียนควรรู้จัก ได้แก่ โมจิโต้ มาการิต้า SINGAPORE SLING ไหมไทย ยินโทนิค ซึ่งเป็นตัวเบสิคที่ยังไงลูกค้าก็ต้องสั่ง แต่ถ้าสามารถสร้างสรรค์สูตรอะไรใหม่ๆ เจ๋งๆ ก็จะเพิ่มตลาดได้
สำหรับการเรียนการสอนที่วิทยาลัยดุสิตธานี มีหลักสูตรระยะสั้นซึ่งเป็นระดับแอดวานซ์ นำไปปรับเป็นงานอดิเรก หรือนำไปทำประจำร้านสร้างเป็นอาชีพได้เลย
ครบรอบ 30 ปี วิทยาลัยดุสิตธานี
อ่านมาถึงตรงนี้ เรามาทำความรู้จักกับวิทยาลัยแห่งนี้ให้มากขึ้นอีกนิด
เมื่อปี พ.ศ. 2536 คือปีที่เริ่มเปิดดำเนินการในชื่อ “โรงเรียนการโรงแรมดุสิตธานี” โดย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานกรรมการบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และต่อมาในปี พ.ศ. 2539 โรงเรียนการโรงแรมดุสิตธานีได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้มีฐานะเป็นวิทยาลัยเปิดสอนระดับปริญญาตรี
ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และหลักสูตรอบรมระยะสั้น ใน 1 วิทยาเขตและ 1 ศูนย์การศึกษา คือวิทยาเขตกรุงเทพมหานคร (ริมถนนพัฒนาการ 49 ติดห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ และศูนย์การศึกษาเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี)
คุณฟราวเกอะ เกอร์เบนส์ อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันเปิดทำการเรียนการสอนมายาวนานครบ 30 ปีเต็มในปีนี้ โดยถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่สอนทางด้านธุรกิจบริการโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาวิทยาลัยได้พัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท โดยระดับปริญญาตรีมีทั้งหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ ครอบคลุมสาขาวิชาเกี่ยวกับการจัดการโรงแรมและศิลปะการประกอบอาหาร ส่วนปริญญาโทเป็นหลักสูตร MBA บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต รวมทั้งคอร์สสั้นสำหรับบุคคลทั่วไป และล่าสุดเพิ่งเปิด Dusit Hospitality Academy (DHA) ซึ่งเป็นหลักสูตร 3, 6 หรือ 9 เดือนที่มีความยืดหยุ่นและถูกออกแบบมาสำหรับบ่มเพาะความเป็นมืออาชีพให้แก่ผู้เริ่มต้นอาชีพ ผู้ที่อยากเปลี่ยนอาชีพ และผู้ที่อยากเติบโตก้าวหน้าในธุรกิจบริการโดยเฉพาะ
รายละเอียดเพิ่มเติม ที่ https://dtc.ac.th/